วันนี้ (13 สิงหาคม) ที่ ศาลจังหวัดมุกดาหาร ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ได้มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในคดีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ โดยตัดสินลงโทษจำคุกไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล รวม 26 ปี จาก 3 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเล็งเห็นผล จำคุก 15 ปี, พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดา จำคุก 10 ปี และ กระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ จำคุก 1 ปี ส่วนสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น จำเลยร่วม ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง
คำตัดสินของศาลอุทธรณ์ในครั้งนี้เป็นการยืนยันคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 ที่ได้สั่งจำคุกไชย์พลในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และพรากเด็กฯ โดยศาลได้ให้ประกันตัวชั่วคราวด้วยหลักทรัพย์เป็นที่ดินมูลค่า 780,000 บาท
พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะหนึ่งในคณะทำงานชุดคลี่คลายคดีน้องชมพู่ ได้ออกมากล่าวขอบคุณศาลที่ได้พิจารณาคดีตามพยานหลักฐานที่ทีมงานได้รวบรวมมานานกว่า 5 ปี โดยระบุว่าพยานหลักฐานที่ใช้มีทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พยานบุคคล และการวิเคราะห์เชิงลึกอย่างรอบด้าน
พล.ต.ต.นพศิลป์ยังย้ำว่า คณะทำงานไม่ได้มีเป้าหมายที่ตัวบุคคล แต่ยึดจากพยานหลักฐานที่พบเป็นหลักจนนำไปสู่การระบุตัวผู้กระทำความผิดในที่สุด พร้อมทั้งได้กล่าวขอบคุณทีมงานสืบสวนสอบสวนจากทั่วประเทศ และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ที่ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้ความจริงปรากฏ
“คำตัดสินนี้ไม่ใช่แค่การลงโทษผู้กระทำผิด แต่เป็นการคืนศักดิ์ศรีให้ครอบครัว และคืนความจริงให้กับน้องชมพู่” พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าวทิ้งท้าย