ไม่มีใครคาดและคิดมาก่อน
บนเวทีและพิธีการมอบเหรียญรางวัลชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิง เกียรติยศขั้นสูงสุดในโลกลูกหนังของสุภาพสตรี ที่เหล่านักเตะสาวทีมชาติสเปนช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรคนานาจนมาถึงฝั่งฝันได้อย่างน่ายกย่อง จะเกิดเหตุการณ์สุดอัปยศขึ้น
หลุยส์ รูเบียเลส ประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปน กระทำการไม่เหมาะสมต่อนักเตะสาวหลายคน ตั้งแต่การสวมกอดแบบแนบชิดจนเกินเหตุ ไปจนถึงการมอบจุมพิตให้กับนักฟุตบอล ซึ่งเขากล้าทำทั้งๆ ที่บุคคลที่ยืนอยู่ข้างๆ นั้นคือพระราชินีเลติเซียและเจ้าหญิงโซเฟียแห่งราชอาณาจักรสเปน ที่ขึ้นมาเป็นเกียรติและร่วมแสดงความยินดีต่อผู้ชนะ
สิ่งเลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นกับ เจนนี เอร์โมโซ ดารากองหน้าหมายเลข 10 ที่รูเบียเลสไม่ได้มอบจุมพิตที่แก้มในแบบที่ ไอตานา บอนมาติ ซูเปอร์สตาร์ประจำทีม โดนกอด ก่อนขโมยหอมแบบไม่ให้ไปไหน
เอร์โมโซถูกรูเบียเลสจูบเข้าที่ปาก
และแม้มันจะเป็นช่วงเวลาเพียงไม่กี่วินาที แต่รอยจูบที่เขามอบให้แก่หญิงสาวที่มิได้เต็มใจ ได้นำไปสู่การต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลหญิงสเปน
การต่อสู้เพื่อโค่นทรราชลูกหนังผู้ลุแก่อำนาจมายาวนานเหลือเกิน
เรื่องราวอื้อฉาวที่เกิดขึ้นได้กลายเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่โสโครกที่สุดในบันทึกประวัติศาสตร์ของเกมฟุตบอลหญิง
โดยเฉพาะท่าทีและการประกาศจุดยืนของรูเบียเลส ที่แม้จะกล่าวคำขอโทษแล้ว แต่คำขอโทษนั้นไม่ได้ชวนให้รู้สึกว่ามาจากหัวใจเลยแม้แต่น้อย
ในทางตรงกันข้าม ประธานลูกหนังสเปนกลับแสดงให้เห็นถึง ‘ธาตุแท้’ ที่น่ารังเกียจเกินกว่าที่จะทนรับไหว
รูเบียเลสทำอะไร?
ย้อนกลับไปเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว หนึ่งวันหลังเกิดเหตุการณ์สุดอัปยศขึ้น รูเบียเลสขอโอกาสในการกล่าวขอโทษก็จริง แต่ก็มีการแก้ตัวแก้ต่างด้วยเหตุผลว่า “เอร์โมโซก็สวมกอดและอุ้มเขาขึ้นก่อน” ที่เหมือนเป็นการบอกว่านักเตะสาวก็ ‘เล่นด้วย’ ไปจนถึง “การจูบนี้เหมือนผมจูบลูกสาวก่อนนอน มันไม่ได้มีความปรารถนาใดๆ ในนั้น”
ก่อนที่จะมีการประกาศในระหว่างการประชุมสหพันธ์ฟุตบอลสเปน เพื่อตอบโต้กระแสเรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่ง ด้วยการบอกย้ำๆ ถึง 4-5 ครั้งว่า “ผมไม่ออก” และการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นมาจากกลุ่มเฟมินิสต์ปลอมๆ ในวงการฟุตบอลสเปน รวมถึงขบวนการล่าพ่อมดบนโซเชียลมีเดีย
เพราะคำพูดและการแสดงออกเหล่านี้ของรูเบียเลส ซึ่งไม่ได้แสดงออกถึงการสำนึกในสิ่งที่กระทำลงไปอย่างจริงใจ ทั้งยังโต้ตอบและใส่ร้ายผู้ถูกกระทำอย่างเอร์โมโซ ไปจนถึงการประกาศว่าพร้อมจะต่อสู้ทางกฎหมายเพื่อปกป้องตัวเอง สิ่งเหล่านี้ได้นำไปสู่กระแสความโกรธแค้นอย่างรุนแรงภายในประเทศสเปน
ทั้งๆ ที่มันควรจะเป็นสัปดาห์ที่ชาวสเปนทุกคนจะได้ร่วมฉลองไปกับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของพวกเธอ ทีมฟุตบอลหญิงที่ทุกคนภาคภูมิใจกับชัยชนะที่ได้มาอย่างยากลำบาก และต้องแลกมาด้วยการเสียสละมากมายของใครหลายคน แต่ทุกคนกลับต้องมาช่วยกันประณามรูเบียเลสแทน
สิ่งที่เกิดขึ้นในเวลาต่อมาคือ การลุกฮือเพื่อขับไล่เขาออกจากตำแหน่ง
การลุกฮือที่เปรียบได้กับ #MeToo ที่เคยสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่โลกมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน
ในสนามฟุตบอลเราได้เห็นภาพของนักฟุตบอลชายของทีมเซบียาสวมเสื้อที่มีข้อความว่า ‘Se Acabó’ ซึ่งมีความหมายว่า ‘มันจบแล้ว’ (ครับนาย!)
ข้อความนี้อ้างอิงมาจากความรู้สึกของ อเล็กเซีย ปูเตยาส นักเตะสาวสมบัติของชาติ เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์หญิง 2 สมัยติดต่อกัน ซึ่งเป็นคนแรกๆ ที่ออกมายืนหยัดเคียงข้างเพื่อนรักอย่างเอร์โมโซ และเรียกร้องให้รูเบียเลสยอมรับความผิดของตัวเองด้วยการลาออกจากตำแหน่งเสีย
เพราะไม่ว่าเขาจะแก้ตัวอย่างไรก็ตาม เอร์โมโซยืนยันว่าเธอไม่ได้ยินยอมและเธอไม่ได้รู้สึกดีกับการโดนคนอย่างรูเบียเลสมาขโมยจูบแบบนี้
นักเตะเซบียาไม่ได้เป็นทีมเดียวที่ออกมาให้กำลังใจ มีการเคลื่อนไหวอีกมากมายเกิดขึ้น
ตั้งแต่เสียงปรบมือที่ดังกระหึ่มในเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยหญิงของสเปน ซึ่งเอร์โมโซเข้าชมเกมในสนามและได้รับกำลังใจอย่างล้นหลาม ไปจนถึงการรวมพลังกันต่อต้านรูเบียเลสอย่างถึงที่สุด ตั้งแต่การประกาศของ 81 นักเตะหญิงที่จะไม่ขอลงเล่นให้ทีมชาติสเปนอีก จนกว่าประมุขลูกหนังที่คุกคามทางเพศจะลงจากตำแหน่ง ไปจนถึงการลาออกของ ราฟาเอล เดล อาโม รองประธาน RFEF พร้อมทั้งทีมสตาฟฟ์โค้ชในทีมชาติหญิงเกือบยกชุด
เรื่องยังไม่จบแค่นี้ แต่ไปถึงระดับนายกรัฐมนตรีสเปน เปโดร ซานเชซ ที่มองว่าเรื่องนี้แค่คำขอโทษยังไม่เพียงพอ
ขณะที่ FIFA เริ่มลงมาจับเคสนี้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา ด้วยการลงโทษแบนชั้นต้น 90 วันในระหว่างการสอบสวน และมีรายงานว่าอาจจะลงโทษแบนห้ามรูเบียเลสข้องเกี่ยวกับเกมฟุตบอลทุกระดับเป็นเวลา 15 ปีด้วยกัน
และจนถึงเข็มนาฬิกาเดินไป รูเบียเลสกำลังจะเป็นผู้ต้องหาในคดีความ ขณะที่บรรดาผู้นำทั้ง 19 คนในสหพันธ์ฟุตบอลสเปนได้มีการออกแถลงการณ์ร่วมกัน เพื่อเรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่ง ภายหลังจากที่มีการประชุมหารือร่วมกันนานถึง 6 ชั่วโมงเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
มีเพียงคนเดียวที่ยังยืนหยัดจะอยู่เคียงข้างรูเบียเลส อาจเหลือเพียงแม่ของเขาที่ประกาศขังตัวเองในโบสถ์และจะอดอาหาร เพื่อเป็นการยืนยันในความบริสุทธิ์ของลูกชาย
“ลูกฉันเป็นคนดี” จะมาทำอย่างนี้กับลูกชายฉันไม่ได้
ในภาพรวมของการต่อสู้ แม้จะมองเห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน แต่ในอีกด้านแล้วมันได้สะท้อนให้เห็นถึงบางอย่างที่ชัดเจน
นั่นคือ ‘อำนาจ’ ของคนในวงการฟุตบอลที่เป็นผู้ชายในสเปนแข็งแกร่งเหนือกว่าผู้หญิงมาก
กรณีจูบไม่คิดของรูเบียเลสเป็นเพียงแค่ยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น เพราะปัญหาจริงๆ เป็นเรื่องของอำนาจเชิงโครงสร้างที่ฟุตบอลหญิงถูกกดให้อยู่ต่ำกว่าฟุตบอลชายเสมอ
ตั้งแต่ที่รูเบียเลสได้รับเลือกตั้งเข้ามาดำรงตำแหน่งประธาน RFEF เมื่อปี 2018 และได้รับเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2020 เขากระทำการอะไรหลายอย่างที่ไม่ได้เป็นประโยชน์อันใดต่อวงการฟุตบอลหญิงเลย
ตั้งแต่การขาดการดูแลและใส่ใจ การไม่ลงทุนหรือสนับสนุน ไปจนถึงการยืนหยัดที่จะให้ ฮอร์เก วิลดา รับหน้าที่โค้ชของทีมต่อไป แม้ว่าจะเป็นคนที่ทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงกับนักเตะทีมชาติหญิงมากมาย จนนำไปสู่เหตุการณ์ ‘Las 15’ เมื่อปีที่แล้ว เมื่อมีนักเตะ 15 (+3) คนที่ประกาศจะไม่ขอลงเล่นให้ทีมชาติสเปนอีก จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งตำแหน่งโค้ชและการสนับสนุน
โดยที่แม้จะพาทีมได้แชมป์ฟุตบอลโลกหญิงสมัยแรก แต่ก็มีการสังเกตกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนักเตะในทีมไม่ได้พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น
รูเบียเลสยังมอบสัญญาใหม่อีก 4 ให้วิลดา เป็นการตอบแทนคุณงามความดีของผลงานด้วย
ขณะเดียวกันหากเรามองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยสายตาที่เบิกกว้างขึ้น เราจะพบว่า กว่าจะมีการเคลื่อนไหวเพื่อร่วมยืนหยัดกับ เจนนี เอร์โมโซ ก็ใช้เวลาเนิ่นนาน
ในขณะที่ปูเตยาสแสดงจุดยืนตั้งแต่แรกๆ ที่จะขออยู่เคียงข้างกับเพื่อนรัก กว่าที่ อันเดรส อิเนียสตา จะประกาศจุดยืนในทำนองเดียวกันก็ใช้เวลาร่วมสัปดาห์
กว่าที่ FIFA จะเริ่มเข้ามาจัดการก็ใช้เวลาเกือบสัปดาห์ และกว่าที่สมาชิกในสหพันธ์ฟุตบอลสเปนจะเรียกร้องให้รูเบียเลสลาออกจากตำแหน่งก็ใช้เวลาเกินกว่าสัปดาห์
นั่นเป็นเพราะอำนาจที่มีของรูเบียเลสส่วนหนึ่ง ซึ่งมันอาจทำให้เขารู้สึกว่าเขาสามารถ ‘ทำอย่างไรก็ได้’ กับทีมฟุตบอลหญิงของเขา (ซึ่งก็มีคนที่เคยถูกกระทำในอดีตมาร่วมเปิดโปงด้วยเช่นกัน) จนนำไปสู่การปฏิบัติตัวอย่างไม่เหมาะสมเหมือนคนเฒ่าที่ไปเที่ยวร้านคาราโอเกะยามราตรี
อีกส่วนหนึ่งมันคืออำนาจของผู้ชายที่กดทับผู้หญิงในโลกของฟุตบอลมาอย่างยาวนาน
ในสเปน กล่าวกันว่าการต่อสู้ของวงการฟุตบอลหญิงนั้นกินระยะเวลามาเกือบ 40 ปีแล้วที่ต้องต่อสู้เรียกร้องสิทธิ เสรีภาพ และการดูแลที่เท่าเทียมกัน ซึ่งแม้วันนี้มันจะดีขึ้นมาก แต่ก็ยังอยู่ยากเมื่อเทียบกับสิ่งที่ฟุตบอลชายได้รับ
เหตุการณ์อัปยศที่เกิดขึ้นกับเอร์โมโซจึงถูกคาดหมายว่า จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ
อย่างแรก ทรราชลูกหนังผู้ชั่วร้ายอย่างรูเบียเลสต้องออกไป เขาไม่มีค่าและความหมายใดๆ เหลืออยู่แล้ว
อย่างต่อมาคือ การสะท้อนให้เห็นภาพความเหลื่อมล้ำระหว่างฟุตบอลหญิงและชายในสเปน ที่อาจสะเทือนไปถึงระดับโลกได้เลยทีเดียว
ในขณะที่เชื่อว่ารูเบียเลสไม่ได้ทำอะไรแบบนี้เป็นครั้งแรก ในโลกฟุตบอลของหญิงสาวมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นมากมายเต็มไปหมด ไม่นานมานี้กับกรณีของประธานสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส โนเอล แกรต์ ที่ต้องลาออกจากตำแหน่ง เพราะมีกรณีอื้อฉาวคุกคามทางเพศเหมือนกัน
เรื่องทำนองนี้ไม่ได้มีแค่นี้ ปี 2018 ก็เคยเกิดเหตุการณ์คุกคามทางเพศนักฟุตบอลหญิงของทีมชาติเฮติ ซึ่งประธานสหพันธ์ฟุตบอลเฮติถูกลงโทษแบนตลอดชีวิต ขณะที่ บรูซ เอ็มวาเป โค้ชทีมชาติแซมเบีย ถูกจับได้ว่าใช้มือลูบไล้หน้าอกของนักเตะหญิงในทีม แต่ถึงจะถูกสอบสวนแล้วก็ยังได้โอกาสในการคุมทีมศึกฟุตบอลโลกหญิง
ยังมีกรณีของออสเตรเลีย, บาร์บาดอส, แคนาดา, โคลอมเบีย, โคโมรอส, เอกวาดอร์, กาบอง, มาลาวี, มองโกเลีย, เนเธอร์แลนด์, เซียร์รา ลีโอนา, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา, เวเนซูเอลา และซิมบับเว
การต่อสู้เพื่อโค่นรูเบียเลสจึงอาจไม่ได้สร้างผลกระทบให้เกิดขึ้นแค่ในสเปนเท่านั้น
มันทำให้เกิดความหวังว่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นแก่โลกลูกหนังของหญิงสาวทุกคน
แน่นอนว่าการต่อสู้กับอำนาจและทรราชไม่ใช่เรื่องง่าย
มันต้องใช้กำลังกาย กำลังใจ ความอดทน และความเป็นหนึ่งเดียวกลมเกลียวยิ่งของทุกคน ทุกฝ่าย
สิ่งที่ดีคือ ดูเหมือนตอนนี้ทุกคนพร้อมที่จะต่อสู้ไม่ถอยอีกต่อไป
ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนก็ตาม
อ้างอิง:
- https://edition.cnn.com/2023/08/27/football/what-happened-luis-rubiales-kiss-intl/index.html
- https://edition.cnn.com/2023/08/27/football/luis-rubiales-jenni-hermoso-reaction-spt-intl/index.html
- https://edition.cnn.com/2023/08/28/football/luis-rubiales-spanish-prosecutors-spt-intl/index.html
- https://edition.cnn.com/2023/08/26/sport/spain-football-federation-legal-action-jennifer-hermoso-spt-intl/index.html
- https://www.theguardian.com/world/2023/aug/28/spanish-football-federation-leaders-demand-resignation-of-luis-rubiales
- https://www.theguardian.com/world/2023/aug/27/spain-womens-football-jenni-hermoso-world-cup-kiss-luis-rubiales
- https://www.theguardian.com/football/2023/aug/26/spain-luis-rubiales-football-federation-president-jenni-hermoso
- https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-12450247/Womens-National-League-chiefs-RESIGN-en-masse-row-starting-season-day-Englands-World-Cup-final-loss-against-Spain-weekend.html?ito=social-twitter_dailymailsport
- https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-12437119/Spains-kiss-gate-FA-president-Luis-Rubiales-refusal-resign-just-tip-iceberg-Spanish-FA-federation-mired-controversy-took-charge-including-failing-tackle-racism-gender-disparity.html?ito=social-twitter_dailymailsport
- https://www.theguardian.com/football/2023/aug/25/luis-rubiales-actions-are-not-abnormal-they-are-symptomatic-of-the-system?CMP=share_btn_tw