ไอ้หนูลิเวอร์พูลชุดประวัติศาสตร์สร้างผลงานน่าประทับใจอีกครั้ง เมื่อสามารถเฉือนเอาชนะชรูวส์บิวรีทาวน์ได้ในเกมเอฟเอคัพ รอบ 4 นัดรีเพลย์ ผ่านเข้าไปพบกับเชลซีในรอบต่อไป
ทีมจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกลงสนามในเกมเอฟเอคัพ รอบ 4 นัดรีเพลย์ เมื่อคืนวันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง เนื่องจาก เจอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน ตัดสินใจที่จะส่งผู้เล่นชุดเยาวชนลงสนามทั้งหมด รวมถึงให้ นีล คริตช์ลีย์ โค้ชทีมเยาวชน ทำหน้าที่แทนที่ข้างสนามด้วย ทำให้ในเกมที่แอนฟิลด์เมื่อคืนนี้ เป็นลิเวอร์พูลชุดที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ลงสนาม โดยมี เคอร์ติส โจนส์ กองกลางดาวรุ่งที่เพิ่งอายุครบ 19 ปีไม่นาน สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมที่อายุน้อยที่สุดด้วย
แต่ถึงจะเป็นทีมชุดเด็กที่มีค่าอายุเฉลี่ยแค่ 19 ปี กับอีก 102 วัน แต่ ‘หงส์น้อย’ กลับทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ โดยผู้เล่นดาวเด่นในชุดนี้อย่าง โจนส์, ฮาร์วีย์ เอลเลียต, คี-ยานา ฮูเวอร์, นีโค วิลเลียมส์, เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก และ เปโดร ชิริเบยา สามารถนำทีมสู้กับคู่แข่งจากลีกวัน ที่เคยสร้างความประทับใจในเกมแรก ด้วยการไล่ตามตีเสมอผู้นำพรีเมียร์ลีกได้อย่างเหลือเชื่อ
ชรูวส์บิวรีมีโอกาสจะได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจาก ฌอน วอลลีย์ กองหน้าตัวเก่งของทีม ซึ่งเป็นแฟนบอลลิเวอร์พูลตัวยง แต่ VAR ปฏิเสธที่จะให้ประตูแก่ทีมเยือน ก่อนที่ลิเวอร์พูลจะมาได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 75 จากจังหวะที่วิลเลียมส์เปิดบอลเข้ามา และเป็น โร-ฌอน วิลเลียมส์ กองหลัง ซึ่งเป็นอดีตเด็กฝึกหัดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โหม่งสกัดพลาดเข้าประตูตัวเอง ซึ่งเป็นประตูโทนในเกมนี้ ทำให้เจ้าบ้านเฉือนเอาชนะไปได้ 1-0
หลังจบเกม คริตช์ลีย์เผยว่า คล็อปป์ได้ส่งข้อความมาถึงทีมเพื่อให้กำลังใจและให้คำแนะนำ “เล่นในแบบของลิเวอร์พูล ลุยเข้าไป นั่นคือสิ่งที่ทีมชุดใหญ่ทำ และนั่นคือแนวทางการเล่นของเรา นี่คือสิ่งที่เรายืนหยัด และทุกคนพร้อมสำหรับมัน หลังจบเกมเรายังได้ข้อความจากสตาฟฟ์ที่เล่าว่าเขา (คล็อปป์) พอใจมากกับฟอร์มการเล่นที่น่าตื่นเต้น”
คริตช์ลีย์ยังเผยว่า ในเกมนี้ เจมส์ มิลเนอร์ ซึ่งยังซ้อมเพื่อเรียกสภาพความฟิตอยู่กับทีมชุดนี้ โดยไม่ได้เดินทางไปพักผ่อนในช่วงเบรกฤดูหนาวเหมือนเพื่อนๆ ได้ขออนุญาตที่จะมาให้คำแนะนำและให้กำลังใจกับทีม ซึ่งช่วยเหลือผู้เล่นอายุน้อยๆ เหล่านี้ได้มาก
ด้าน แซม ริกเก็ตส์ ผู้จัดการทีมชรูวส์บิวรี ผิดหวังกับการที่ทีมตกรอบ “ผมเจ็บปวดแทนพวกเขา พวกเขาพยายามอย่างหนักแล้ว แต่นี่เป็นเกมที่ 39 ของเรา และมันมีผลมาก เราไม่สามารถที่จะเล่นได้ใกล้พวกเขา หรือเล่นในแบบตัวเองในการเจอกับพวกเขา บางทีเราก็ควรจะมีช่วงเบรกฤดูหนาวบ้าง”
สำหรับลิเวอร์พูลจะได้ผ่านไปพบกับเชลซีในรอบที่ 5 โดยจะไปเยือนที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ในวันที่ 2 มีนาคมนี้
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: