ไม่ใช่แค่คนไทยที่ไม่เคยหยุดสวย แต่รวมถึงผู้หญิงทั่วโลกด้วย ถึงแม้เศรษฐกิจจะไม่ดีก็ตาม จนลอรีอัล บริษัทความงามรายใหญ่ ทำรายได้สูงสุดในรอบ 20 ปี พร้อมเดินหน้าหาแบรนด์ความงามใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดในไทยเพิ่ม ย้ำมั่นใจตลาดความงามปีนี้คึกคักแน่นอน
“ปัจจุบันบิวตี้เทรนด์เปลี่ยนแปลงไปตามบริบทของสังคม ใครๆ ก็อยากสวย ความสวยไม่มีที่สิ้นสุดไม่ว่าจะยุคไหนก็ตาม และความงามก็ไม่ใช่แค่สวยอย่างเดียว แต่คือการสร้างเอกลักษณ์ให้กับผู้คนในวันสำคัญ ทั้งวันเกิด งานรับปริญญา และงานแต่งงาน” แพทริค จีโร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล ประเทศไทย เมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา กล่าว
ซึ่งสะท้อนถึงอัตราการเติบโตของตลาดความงามทั่วโลกที่เติบโตเฉลี่ย 4-5% ทุกปี มีแค่ช่วงโควิดที่ชะลอการเติบโต แต่หลังจากสถานการณ์คลี่คลาย สภาพตลาดก็กลับมาฟื้นตัวเหมือนเดิม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
เช่นเดียวกับตลาดความงามในประเทศไทยปี 2023 ที่ผ่านมาโต 12% ส่วนใหญ่มาจากกลุ่ม เช่น
- ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว 61% มีมูลค่าตลาดใหญ่สุดอยู่ที่ 1.13 แสนล้านบาท
- ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม 21% มีมูลค่าตลาด 3.9 หมื่นล้านบาท
- ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง 12% มีมูลค่าตลาด 2.27 หมื่นล้านบาท
- ผลิตภัณฑ์กลุ่มน้ำหอม 6% มีมูลค่าตลาด 1.02 หมื่นล้านบาท
แพทริค จีโร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล ประเทศไทย เมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา กล่าวต่อไปว่า นอกจากปีนี้จะเป็นอีกหนึ่งปีทองของตลาดความงามแล้ว แต่อีกด้านหนึ่งก็มีการแข่งขันสูงเหมือนกัน
เพราะฉะนั้นถึงวันนี้ ‘ลอรีอัล กรุ๊ป’ จะมีสินค้าที่ทำตลาดในไทยกว่า 15 แบรนด์ จากทั่วโลกที่มี 37 แบรนด์ ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ และครอบคลุมไปยังตลาดเมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา ซึ่งมีตั้งแต่แบรนด์แมสไปจนถึงแบรนด์ไฮเอนด์
สำหรับแบรนด์ฮีโร่ในไทยก็มีทั้ง L’Oréal, Garnier และ Maybelline New York จากนี้อีก 3 ปีข้างหน้าก็เตรียมจะหาแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติม พร้อมพัฒนาบรรจุภัณฑ์กลุ่มน้ำหอมในรูปแบบซองเติม สร้างทางเลือกให้ผู้บริโภคและตอบโจทย์เรื่องความยั่งยืนได้อีกด้วย
ทั้งหมดก็เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย โดยจะทำงานภายใต้กลยุทธ์ One L’Oréal ที่ลอรีอัลจะยังโฟกัสทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ทั้งในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมพัฒนาทีมงานและผลักดันธุรกิจความงามให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ในปี 2024 คาดว่าภาพรวมตลาดความงามโลกจะเติบโต 8% สอดคล้องกับเป้าหมายของลอรีอัลที่ต้องการเติบโตในไทยด้วยตัวเลขสองหลัก ใกล้เคียงกับปีก่อน พร้อมรักษาความเป็นผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์ความงามในประเทศไทย
ส่วนภาพรวมลอรีอัลทั่วโลกปี 2023 เติบโต 11% ถือเป็นการเติบโตสูงสุดในรอบ 20 ปี มียอดขายรวม 4.118 หมื่นล้านยูโร ซึ่งโตกว่าตลาดความงามทั่วโลก โดยไทยยังเป็นตลาดสำคัญในภูมิภาค SAPMENA เนื่องจากเป็นตลาดที่เริ่มมีกลุ่มคนที่มีรายได้ปานกลางเพิ่มขึ้นและพร้อมที่จะใช้จ่าย เพราะคนไทยให้ความสำคัญในการดูแลตัวเองเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ลอรีอัล กรุ๊ป ในประเทศไทย ยังได้เปิด ‘Baan Beauté’ (บ้านโบเต้) สำนักงานใหญ่แห่งใหม่และศูนย์กลางของลอรีอัล กรุ๊ป ในประเทศไทย เมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา โดยสำนักงานแห่งนี้ได้รับการออกแบบภายใต้คอนเซปต์ Beauty Meets Technology & Sustainability โดยผสมผสานความงามซึ่งได้แรงบันดาลใจจากเมกอัพ พร้อมนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ออกแบบมาอย่างคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมตามเป้าหมายด้านความยั่งยืนของลอรีอัลอีกด้วย