×

เมื่อชาวอเมริกันที่ไม่ได้ร่ำรวยแต่ปรารถนาเป็นเจ้าของสินค้าฟุ่มเฟือยได้ลดการซื้อ ‘แบรนด์เนม’ กระทบยอดขายเครือ Louis Vuitton ลดลงในสหรัฐฯ

27.07.2023
  • LOADING...
LVMH

เมื่อเราพูดถึงสินค้าฟุ่มเฟือย เรามักนึกภาพภาคเศรษฐกิจที่ค่อนข้างมีภูมิต้านทานต่อการขึ้นและลงของกำลังซื้อในวงกว้าง เพราะท้ายที่สุดแล้วสินค้าฟุ่มเฟือยมีกลุ่มลูกค้าที่ร่ำรวยกว่าซึ่งมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบน้อยกว่าจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ กระนั้นผลประกอบการล่าสุดของบริษัทสินค้าฟุ่มเฟือยรายใหญ่ที่สุดของโลกได้กระตุ้นให้ต้องกลับตั้งคำถามอีกครั้ง

 

LVMH บริษัทข้ามชาติของฝรั่งเศสและกลุ่มบริษัทในเครือที่เชี่ยวชาญด้านสินค้าฟุ่มเฟือย ได้รายงานยอดขายในสหรัฐอเมริกาที่ลดลงอย่างคาดไม่ถึงในไตรมาสที่ 2 ปี 2023 พอร์ตโฟลิโอของ LVMH ประกอบด้วยแบรนด์ที่โดดเด่นกว่า 70 แบรนด์ เช่น Louis Vuitton, Dior, Bulgari, Fendi และ Moët & Chandon ด้วยเหตุนี้ประสิทธิภาพการขายของพวกเขามักจะทำหน้าที่เป็นบารอมิเตอร์สำหรับสุขภาพโดยรวมของตลาดสินค้าฟุ่มเฟือย

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

LVMH รายงานว่ายอดขายในสหรัฐฯ ลดลง 1% ในไตรมาสที่ 2 ปี 2023 เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากการฟื้นตัวที่ค่อนข้างแข็งแกร่งหลังการแพร่ระบาดในกลุ่มสินค้าหรูหรา

 

นอกจากนี้ Richemont ซึ่งเป็นผู้เล่นรายใหญ่อีกรายหนึ่งในตลาดสินค้าหรูหรา ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Cartier และ Montblanc ได้รายงานว่ายอดขายในสหรัฐฯ ลดลง 4% เมื่อต้นเดือนนี้

 

สิ่งที่เกิดขึ้นชี้ให้เห็นถึงการชะลอตัวที่อาจเกิดขึ้นในตลาดสินค้าหรูหราของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อราคาหุ้นของแบรนด์สินค้าหรูหรา

 

Jean-Jacques Guiony ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน LVMH กล่าวว่า ‘ลูกค้าที่มีความทะเยอทะยาน’ ผู้ที่ไม่ได้ร่ำรวยเป็นพิเศษ แต่ปรารถนาที่จะเป็นเจ้าของสินค้าฟุ่มเฟือยนั้นไม่ได้จับจ่ายซื้อของมากเท่าที่เคยเป็นมา ลูกค้าเหล่านี้ซึ่งมักเลือกซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยในระดับราคาเริ่มต้นดูเหมือนจะลดการใช้จ่ายลง 

 

แม่ทัพการเงินเครือ LVMH ตั้งสมมติฐานว่าการจ่ายเงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่จางหายไปหลังจากเกิดโควิดอาจเป็นปัจจัยสนับสนุน เนื่องจากผู้บริโภคเหล่านี้อาจเคยได้รับประโยชน์จากเงินอุดหนุนในช่วงที่เกิดโรคระบาด

 

ที่น่าสนใจคือยอดขายที่ลดลงนี้ไม่ได้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ LVMH ในสหรัฐฯ สินค้าระดับไฮเอนด์จากแบรนด์พรีเมียมของ LVMH นั้นยังคงทรงตัว ข้อสังเกตนี้ชี้ให้เห็นว่าลูกค้าที่มั่งคั่งขึ้น ซึ่งโดยทั่วไปไม่อ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ยังคงซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยต่อไป

 

อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจไวน์และสุราของ LVMH โดยเฉพาะคอนญัก ได้รับผลกระทบอย่างหนักในสหรัฐฯ อาจเป็นเพราะปัญหาสินค้าคงคลังและห่วงโซ่อุปทานที่ยืดเยื้อจากโรคระบาด

 

ยอดขายที่ตกต่ำในสหรัฐฯ ได้รับการชดเชยบางส่วนจากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันในยุโรป Guiony ตั้งข้อสังเกตว่ายอดขายส่วนใหญ่ของ LVMH ที่เพิ่มขึ้น 18% ในยุโรปในไตรมาสที่ 2 ปี 2023 มาจากนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นซ้ำๆ จากปีที่แล้ว เมื่อมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศผ่อนคลายลง นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันจึงจับจ่ายซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยในเมืองต่างๆ ในยุโรป เช่น ปารีส โรม และลอนดอนมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายในประเทศลดลง

 

ในอีกด้านหนึ่งของโลก ตลาดเอเชียกำลังวาดภาพที่ต่างออกไป แม้จะมีสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจในตลาดจีนในวงกว้าง แต่การใช้จ่ายที่หรูหรายังคงแข็งแกร่ง ยอดขายโดยรวมของ LVMH เพิ่มขึ้น 17% ในไตรมาสที่ 2 ปี 2023 โดยได้แรงหนุนอย่างมากจากการเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 34% ในเอเชีย ซึ่งไม่รวมในญี่ปุ่น

 

ก่อนเกิดโรคระบาด เอเชีย โดยเฉพาะจีน ถือเป็นกลไกหลักในการเติบโตสำหรับอุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือย อย่างไรก็ตาม ในขณะที่การล็อกดาวน์ทั่วโลกผ่อนคลายลง สหรัฐฯ ก็กลายเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดสินค้าหรูหรา การเปลี่ยนแปลงในการใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือยทั่วโลกทำให้ชาวอเมริกันมีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นจาก 22% ในปี 2019 เป็นระหว่าง 32-34% ในปี 2022

 

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลบัตรเครดิตเมื่อเร็วๆ นี้บ่งชี้ว่าการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยในสหรัฐฯ มีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะในหมู่นักช้อปอายุน้อยที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ การใช้จ่ายของฟุ่มเฟือยในเดือนมิถุนายนลดลง 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

 

แม้จะมีความท้าทายในตลาดสหรัฐฯ แต่ภาพรวมของ LVMH ยังคงเป็นบวก บริษัทรายงานยอดขายทั่วไปเพิ่มขึ้น 17% ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2023 สำหรับครึ่งปีแรก LVMH สร้างรายได้ 4.224 หมื่นล้านยูโร เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจ 30%

 

สิ่งที่ต้องจับตาคือเมื่อ ‘ลูกค้าที่มีความทะเยอทะยาน’ มีความอ่อนไหวต่อความผันผวนทางเศรษฐกิจมากขึ้น อุตสาหกรรมสินค้าหรูหราอาจเผชิญกับความผันผวนในระดับที่ไม่คาดคิดมาก่อน

 

ภาพ: Cindy Ord / Getty Images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X