ชัยชนะ 2 นัดรวดในเกมอุ่นเครื่องเหนือลิเวอร์พูลและเมลเบิร์น วิกตอรี กับระบบการเล่นใหม่ สไตล์ที่น่าประทับใจ และการเริ่มได้นักเตะใหม่เข้ามาเสริมทัพต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้ทำให้เหล่าแฟนบอลทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มกลับมามีรอยยิ้มได้อีกครั้ง

โดยล่าสุดหลังจากที่ได้ ไทเรลล์ มาลาเซีย แบ็กซ้ายจากเฟเยนูร์ด และ คริสเตียน อีริกเซน กองกลางมันสมองที่ได้ตัวมาร่วมทีมแบบฟรีๆ ไม่มีค่าตัว เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เผยข่าวดีว่าสามารถบรรลุข้อตกลงกับอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในการคว้าตัว ลิซานโดร มาร์ติเนซ กองหลังดีกรีทีมชาติอาร์เจนตินาวัย 24 ปีมาด้วยค่าตัว 55.3 ล้านปอนด์

ในเงินจำนวนนี้จะแบ่งเป็นเงินก้อนแรกจำนวน 46.8 ล้านปอนด์ และอีก 8.5 ล้านปอนด์ที่จะจ่ายตามเงื่อนไข ส่วนมาร์ติเนซจะเซ็นสัญญาระยะเวลา 5 ปีในโอลด์แทรฟฟอร์ด พร้อมออปชันในการขยายระยะเวลาออกไปอีก 12 เดือนด้วยกัน

ว่าแต่หลายคนอาจยังไม่คุ้นเคยกับกองหลังรายนี้ และสงสัยว่าทำไมผู้จัดการทีมอย่าง เอริก เทน ฮาก จึงต้องกลับไปยังทีมเก่าเพื่อคว้าตัวมาร่วมทีมด้วย

มาลองทำความรู้จักกับนักเตะเจ้าของสมญา ‘พ่อค้าเนื้อแห่งอัมสเตอร์ดัม’​ (Butcher of Amsterdam) กันดู

5.9 ฟุตก็สุดได้

หากเราใช้ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์​, อิบราฮิมา โกนาเต, คาลิดู คูลิบาลี เป็นมาตรฐานสำหรับกองหลังระดับท็อปของยุคนี้แล้ว ลิซานโดร มาร์ติเนซ จะสอบตกตั้งแต่แรกเห็นทันที

เพราะนักเตะรายนี้มีความสูงเพียงแค่ 5 ฟุต 9 นิ้ว หรือราว 179 เซนติเมตรเท่านั้น

แต่เพราะกองหลังที่ดีไม่ได้วัดกันที่ ‘ขนาด’ เสมอไป และมาร์ติเนซก็มีหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าส่วนสูงของเขาไม่ใช่ข้อด้อยแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม ถึงจะมีรูปร่างเล็ก แต่ผลงานในลีกดัตช์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เขาเป็นคนที่มีอัตราการโหม่งชนะ (Aerial Duel) สูงถึง 80 ครั้ง มากยิ่งกว่า แฮร์รี แม็กไกวร์ ซึ่งมันอาจไม่ยุติธรรมนัก เพราะเล่นกันคนละลีกและบริบทที่แตกต่างกัน ที่สูงกว่าถึง 7 นิ้ว ถึง 5 ครั้ง

จัดเต็มทุกดอก! นักสู้ที่จะจุดไฟให้แฟนบอล

คนขายเนื้อแห่งอัมสเตอร์ดัม

มาร์ติเนซได้รับสมญา ‘The Carnicero’ หรือ ‘คนขายเนื้อแห่งอัมสเตอร์ดัม’ ซึ่งเป็นสมญาที่ฟังดูโหดและเหี้ยมเกรียม จนชวนให้คิดถึงปราการหลังสายโหดชาวอาร์เจนไตน์ระดับตำนานหลายต่อหลายคนในอดีต (อาจจะรวมถึง กาเบรียล ไฮน์เซ ด้วย)

แต่ที่คนเรียกแบบนั้นเพราะดาวเตะอาร์เจนไตน์รายนี้เป็นนักเตะที่มีเลือดนักสู้สูง สู้ทุกช็อต สู้ทุกจังหวะ ไม่มีความกลัวความเกรงใดๆ

“ผมได้รับสมญานี้เพราะพวกเราชาวอาร์เจนไตน์จะทำทุกอย่างด้วยใจอย่างเต็มที่ เวลาที่ลงสนามผมจะสู้ทุกจังหวะ ต่อให้ต้องข้ามศพผมก็ทำ” มาร์ติเนซเคยให้สัมภาษณ์ถึงสมญาของตัวเอง “จังหวะ 50-50 ผมสู้ทุกครั้ง เพราะผมรู้ว่าผมสู้เพื่อข้าวปลาอาหารของทุกคนในครอบครัวและเพื่อนๆ นี่คือสิ่งที่ผมและคนอาร์เจนไตน์ทุกคนรู้สึก มันเป็นแรงกระตุ้นที่ผมไม่สามารถอธิบายได้”

