วันนี้ (25 กรกฎาคม) ที่กระทรวงมหาดไทย เดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยภายหลังประชุมหารือแนวทางกระจายอำนาจแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถึงการยกเว้นการใช้งบนอกพื้นที่ของท้องถิ่น ในการนำเงินไปดูแลประชาชนบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เช่น การตั้งศูนย์อพยพว่า วันนี้มีท้องถิ่น 3 สมาคมเข้าร่วม คือ สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ มีการพูดถึง 3 เรื่องคือ
- ความก้าวหน้าของคนในคำสั่งที่ติดล็อกคำสั่ง คสช. ในการนำคนท้องถิ่นมาทำงาน ที่ให้หน่วยงานอื่นเป็นคนคัด ซึ่งไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง
- เรื่องงบประมาณ ตั้งแต่รายได้และการกระจายงบกลับสู่ท้องถิ่นที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เป็นเรื่องที่ต้องตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ มาทำร่าง พ.ร.บ. ใหม่
- เรื่องกฎระเบียบต่างๆ เรามีหน้าที่บำบัดทุกข์ให้กับประชาชน เราควรเขียนกฎหมายว่าอะไรทำไม่ได้ ที่เหลือแก้ทุกข์ให้ประชาชนได้หมด ไม่เช่นนั้นท้องถิ่นจะขาดความอิสระ ไม่ต้องให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ระบุว่าสิ่งนี้ทำไม่ได้ จะกลายเป็นว่า สตง. มาเป็นผู้บริหารท้องถิ่นเอง
ทั้ง 3 ข้อนี้ต้องรีบแก้ โดยถ้าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและ 3 สมาคมร่วมมือกัน ท้องถิ่นโตขึ้น ความเจริญของประเทศก็จะมากขึ้นด้วย เช่นเดียวกับกฎระเบียบการใช้งบนอกพื้นที่ไม่ได้ ในขณะที่ความสำคัญมันต่อเนื่อง รวมถึงท้องถิ่นจะออกนอกพื้นที่ก็ต้องขออนุญาตนายอำเภอ ถ้านายอำเภอไม่อนุญาตก็ไปไม่ได้
ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้น เมื่อท้องถิ่นไปปฏิบัติภารกิจตามแนวชายแดน 4 จังหวัดใต้ ซึ่งใช้คนของอำเภอและท้องถิ่น ใครจะเป็นผู้ขอยกเว้นการใช้งบประมาณนอกพื้นที่ เดชอิศม์กล่าวว่า กฎหมายยังไม่ยกเว้นให้ เป็นเรื่องที่จะนำเสนอในอนาคต
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะทำอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ เพราะเมื่อไม่ประกาศภาวะสงครามก็ไม่ครอบคลุมกับการใช้งบประมาณ เดชอิศม์กล่าวว่า เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะแก้ปัญหาเร่งด่วนเกินกำลังที่ท้องถิ่นจะทำ เพราะระเบียบปัจจุบันทำไม่ได้ และต้องดูแลเฉพาะพื้นที่ของตัวเองเท่านั้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นลงนามยกเว้นได้หรือไม่ เดชอิศม์ยืนยันว่า ยังไม่มีอำนาจให้ยกเว้นได้
