นฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า บอร์ด กกพ. มีติให้คงอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) ของเดือนกันยายนถึงธันวาคม 2562 จำนวน -11.60 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.6396 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และไม่เปลี่ยนแปลงจากงวดก่อน
โดยค่าเอฟทีมีทั้งค่าได้ทั้งเป็นบวกและลบ เปลี่ยนแปลงตามต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละช่วงเวลา เกิดจากการปรับค่าไฟฟ้าฐานตามวาระ ซึ่ง กกพ. จะพิจารณาปรับทุก 3-5 ปี รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของค่าเชื้อเพลิงที่ใช้ผลิตไฟฟ้าและค่าซื้อไฟฟ้าที่เกิดขึ้นหลังการปรับค่าไฟฟ้าฐานไปแล้ว
สาเหตุที่ กกพ. ให้คงค่าเอฟทีต่อไปอีก 4 เดือน เนื่องจากไม่ต้องการให้ปัจจัยค่าไฟฟ้ามากระทบต่ออุปสงค์ภายในประเทศ ซึ่งอาจจะเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยในช่วงที่ภาวะการส่งออกของประเทศชะลอตัวลงจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของภาวะการค้าโลก คาดว่าจะใช้เงินประมาณ 9 พันล้านบาทเพื่อดำเนินการบริหารจัดการ
ค่าเอฟทีส่วนหนึ่งนำเงินมาจากการกำกับประสิทธิภาพการดำเนินงานของการไฟฟ้าในปี 2561 จำนวนประมาณ 3 พันล้านบาท และในส่วนที่เหลือประมาณ 6 พันล้านบาท จะเป็นความร่วมมือกันระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายเพื่อช่วยรับต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ปรับสูงแทนประชาชนไปชั่วคราวก่อน
กกพ. คาดว่าความต้องการพลังงานไฟฟ้าในช่วง 4 เดือนดังกล่าวมีประมาณ 6.44 หมื่นล้านหน่วย ปรับตัวลดลงจากช่วงเดือน พ.ค.-ส.ค. เกือบ 4 พันล้านหน่วย คิดเป็น 5.8% ตามสภาพความต้องการไฟฟ้าที่ลดลง เนื่องจากเข้าสู่ฤดูหนาวในช่วงปลายปี ขณะที่สัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้าจะยังคงใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก 55.78% รองลงมาเป็นการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ 18.91% ลิกไนต์ 8.79% และถ่านหินนำเข้า 7.93% ตามลำดับ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)