กระนั้นถึงจะได้สมญานี้ แต่เขาได้ใบเหลืองจากการลงเล่นตลอดฤดูกาลที่แล้วแค่ 6 ใบเท่านั้นจากการลงสนาม 36 นัด น้อยกว่า ลุค ชอว์ (11) หรือแม็กไกวร์ (9) ด้วยซ้ำไป

การเปิดเกมคือหัวใจ

การเล่นที่ดุดันไม่ใช่หัวใจสำคัญแค่อย่างเดียวในสไตล์การเล่นของมาร์ติเนซ เพราะเหตุผลจริงๆ ที่ทำให้ เอริก เทน ฮาก ต้องพยายามรบเร้า จอห์น เมอร์โท ผู้อำนวยการสโมสร อย่างหนัก เพื่อให้เอาชนะอาร์เซนอล อีกทีมที่ต้องการตัวเช่นกันให้ได้คือเรื่องของสไตล์การเล่น

กองหลังถนัดซ้ายรายนี้เป็นนักเตะที่เปิดเกมรุกจากแนวรับได้ดีมาก โดยสถิติในการเปิดบอลขึ้นหน้าของเขาเฉลี่ยต่อ 90 นาทีในฤดูกาล 2021/22 นั้นสูงเกินกว่า 30 ครั้ง ซึ่งเทียบกับนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ดแล้วเหนือกว่ามาก และไม่ต้องวัดถึงจำนวนการผ่านบอลเฉลี่ยโดยรวมต่อ 90 นาทีเลย เพราะสูงกว่านักเตะปีศาจแดงทั้งทีมมาก

เจมส์ โรว์ ผู้เชี่ยวชาญด้านฟุตบอลดัตช์ ให้ความเห็นเกี่ยวกับมาร์ติเนซว่า “เขาทำผลงานได้น่าประทับใจตั้งแต่ย้ายมาจาก ดีเฟนซา อี ฮุสติเซีย ก็สามารถแจ้งเกิดได้ทันที เป็นส่วนหนึ่งในทีมที่เอาชนะพีเอสวีได้ 2-0 ในรายการโยฮันครัฟฟ์ชิลด์ ปี 2019

“สิ่งที่ทำให้เขาโดดเด่นคือความนิ่งในการครองบอล ฝากความเชื่อมั่นได้ในหัวใจของเกมรับ และการเปิดบอลที่ทำได้หลากหลายระยะ”

ดังนั้นนี่คือสิ่งที่แฟนบอลแมนฯ ยูไนเต็ด จะสามารถคาดหวังได้ว่า ในที่สุดทีมจะมีกองหลังที่สามารถเปิดเกมจากแนวรับได้บ้าง และอาจทำให้ทีมเล่นในระบบสมัยใหม่ด้วยการยืน High-Line เพื่อเล่นเพรสซิงแบบเต็มระบบ

วัดกับ ดาร์วิน นูนเญซ หัวหอกลิเวอร์พูลมาแล้ว ในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และจะได้เจอกันอีกครั้งในพรีเมียร์ลีก 

แบ็กซ้าย กลางรับ หรือเซ็นเตอร์ฮาล์ฟฝั่งซ้าย?

ในทีมอาแจ็กซ์ มาร์ติเนซลงเล่นได้ทั้งแบ็กซ้ายและกองกลางตัวรับ แต่กับแมนฯ ยูไนเต็ด คาดหวังได้ว่าเขาจะถูกขยับเข้ามายืนเป็นกองหลังตัวกลางฝั่งซ้าย เพราะแบ็กซ้ายนั้นมีมาลาเซีย และในตำแหน่งกองกลางนั้นแน่นแล้วทั้งเฟร็ด, สกอตต์ แมคโทมิเนย์ ไปจนถึงตัวใหม่อย่างอีริกเซน และคาดหวังว่าจะมี แฟรงกี เดอ ยอง เข้ามาอีกในเร็วๆ นี้

สำหรับกองหลังฝั่งนี้เดิมเป็นตำแหน่งของแม็กไกวร์เป็นหลัก และหากไม่ใช่กัปตันทีมแห่งโอลด์แทรฟฟอร์ดแล้วจะเป็น ราฟาเอล วาราน, วิกตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่จะลงสนามแทน ซึ่งหลังการย้ายมาของมาร์ติเนซ เชื่อว่าเขาจะได้เป็นตัวหลักและคนอื่นจะชิงตำแหน่งทางฝั่งขวาแทน

“ลิซานโดร มาร์ติเนซ เป็นกองหลังฝั่งซ้าย ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เขาเล่นให้เทน ฮาก ในทีมอาแจ็กซ์ และดูเหมือนมันจะชัดเจนว่าเขาจะได้เข้ามายึดตำแหน่งในทีมทันที” ไซมอน สโตนส์ ผู้สื่อข่าว BBC ที่เกาะติดแมนฯ ยูไนเต็ดเป็นหลัก ให้ความเห็น

และนี่คือเรื่องราวของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่เราได้ทำความรู้จักกันเบื้องต้น และจะได้รู้จักมากขึ้นยิ่งกว่านี้อีก เมื่อได้เห็นฟอร์มการเล่นแบบชัดๆ หลังจากนี้

อ้างอิง:

• https://www.bbc.com/sport/football/62183258
• https://www.thetimes.co.uk/article/lisandro-martinez-manchester-united-confirm-agreement-to-sign-defender-from-ajax-in-55m-deal-96wj63qlf