เจอร์เกน คล็อปป์ กล่าวถึงชัยชนะในศึกเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บีแมตช์ ซึ่งลิเวอร์พูลบุกไปเอาชนะเอฟเวอร์ตัน 4-1 ว่าเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับพัฒนาการของทีม ขณะที่เกมพรีเมียร์ลีกอีก 2 คู่เมื่อคืนที่ผ่านมาต้องหยุดพักการแข่งระหว่างเกม เนื่องจากมีแฟนบอลวูบบนอัฒจันทร์ ทำให้แพทย์สนามต้องช่วยชีวิตเป็นการเร่งด่วน
เกมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนัดกลางสัปดาห์เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา คู่ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือศึกสายเลือดเมืองลิเวอร์พูล ซึ่งปรากฏว่าทีมของคล็อปป์โชว์ฟอร์มร้อนแรงบุกไปเอาชนะเอฟเวอร์ตันภายใต้การนำของ ราฟาเอล เบนิเตซ อดีตผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลได้อย่างเด็ดขาดถึง 4-1 จากประตูของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ดีโอโก โชตา และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่เหมาทำคนเดียว 2 ประตู
จากฟอร์มดังกล่าวทำให้ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันกล่าวชื่นชมลูกทีมอย่างมาก “นี่เป็นฟอร์มที่ดีที่สุดที่เราเคยทำได้ในการมาเยือนกูดิสัน
“หลังจากนี้ผมคงจะได้ดูเกมอย่างมีความสุข เพราะผมรู้ผลการแข่งขันแล้ว และมันจะช่วยได้ คืนนี้มีช่วงเวลาที่ผมรู้สึกมีความสุขเยอะมาก ผมรักในสิ่งที่ผมได้เห็น
“ในครึ่งแรกมีช่วงเวลาที่เราเล่นกันได้อย่างสุดยอดมาก ในช่วงพักครึ่งเรากลับมาควบคุมเกมได้ เราแสดงให้เด็กๆ ในทีมได้เห็นสถานการณ์ 2-3 รูปแบบและวิธีที่จะเล่นเกมรับ ซึ่งจะช่วยทำให้ ซาดิโอ มาเน และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้มีโอกาสหลุดไปดวล 1 ต่อ 1 ขึ้นอีกมาก
“นอกจากจังหวะที่เสียประตูแล้ววันนี้ผมให้ 9 เต็ม 10 สำหรับทุกคน”
ขณะที่เกมคู่ระหว่างวัตฟอร์ดและเชลซี ซึ่งจบลงด้วยชัยชนะของทีมจ่าฝูง 2-1 นั้นต้องหยุดพักหลังเริ่มไปแล้ว 12 นาที เนื่องจากนักฟุตบอลได้รับแจ้งว่ามีแฟนบอลหัวใจวายบนอัฒจันทร์ ทำให้มีการประสานแจ้งให้แพทย์รุดไปช่วยชีวิตเป็นการเร่งด่วนและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังจากนั้น ซึ่งนักเตะทั้งสองทีมตกลงที่จะไม่แข่งขันต่อจนกว่าแฟนบอลรายดังกล่าวจะปลอดภัย
เช่นเดียวกันกับเกมระหว่างเซาแธมป์ตันกับเลสเตอร์ ซิตี้ที่สนามเซนต์แมร์รี เริ่มต้นครึ่งหลังช้ากว่ากำหนดเช่นกัน หลังจากที่มีแฟนบอลเกิดวูบในช่วงพักครึ่ง แต่ไม่ได้มีอาการหัวใจวายแต่อย่างใด โดยโฆษกสนามได้ประกาศเสียงตามสายว่า “ครึ่งเวลาหลังจะมีการเริ่มช้ากว่ากำหนด เนื่องจากมีการช่วยชีวิตฉุกเฉินบนอัฒจันทร์” ซึ่งหลังจากที่แฟนบอลรายดังกล่าวได้สติแล้วจึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนที่เกมจะกลับมาทำการแข่งขันต่อไป
อ้างอิง:
