แม้อยู่ในภาวะราคาตกมาหลายปี แต่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ราคาของนาฬิกาหรูมือสองก็มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยในเดือนกันยายน Patek Philippe ทำราคาเพิ่มขึ้น 0.9% ตามข้อมูลที่รวบรวมโดย Subdial แพลตฟอร์มการซื้อขายนาฬิกาของอังกฤษ ส่วนล่าสุดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา งานประมูลนาฬิกาที่กรุงเจนีวาก็ทำลายสถิติโลกถึง 4 รายการ โดย 27% ของนาฬิกาที่นำมาประมูลทำราคาได้มากกว่าราคาที่ประมาณการไว้ รวมรายได้แล้วสูงถึง 22.9 ล้านดอลลาร์
นาฬิกาที่ทำราคาทำลายสถิติโลกมาจาก Patek Philippe 2 รุ่น ได้แก่ Patek Philippe Ref. 1563 นาฬิกาโครโนกราฟสีทองพร้อมตัวเลข Breguet ทำเงินไปได้ 3.8 ล้านดอลลาร์ หรือราว 131.7 ล้านบาท อีกเรือนคือ Patek Philippe Ref. 2499 Black Dial ทุบราคา 2.6 ล้านดอลลาร์ หรือราว 90.1 ล้านบาท นาฬิการุ่นนี้เป็น 1 ใน 6 เรือนที่ตัวเรือนเป็นสีทองและมีหน้าปัดสีดำ
ขณะที่ Cartier London Tank ‘Oblique’ ได้รับการประมูลไปในราคา 190,920 ดอลลาร์ หรือราว 6.6 ล้านบาท ตัวเรือนเป็นทองคำ ผลิตในช่วงปี 1970 โดดเด่นด้วยรายละเอียดคือความเพรียวบาง และปิดท้ายด้วย Rolex Reference 3612 ’50 Pesos มูลค่า 95,460 ดอลลาร์ หรือราว 3.3 ล้านบาท โดยทำขึ้นเพื่อรำลึกถึงการครบรอบ 150 ปีของสนธิสัญญากอร์โดบา ตัวเรือนขนาด 39 มิลลิเมตร มีรูปร่างเหมือนเหรียญทองคำ 50 เปโซ
นอกจากการทำลายสถิติโลกแล้ว ยอดขายจากการประมูลที่เจนีวาในครั้งนี้ยังชี้ไปในทิศทางเชิงบวกของตลาดอีกด้วย โดยยอดขายส่วนใหญ่มาจากยุโรปที่ 34% ส่วนสหรัฐอเมริกาและเอเชียอยู่ที่ 19% และอีกประเด็นที่น่าสนใจคือผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นนักสะสมอายุน้อย โดยกว่า 62% มีอายุต่ำกว่า 50 ปี และ 32% มีอายุต่ำกว่า 40 ปี สอดรับกับผลงานวิจัยของ Watchfinder & Co. ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกามือสองที่มองว่าคนรุ่นใหม่กำลังมีอิทธิพลต่อตลาดนาฬิกาหรูอย่างมีนัยสำคัญ
Watchfinder & Co. รวบรวมพฤติกรรมการซื้อของกลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี 1997-2012 ในสหราชอาณาจักร ได้ข้อมูลว่าคนรุ่นนี้ใช้จ่ายกับนาฬิกาหรูมากกว่าคนในช่วงวัยอื่น โดย 10% เป็นเจ้าของนาฬิกาหรูที่มีมูลค่าระหว่าง 1,000-7,500 ปอนด์ หรือราว 43,000-328,000 บาท ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด 2% และ 15% เริ่มสร้างพอร์ตโฟลิโอนาฬิกาของตัวเองแล้ว
นอกจากนี้ คนกลุ่มนี้ยังมีมุมมองในแง่บวกต่อการสะสมนาฬิกาด้านการลงทุน โดย 45% ของผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี มองว่านาฬิกาหรูเป็นการลงทุนที่ดี เกินครึ่ง (51%) มองว่าการเอาเงินไปทำกำไรจากนาฬิกาจะเป็นหนึ่งในแรงผลักดันให้พวกเขาหันมาสะสมนาฬิกา
ส่วนแบรนด์ในดวงใจ ได้แก่ แชมป์เก่าอย่าง Rolex 58%, OMEGA 44%, TAG Heuer 39% และ Cartier 29%
Patek Philippe Ref. 1563 ราคาประมาณ 131.7 ล้านบาท
นาฬิกาข้อมือโครโนกราฟเยลโลวโกลด์ พร้อมตัวเลขและเข็มนาฬิกา Breguet เรืองแสง ผลิตในปี 1947 ได้รับการประมูลไปด้วยราคาสูงถึง 3.8 ล้านดอลลาร์ หรือราว 131.7 ล้านบาท
Patek Philippe Ref. 2499 Black Dial ราคาประมาณ 90.1 ล้านบาท
Patek Philippe Ref. 2499 Black Dial ทุบสถิติด้วยราคา 2.6 ล้านดอลลาร์ หรือราว 90.1 ล้านบาท นาฬิกาเรือนนี้เป็นนาฬิกาซีรีส์ที่ 3 เพียงรุ่นเดียวเท่านั้นที่มีหน้าปัดสีดำ ผลิตในปี 1954 ซึ่งมีเพียง 6 เรือนในโลก
Cartier London Tank ‘Oblique’ ราคาประมาณ 6.6 ล้านบาท
Cartier London Tank ‘Oblique’ จากปี 1970 ได้รับการประมูลไปในราคาทำลายสถิติที่ 190,920 ดอลลาร์ หรือราว 6.6 ล้านบาท นาฬิกาเยลโลวโกลด์เรือนนี้โดดเด่นด้วยรายละเอียดที่หายากจากสตูดิโอของช่างอัญมณีในลอนดอน ตัวเรือนที่เพรียวบาง พร้อมสปริงบาร์และสกรูระหว่างตัวดึง
Rolex Reference 3612 ’50 Pesos ราคาประมาณ 3.3 ล้านบาท
นาฬิกา Rolex Coin ได้รับการประมูลด้วยราคา 95,460 ดอลลาร์ หรือราว 3.3 ล้านบาท ซึ่งในรุ่นนี้มีออกมาเพียง 10 เวอร์ชันเท่านั้น โดยสร้างขึ้นในวาระครบรอบ 150 ปีของสนธิสัญญากอร์โดบา ตัวเรือนขนาด 39 มิลลิเมตร มีรูปร่างเหมือนเหรียญทองคำ 50 เปโซจากยุคนั้น
อ้างอิง:
- https://hypebeast.com/2024/11/sothebys-live-watch-sales-geneva-sets-four-world-records-info
- https://usa.watchpro.com/rare-patek-philippe-complications-achieve-multi-million-dollar-prices-at-geneva-sales/
- https://www.watchpro.com/how-gen-z-is-reshaping-the-watch-market/#:~:text=Over%20a%20third%20(35%25),the%20market%20average%20(8%25)