กลุ่มบริษัทแฟชั่นลักชัวรีอันดับหนึ่งของโลกอย่าง LVMH ได้ประกาศตั้งเป้าลดการใช้น้ำในการทำธุรกิจให้ได้ 30% ภายในปี 2030 หลังฝรั่งเศสกำลังเผชิญกับภัยแล้งอย่างหนัก
Hélène Valade ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาด้านความยั่งยืนของ LVMH ได้กล่าวกับเว็บไซต์ WWD ว่า “ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา การลดการใช้น้ำเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของบริษัท เพื่อปรับตัวกับทรัพยากรที่มีจำกัด ทางบริษัทได้ตั้งเป้าหมายในการควบคุมการใช้ทรัพยากรตลอดทั้งสายพาน”
ซึ่งเป้าหมายนี้ดูจะไม่ไกลเกินเอื้อม เนื่องจากหลายแบรนด์ใน LVMH ได้ลดการใช้น้ำในการผลิตอย่างเป็นรูปธรรม ตั้งแต่แบรนด์หรูอย่าง Loro Piana ที่นำเครื่องรีไซเคิลน้ำมาใช้ในการผลิตแคชเมียร์และสิ่งทอที่โรงงานในอิตาลี ซึ่งสามารถลดการใช้น้ำได้ 25%
เช่นเดียวกับฝั่งสุรา อีกหนึ่งธุรกิจสำคัญใน LVMH นอกเหนือจากแฟชั่น ที่ใช้นวัตกรรมการกลั่นสุราและระบบทำความเย็นวงจรปิดที่ใช้น้ำน้อยลง 26% ในช่วงปี 2019-2022
สภาพอากาศเฉพาะภายในฝรั่งเศส อันเป็นที่ตั้งของฐานการผลิตสินค้าของหลายแบรนด์ในเครือดูท่าจะไม่ค่อยสู้ดี เพราะตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางการฝรั่งเศสได้ประกาศเตือนภัยแล้งครั้งใหญ่หลังเจอกับฤดูหนาวที่แล้งที่สุดนับตั้งแต่ปี 1959 และในปี 2022 เป็นปีที่ร้อนที่สุดนับตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลมาตั้งแต่ปี 1900 โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยที่ 14.5 องศาเซลเซียส และบางพื้นที่อุณหภูมิสูงสุดทะลุ 40 องศาเซลเซียส
ภาพ: Giovanni Giannoni / WWD via Getty Images
อ้างอิง: