Lotus’s เห็นสัญญาณบวก-กำลังซื้อเริ่มฟื้น เดินหน้ามุ่งสู่พรีเมียมไฮเปอร์มาร์เก็ต ล่าสุดเปิดแบรนด์ใหม่ Lotus’s Privé ปักหมุดสาขาแรกที่ ICS ยกทัพสินค้านำเข้ายอดฮิต เจาะลูกค้าไทย-ต่างประเทศ
สมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า Lotus’s ได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ ‘Lotus’s Privé (โลตัส พรีเว่)’ ในโครงการ ICS ถือเป็นพรีเมียมไฮเปอร์มาร์เก็ตแห่งแรกที่มีความแตกต่างจากโมเดลอื่นๆ ทั้งด้านการออกแบบ ประเภทสินค้า และบริการเสริม โดยเน้นความพรีเมียม ภายใต้คอนเซปต์ ‘Premium Inclusive’ มีสินค้านำเข้าจากต่างประเทศกว่า 40% โดยรวมๆ แล้วมีสินค้าวางจำหน่ายกว่า 27,000 รายการ เน้นสินค้าพรีเมียม หวังตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการประสบการณ์ใหม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
สำหรับ Lotus’s นั้นเป็นหนึ่งในผู้เช่าหลักของ ICS ได้ทำสัญญาเช่า 15 ปี ใช้เงินลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท บนพื้นที่ 2,900 ตารางเมตร โดยการเลือกเปิดตัวแบรนด์ใหม่ใน ICS มาจากปัจจัยหลัก คือเรื่องกำลังซื้อของคนย่านนี้ที่มีทั้งคนไทยและต่างชาติอยู่จำนวนมาก
“คาดว่าสินค้าพรีเมียมจะสามารถทำให้ผู้บริโภคมีการจับจ่ายเฉลี่ยต่อบิลเพิ่มขึ้น และหากได้รับการตอบรับดีในอนาคตเตรียมเปิด Lotus’s Privé สาขาที่ 2 ในกรุงเทพฯ ซึ่งอาจได้เห็นปลายปี 2566”
เตรียมทุ่ม 1.5 หมื่นล้านบาท ขยายสาขา-รีโนเวต
ขณะที่ภาพรวมของธุรกิจ Lotus’s ได้เตรียมงบทั้งปีกว่า 15,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายสาขา รีโนเวตร้านใหม่ พร้อมกับลงทุนเรื่องของไอทีเข้ามาเสริมการบริการลูกค้า เพราะเน้นลงทุนหวังผลระยะยาวมากกว่าระยะสั้น รวมถึงการขยายสาขา ต้องพิจารณาทำเลที่มีศักยภาพและคู่แข่งในตลาดเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม ในปี 2566 ธุรกิจเริ่มเห็นสัญญาณบวก ทั้งเศรษฐกิจและกำลังซื้อทั้งภายในและต่างประเทศ เริ่มปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน ที่ทำให้สินค้าอุปโภคบริโภคเติบโตต่อเนื่อง
ด้าน สุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอซีเอส จำกัด เปิดเผยว่า โครงการ ICS เป็นโครงการมิกซ์ยูส ไลฟ์สไตล์ ทาวน์ มูลค่า 4,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 70,000 ตารางเมตร ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเฟสแรก ซึ่งเป็นในส่วนของรีเทลก่อน และคาดว่าจะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบได้ในกลางปี 2566
สำหรับภายในโครงการ ICS ได้จับมือร่วมกับพันธมิตรกว่า 300 แบรนด์ เริ่มตั้งแต่สินค้าไลฟ์สไตล์ การเงิน แฟชั่น ความงาม และร้านอาหาร เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าย่านฝั่งธนบุรีที่มีกว่า 2 ล้านคน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นโปรเจกต์เชื่อมต่อกับไอคอนสยาม โดยมีรถไฟฟ้าสายสีทองสถานีเจริญนครเป็นจุดเชื่อมต่อ โดยในแต่ละศูนย์ได้วาง Positioning ที่แตกต่างกันออกไป โดยไอคอนสยามจะเป็น Global Destination มีพันธมิตรแบรนด์สินค้าที่ค่อนข้างแตกต่างกับ ICS ที่จะมีร้านค้าหรือผู้เช่าที่หลากหลายมากกว่า
“เรียกได้ว่ากลุ่มลูกค้ามีความต่างกัน ไอคอนสยาม ลูกค้าเน้นเดินจับจ่ายที่ค่อนข้างใช้เวลา ส่วนไอซีเอส ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการจะจับจ่ายซื้อสินค้าอย่างรวดเร็ว”
นอกจากนี้ยังได้สร้างความแตกต่างจากศูนย์การค้าทั่วไป ด้วยการร่วมมือกับโรงพยาบาลศิริราช เปิดตัว ‘SIRIRAJ H Solutions’ ศูนย์ดูแลสุขภาพครบวงจรแห่งแรกนอกพื้นที่โรงพยาบาล เน้นการดูแลสุขภาพและให้บริการทางการแพทย์ในรูปแบบเฉพาะบุคคล เพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ เบื้องต้นคาดการณ์ว่าจะเปิดให้บริการในเฟส 2
