วันนี้ (13 มีนาคม) ดร.บุญทา ชัยเลิศ ประธานบริหารปางช้างแม่แตง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า วันที่ 13 มีนาคมของทุกปี ถือว่าเป็นวันช้างไทย ในปีนี้ปางช้างแม่แตงเล็งเห็นถึงความสำคัญของวันช้างไทย จึงได้จัดกิจกรรมเลี้ยง ‘ขันโตกช้าง’ เพื่อระลึกถึงช้าง เพราะเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง โดยในวันนี้ได้เตรียมผลไม้ เช่น สับปะรด, แตงโม, กล้วย, อ้อย และหญ้า จำนวนกว่า 5,000 กิโลกรัม มาเลี้ยงช้าง สำหรับคุณภาพชีวิตของช้างไทยหลังเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด ทางปางช้างยังคงดูแลช้างอย่างต่อเนื่อง และยังถือว่าเป็นช่วงที่ช้างได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยว ช้างจึงไม่ต้องทำงาน โดยช้างส่วนใหญ่จะอยู่โรงเลี้ยงเป็นหลัก
สำหรับผู้ประกอบการปางช้างหรือธุรกิจการท่องเที่ยวคาดหวังว่า การท่องเที่ยวจะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง แต่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยว เพราะหากรัฐบาลยังดำเนินนโยบายปิดประเทศ ไม่ยอมเปิดประเทศ นักท่องเที่ยวก็ไม่สามารถเดินทางเข้ามายังประเทศไทยได้ อย่ามองว่าการท่องเที่ยวของไทยอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตเพียงแห่งเดียวเท่านั้น เพราะยังมีจังหวัดอื่นๆ ที่ต้องการฟื้นฟูการท่องเที่ยวเช่นกัน
“อยากวิงวอนไปยังนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรี และประธานสภา ที่มุ่งให้ความสำคัญเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ แต่อยากให้เห็นใจภาคการท่องเที่ยวในทุกพื้นที่ของประเทศ สนับสนุนให้มีสายการบินจากต่างประเทศสามารถบินตรงเข้าไปยังภูมิภาคต่างๆ ในส่วนของผู้ประกอบการปางช้างอยากเรียกร้องให้เปิดประเทศโดยเร็ว จะช่วยให้ช้างอยู่รอดได้” ดร.บุญทา กล่าว
อย่างไรก็ตาม ดร.บุญทา บอกว่า ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด รายได้จากการท่องเที่ยวปางช้างทั่วประเทศมีมูลค่าสูงถึงกว่า 6,000 ล้านบาท แต่หลังจากเกิดการระบาดทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศไทย ทำให้ปางช้างไม่มีรายได้ อีกทั้งปางช้างก็ยังมีค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงช้างเป็นจำนวนมาก หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้จะไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุน และเชื่อว่าปางช้างในประเทศไทยไม่เหลือรอดอย่างแน่นอน
เรื่อง / ภาพ: พงศ์มนัส ทาศิริ