ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส กล่าวกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีนว่า เขาหวังว่าสีจิ้นผิงจะช่วยทำให้รัสเซีย ‘กลับมาพิจารณาอย่างมีเหตุผล’ ต่อสงครามในยูเครน และเข้ามามีบทบาทในการช่วยยุติความขัดแย้งที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้
ผู้นำฝรั่งเศสได้เดินทางเยือนจีนตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 เมษายน ก่อนที่จะได้เข้าพบกับสีจิ้นผิงวานนี้ (6 เมษายน) โดยมาครงกล่าวว่า รัสเซียทำให้ความสงบสุขในยุโรปที่มีมายาวนานหลายสิบปีต้องสิ้นสุดลง พร้อมกล่าวกับสีจิ้นผิงว่า “ผมรู้ว่าผมสามารถพึ่งพาคุณเพื่อดึงสติให้รัสเซียกลับมาพิจารณาสิ่งต่างๆ อย่างมีเหตุผล และทำให้ทุกฝ่ายกลับสู่โต๊ะเจรจาได้”
ด้านสีจิ้นผิงกล่าวว่า จีนและฝรั่งเศสต่างมี ‘ศักยภาพและความรับผิดชอบ’ ในการปกป้องสันติภาพโลก และกล่าวด้วยว่า เขาพร้อมที่จะต่อสายหารือประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนในช่วงเวลาที่เหมาะสม
ในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน สีจิ้นผิงกล่าวว่า “จีนสนับสนุนการเจรจาสันติภาพและแสวงหาทางออกทางการเมือง” พร้อมเรียกร้องให้ประชาคมโลกอดทนอดกลั้นอย่างมีเหตุผล นอกจากนี้สีจิ้นผิงยังย้ำเช่นเดิมว่า ทุกฝ่ายจะต้องไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ในสงครามที่เกิดขึ้น
ในการพบปะกันครั้งนี้ ประเด็นหลักที่มาครงหยิบยกมาหารือคือเรื่องของสงครามยูเครน ซึ่งเขาหวังว่าการหารือกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงจะช่วยเปลี่ยนสถานการณ์สู้รบในยูเครนได้ ควบคู่ไปกับการพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้ากับปักกิ่ง โดยในทริปเยือนจีนครั้งนี้ มาครงได้นำทัพคณะผู้แทนซึ่งเป็นผู้นำทางธุรกิจกว่า 60 คนไปยังกรุงปักกิ่ง รวมถึงผู้บริหารของ Airbus และ EDF ซึ่งผู้ประกอบการหลายเจ้าหวังที่จะได้ลงนามในสัญญาทางธุรกิจฉบับใหม่ๆ และปรับความสัมพันธ์ทางการค้าที่เคยชะลอตัวลงในช่วงที่โควิดระบาด
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จีนได้วางตัวเป็นกลางท่ามกลางความขัดแย้ง และพยายามสร้างภาพลักษณ์ในฐานะผู้ที่เป็นคนกลางในการสร้างสันติภาพให้กับโลก แต่ถึงเช่นนั้น จีนก็ปฏิเสธที่จะประณามสงครามที่เกิดขึ้นในยูเครนมาโดยตลอด อีกทั้งยังมีการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการทูตกับรัสเซียในช่วงปีที่ผ่านมา ขณะที่ในเดือนที่แล้ว สีจิ้นผิงยังได้เดินทางเยือนรัสเซียด้วยตัวเองด้วย
อ้างอิง: