เจอร์เกน คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล เรียกนักเตะและทีมงานทุกคนออกมาขอบคุณแฟนบอลชาวเดอะค็อป หลังจากที่ลูกทีมสร้างปาฏิหาริย์พลิกสกอร์ที่ถูกนำก่อนในเลกแรก 3-0 กลับมาเอาชนะบาร์เซโลนาในถิ่นแอนฟิลด์ถึง 4-0 จากลูกยิงของ ดิว็อก โอริกี และจอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม เหมาคนละ 2 ประตู เอาชนะด้วยสกอร์รวม 2 นัด 4-3 เข้ารอบชิงชนะเลิศศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ครั้งที่ 2 ติดต่อกัน
เกมที่สนามแอนฟิลด์เมื่อคืนวันที่ 7 พฤษภาคม บรรยากาศเต็มไปด้วยกำลังใจของเจ้าถิ่น ลิเวอร์พูลแม้ว่าพวกเขาจะถูกนำก่อน 3-0 จากเลกแรกที่บุกไปเยือนถิ่นคัมป์นู
โดยเฉพาะ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงชาวอียิปต์ที่ปลุกสปิริตของทั้งสนามด้วยการเดินเข้ามาพร้อมกับเสื้อสีดำที่เขียนข้อความสั้นๆว่า ‘ไม่มีวันยอมแพ้’ และทั้งทีมก็ได้ทำตามคำนั้น โดยดิว็อก โอริกี ตัวสำรองที่ลงมาแทนซาลาห์เหมา 2 ประตู
ขณะที่ 2 ประตูของจอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ที่เกิดขึ้นในนาทีที่ 54 และ 56 เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่สตีเวน เจอร์ราร์ด และวลาดิเมียร์ ซมิเซอร์ ยิงในเกมนัดชิงยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกที่อิสตันบูลเมื่อปี 2005
“มันเป็นค่ำคืนที่วิเศษมาก การเอาชนะชนะบาร์เซโลนาเป็นสิ่งที่ยากที่สุดในโลกฟุตบอล แต่การเอาชนะบาร์เซโลนาหลังจากที่คุณตามหลังอยู่ถึง 3-0 และการยิง 4 ประตูโดยไม่เสียประตูเลยเป็นสิ่งที่ยากยิ่งกว่า” คล็อปป์ให้สัมภาษณ์หลังเกม
“ดังนั้นเราจึงไม่คิดถึงมันมาก เราแค่พยายามที่จะสร้างผลงานที่ดีทีละขั้นตอน กลายเป็นเรื่องยากที่จะลงแข่งขันกับพวกเขา แต่ด้วยกำลังใจที่มหาศาล และทักษะฟุตบอลซึ่งเป็นสิ่งที่สวยงาม ผมบอกกับนักเตะก่อนเกม มันดูเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่เพราะคุณมีจิตวิญญาณของนักสู้ที่ยิ่งใหญ่ เราจึงมีโอกาส
“สิ่งที่พวกเขาได้ทำเป็นสิ่งที่พิเศษ ผมจะจดจำมันตลอดไป และผมไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่
“สำหรับผมสโมสรแห่งนี้มีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ และคืนนี้เสียงของมันดังกระหึ่มไปทั่วโลก ผมมีความสุขที่เราสามารถมอบประสบการณ์นั้นให้กับทุกคนได้ ผมมีความสุขที่ได้โอกาสทำสิ่งที่ถูกต้องอีกครั้ง”
สำหรับยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกรอบชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูลผ่านเข้าไปรอพบผู้ชนะระหว่าง อาแจ็กซ์ หรือ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน ในวันที่ 1 มิ.ย.
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
