กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าขึ้นมา กับดราม่าเมืองลิเวอร์พูล เมื่อทีม ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล และกลุ่มแฟนบอลในนาม ‘สปิริต ออฟ แชงคลีย์ (Spirit of Shankly)’ เปิดฉากตอบโต้นายกเทศมนตรีของเมืองอย่างเผ็ดร้อน หลังพูดพาดพิงเกี่ยวกับเรื่องโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เพราะเหล่าเดอะ ค็อปจะออกมาแห่ฉลองแชมป์
ประเด็นร้อนดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ โจ แอนเดอร์สัน นายกเทศมนตรีเมืองลิเวอร์พูล ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์ BBC โดยได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องแผนการกลับมาแข่งขันต่อของฟุตบอลพรีเมียร์ลีกว่า ไม่ควรที่จะกลับมาแข่งอีกครั้ง ควรจะให้ตัดจบฤดูกาลแค่นี้ และประกาศให้ลิเวอร์พูลเป็นแชมป์ไปเลย
“ผมคิดว่าทางที่ดีที่สุดคือ การปิดฉากฤดูกาล มันไม่ใช่เรื่องเฉพาะของลิเวอร์พูลแล้ว ถึงอย่างไรพวกเขาก็ได้แชมป์ลีก พวกเขาสมควรจะได้มัน พวกเขาควรจะได้เป็นแชมป์ สิ่งสำคัญที่สุดคือ เรื่องของสุขภาพ ความปลอดภัย และชีวิตของผู้คน ซึ่งผมคิดว่าฟุตบอลมันควรจะเป็นเรื่องรองลงไปในการจะนำไปสู่การตัดสินใจอะไร”
แอนเดอร์สันเชื่อว่า หากกลับมาแข่งต่อ มีโอกาสจะเกิดปัญหา โดยเฉพาะแฟนบอลลิเวอร์พูลที่เฝ้ารอคอยการฉลองแชมป์มายาวนานกว่า 30 ปี
“ต่อให้จัดกันในสนามปิด ก็จะมีคนหลายพันคนที่จะมาด้านนอกสนามแอนฟิลด์” แอนเดอร์สันกล่าว “มีไม่กี่คนหรอกที่จะเคารพในสิ่งที่เราพยายามบอก และอยู่ห่างจากสนาม จะมีคนจำนวนมากมาฉลองแน่ ซึ่งผมคิดว่ามันไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย
“แต่กระนั้นผมเดาว่า จะมีคนจำนวนมากมาที่แอนฟิลด์ และผมก็เข้าใจความกังวลของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเรื่องนี้ ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งที่ยากลำบากอย่างยิ่งสำหรับเรา ผมคิดว่า เป็นการยากมากสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะแยกผู้คนให้ออกห่างกัน และรักษาระยะห่างทางสังคมไว้ ถ้าพวกเขาจะออกมาฉลองกันที่แอนฟิลด์จริงๆ มันเหลวไหลมาก
“เจ้าหน้าที่ตำรวจมีสิทธิ์ที่จะกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะพวกเราอยู่ในเมืองนี้ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเองก็กังวลในเรื่องนี้ เราจึงขอให้พรีเมียร์ลีกและรัฐบาลมาช่วยดูแลในสิ่งที่พวกเรากำลังกังวลอยู่”
คำกล่าวของนายกเทศมนตรีได้กลายเป็นประเด็นใหญ่ขึ้นมา เมื่อสโมสรลิเวอร์พูลได้ออกแถลงการณ์โต้ตอบอย่างรุนแรง เพราะเป็นการกล่าวโดยปราศจากหลักฐานเอกสารรองรับ อีกทั้งตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ก็มีการหารือกันมาโดยตลอด ไม่ใช่เฉพาะแค่สโมสรกับฝ่ายสภาเมือง แต่ยังรวมถึงกลุ่มแฟนบอลด้วย
“การกล่าวอ้างที่ปราศจากหลักฐานมารองรับ เราอยากจะชี้ให้เห็นว่า ในการพูดคุยตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาเกี่ยวกับการแข่งฟุตบอลใดๆ ก็ตามในสนามปิด ซึ่งได้ข้อสรุปว่า เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกฝ่ายที่สำคัญของเมืองจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมและทำงานร่วมกัน
“ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้มีการติดต่อกับกลุ่มกองเชียร์ที่แจ้งต่อเราถึงความตั้งใจของพวกเขาที่จะเคารพในเรื่องของการรักษาระยะห่างทางสังคม และหากมีการประกาศว่า ฟุตบอลจะกลับมาแข่งกันต่อ เราก็พร้อมจะทำงานร่วมกับพวกเขาและหน่วยงานที่สำคัญ ในการที่จะรักษาความปรารถนาร่วมกันของทุกฝ่ายในการจะทำเป้าหมายให้สำเร็จ”
ทางด้านกลุ่มสปิริต ออฟ แชงคลีย์ ซึ่งเป็นกลุ่มแฟนบอลลิเวอร์พูลที่มีเสียงอันทรงพลังที่สุด ได้ออกแถลงการณ์โต้ตอบด้วยเช่นกัน โดยชี้ว่า นายกเทศมนตรีได้ ‘กล่าวหา’ แฟนบอลโดยไม่ได้มีการพูดคุยกับแฟนบอลหรือกลุ่มแฟนบอลมาก่อน ขณะที่สโมสรกับแฟนบอลได้มีการหารือกันโดยตลอด
“แทนที่จะมาพูดจาใส่ร้ายแฟนฟุตบอล มันจะเป็นประโยชน์กับนายกเทศมนตรีมากกว่า ที่จะได้ตระหนักถึงสิ่งที่กลุ่มคนเหล่านี้ได้พยายามที่จะบรรเทาความทุกข์ร้อนของเมืองที่ทั้งเก่าและยากลำบากในเวลานี้ กลุ่ม SOS เพียงกลุ่มเดียวได้มีการจัดส่งอาหารมากกว่า 1,000 ห่อ และเรายังได้ประสานกับพันธมิตรในการที่จะจัดหาชุด PPE และสนับสนุนธนาคารอาหาร
“เราขอเรียกร้องให้นายกเทศมนตรีถอนคำพูดของเขา และหันมาทำงานร่วมกับแฟนบอล เพื่อสนับสนุนกันทุกด้านตลอดช่วงเวลาวิกฤตนี้”
กระแสดราม่ายังลุกลามไปทั่ว โดยเฉพาะในหมู่แฟนบอลลิเวอร์พูลที่มีการอ้างว่า นายกเทศมนตรีเป็นแฟนฟุตบอลของทีม ‘ทอฟฟี่สีน้ำเงิน’ เอฟเวอร์ตัน อีกทั้งยังไม่ได้ตัดสินใจห้ามเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกระหว่างลิเวอร์พูลกับแอตเลติโก มาดริด เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ทั้งยังอนุญาตให้จัดการแข่งวิ่งฮาล์ฟมาราธอนภายในเมืองเมื่อวันที่ 15 มีนาคมด้วย
สำหรับสถานการณ์ในเมืองลิเวอร์พูล มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากกว่า 300 รายในเวลานี้ ส่วนพรีเมียร์ลีกจะมีการประชุมเพื่อหารือแผนการกลับมาแข่งภายใต้ชื่อ Project Restart ซึ่งได้มีการนำเสนอแผนให้ทุกสโมสรแล้ว โดยกำหนดการคร่าวๆ ที่จะกลับมาแข่งได้คือวันที่ 8 มิถุนายนนี้
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: