ตลาดสินค้าลักชัวรีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเปลี่ยนโฉม! ไม่ใช่แค่เรื่องของราคาหรือความหรูหราอีกต่อไป แต่เป็นการสะท้อนตัวตน สืบทอดมรดก สร้างความก้าวหน้า และเติมเต็มความสุขส่วนตัว ซึ่งการศึกษาใหม่จากวีโร่ เผยให้เห็นนิยามใหม่ของความลักชัวรี ซึ่งสะท้อนถึงคุณค่าและความต้องการที่ลึกซึ้งของผู้บริโภคยุคใหม่ในภูมิภาคนี้
การที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับ ‘ความเป็นตัวตน’ (Selfhood) มากขึ้น ทำให้แบรนด์ลักชัวรีต้องปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอสินค้าที่มีความเฉพาะตัวสูง หรือการสร้างประสบการณ์ที่ช่วยให้ลูกค้าค้นพบและแสดงออกถึงตัวตนของตัวเองได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ ‘การสืบทอด’ (Legacy) ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่แบรนด์ควรให้ความสำคัญ โดยการนำเสนอเรื่องราวและมรดกของแบรนด์ที่สืบทอดต่อกันมา หรือการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์กับวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่น จะช่วยสร้างความผูกพันและความภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาว
ตัวเลขคาดการณ์รายได้จากสินค้าลักชัวรีในภูมิภาคนี้ที่สูงถึง 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือกว่า 5.8 แสนล้านบาท ยิ่งตอกย้ำถึงศักยภาพและความน่าสนใจของตลาดนี้
แบรนด์ที่ต้องการครองใจผู้บริโภคกลุ่มนี้ต้องไม่เพียงแค่ขายสินค้า แต่ต้องขาย ‘คุณค่า’ และ ‘เรื่องราว’ ที่สอดคล้องกับนิยามใหม่ของความลักชัวรี เช่น การนำเสนอสินค้าที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง และมีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือการสร้างแคมเปญที่เน้นการให้ความรู้ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริโภค
อินฟลูเอ็นเซอร์และคอนเทนต์ครีเอเตอร์มีบทบาทสำคัญในการสร้างกระแสและเปลี่ยนแปลงทัศนคติของผู้บริโภคในภูมิภาคนี้ พวกเขาเป็นมากกว่าแค่ผู้มีอิทธิพล แต่เป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจและผู้นำเทรนด์ที่สามารถเชื่อมโยงแบรนด์กับผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคดิจิทัลที่ผู้บริโภคได้รับข้อมูลข่าวสารและแรงบันดาลใจจากสื่อสังคมออนไลน์เป็นหลัก การที่แบรนด์ลักชัวรีร่วมมือกับอินฟลูเอ็นเซอร์ที่เหมาะสม จะช่วยสร้างการรับรู้และความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้อย่างมาก
แบรนด์ลักชัวรีจึงควรให้ความสำคัญกับการสร้างความร่วมมือกับอินฟลูเอ็นเซอร์ที่เหมาะสม โดยต้องเลือกอินฟลูเอ็นเซอร์ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย และมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง อีกทั้งการวัดผลและประเมินผลของแคมเปญที่ทำร่วมกับอินฟลูเอ็นเซอร์ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แบรนด์สามารถปรับปรุงและพัฒนากลยุทธ์การตลาดได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ การสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่แบรนด์ไม่ควรมองข้าม การจัดกิจกรรมหรืออีเวนต์ที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้สัมผัสและมีส่วนร่วมกับแบรนด์ จะช่วยสร้างความผูกพันและความจงรักภักดีในระยะยาว
ตัวอย่างเช่น การจัดงานเปิดตัวสินค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟ การจัดเวิร์กช็อปที่ให้ความรู้และทักษะใหม่ๆ หรือการสร้างพื้นที่ออนไลน์ให้ลูกค้าได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ร่วมกัน
ตลาดสินค้าลักชัวรีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และเต็มไปด้วยโอกาสสำหรับแบรนด์ที่พร้อมจะปรับตัวและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับคุณค่าและประสบการณ์ที่มากกว่าแค่ตัวสินค้า