วันนี้ (14 กุมภาพันธ์) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย มีการแข่งขันศึกซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 56 ระหว่าง ซินซินเนติ เบงกอลส์ แชมป์สาย AFC พบกับ ลอสแอนเจลิส แรมส์ แชมป์สาย NFC ที่สนาม SoFi ที่เมืองอิงเกิลวูด รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
โดยเริ่มต้นในควอเตอร์แรก เป็น แอลเอ แรมส์ ที่ขึ้นนำก่อนจากจังหวะที่ แมทธิว สแตฟฟอร์ด ควอเตอร์แบ็กที่เพิ่งย้ายมาปีแรก ปาบอลเข้ามือของ โอเดลล์ เบ็คแฮม จูเนียร์ ในพื้นที่เอนด์โซน ทำทัชดาวน์แรกของเกม ตามด้วยลูกเตะ ส่งผลให้ขึ้นนำไปก่อน 7-0 ก่อนที่เบงกอลส์จะได้ 3 แต้มจากลูกเตะฟิลด์โกลจากระยะ 29 หลา ไล่ขึ้นมาเป็น 3-7 ก่อนหมดควอเตอร์แรก
ควอเตอร์ที่ 2 แอลเอ แรมส์ เริ่มเกมได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อ แมทธิว สแตฟฟอร์ด ปาบอลเข้ามือ คูเปอร์ คัปป์ ทำทัชดาวน์ที่ 2 ของเกม และนำห่างไปเป็น 13-3
แต่หลังจากนั้นเบงกอลส์ได้โอกาสบุกในแดนของแอลเอล แรมส์ และเลือกใช้ทริกเพลย์ ด้วยการที่ โจ เบอร์โรว์ ควอเตอร์แบ็กของเบงกอลส์ ส่งบอลให้ โจ มิกสัน ตัววิ่ง ปาบอลข้ามไปเข้ามือของ ที ฮิกกินส์ ปีกใน ทำทัชดาวน์แรกของเกม ไล่ขึ้นมาเป็น 10-13 ก่อนจะจบพักครึ่งด้วยสกอร์นี้
ช่วงพักครึ่งเป็นการแสดงของศิลปินฮิปฮอปชื่อดังเริ่มด้วย Dr. Dre และ Snoop Dogg ที่มาพร้อมเพลง The Next Episode ตามด้วย 50 Cent ที่มาพร้อมกับเพลง In Da Club, Mary J. Blige กับเพลง Family Affair ตามด้วย Kendrick Lamar และ Eminem ในเพลง Lose Yourself ก่อนจะปิดท้ายด้วยเพลง Still Dre จาก Dr. Dre และ Snoop Dogg
เริ่มต้นครึ่งหลังมาร้อนแรงไม่แพ้กับการแสดง Halftime Show เมื่อ โจ เบอร์โรว์ ปาไกล 65 หลา เข้ามือ ที ฮิกกินส์ ในเอนด์โซน พาทีมเบงกอลส์พลิกมาขึ้นนำในครึ่งหลังทันทีเป็น 17-13 ต่อจากนั้นทีมอินเทอร์เซปต์ได้ ทำให้เบงกอลส์ได้บุกต่อและเตะฟิลด์โกลได้เพิ่ม หนีห่างเป็น 20-13
ควอเตอร์ที่ 3 แรมส์ทำได้เพียงเตะฟิลด์โกลไล่ขึ้นมาเป็น 16-20 เข้าสู่ช่วงควอเตอร์สุดท้าย พวกเขาเหลือเวลาเพียง 15 นาทีในการพลิกสถานการณ์กลับมา
เข้าสู่ควอเตอร์สุดท้ายเกมรับของทั้ง 2 ทีมทำงานอย่างดีเยี่ยม ส่งผลให้แทบไม่มีสกอร์เกิดขึ้น
ในช่วง 2 นาทีสุดท้าย ทีมบุกของแรมส์บุกขึ้นมาได้ใกล้พื้นที่เอนด์โซนของเบงกอลส์ เพื่อลุ้นทำทัชดาวน์พลิกสถานการณ์กลับมานำ และพวกเขาก็เกือบทำสำเร็จ เมื่อ แมทธิว สแตฟฟอร์ด ปาเข้ามือ คูเปอร์ คัปป์ ทำทัชดาวน์ได้ แต่มีธงจากผู้ตัดสิน เนื่องจากคัปป์ดึงผู้เล่นแนวรับของเบงกอลส์ ทำให้ต้องกลับมาเล่นใหม่ที่สกอร์เดิม 16-20
แต่สุดท้ายหลังจากพยายามบุกอยู่หลายครั้ง สุดท้าย แมทธิว สแตฟฟอร์ด ก็ทำสำเร็จ ด้วยการปาบอลเข้ามือ คูเปอร์ คัปป์ ในเอนด์โซน ทำทัชดาวน์ และเตะเพิ่มแต้มพลิกกลับมานำอีกครั้งเป็น 23-20 จนหมดเวลา แรมส์กลายเป็นฝ่ายชนะไปได้ 23-20 คว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์ สมัยที่ 2 ได้สำเร็จ