แม้เศรษฐกิจจะผันผวน แต่ตลาดสินค้าหรู (Luxury) ในไทยกลับเติบโตอย่างร้อนแรงถึง 4 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด! The 1 Insight เปิดเผยข้อมูลสุดเซอร์ไพรส์ พบว่ากลุ่มวัยรุ่น Gen Z กำลังก้าวขึ้นเป็นดาวรุ่งในตลาดนี้ ด้วยกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และที่น่าสนใจคือ สินค้าบิวตี้กลับมาแรงแซงโค้งสินค้าแฟชั่นแบบไม่เห็นฝุ่น!
ปรากฏการณ์ ‘Lipstick Effect’ กำลังเกิดขึ้นในไทย เมื่อกำลังซื้อโดยรวมลดลง แต่ยอดขายสินค้าบิวตี้กลับพุ่งสูงขึ้นถึง 10% เมื่อเทียบกับสินค้าแฟชั่น สินค้าบิวตี้กลายเป็นตัวช่วยชุบชูจิตใจในราคาที่จับต้องได้ ลิปสติก พาเลตต์แต่งหน้า และน้ำหอม คือดาวเด่นที่ครองใจนักช้อป โดยเฉพาะอย่างยิ่งลิปสติกที่สามารถเปลี่ยนลุคและเพิ่มความมั่นใจได้ในพริบตา กลายเป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้สำหรับสาวๆ ทุกวัย
แต่ละเจเนอเรชันก็มีรสนิยมที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน Gen Z ทุ่มไม่อั้นให้กับเครื่องสำอาง น้ำหอม และสกินแคร์ สะท้อนถึงความใส่ใจในการดูแลตัวเองและการสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่น ขณะที่ Gen Y ยังคงหลงใหลในแฟชั่น สกินแคร์ และน้ำหอม ซึ่งเป็นการลงทุนเพื่อความสวยงามและความมั่นใจในระยะยาว
ด้าน Gen X และ Baby Boomers เน้นดูแลตัวเองด้วยสกินแคร์เป็นหลัก แต่ก็ยังไม่ทิ้งแฟชั่นและเมกอัพ เพื่อคงความอ่อนเยาว์และดูดีอยู่เสมอ
แบรนด์ระดับโลกต่างเล็งเห็นศักยภาพของ Gen Z จึงงัดกลยุทธ์ออกมาดึงดูดใจวัยรุ่นกันอย่างคึกคัก ทั้งการใช้ดาราและอินฟลูเอ็นเซอร์ขวัญใจวัยรุ่น การสร้างเรื่องราว (Storytelling) ที่สะท้อนตัวตน และการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม (Sustainability)
เหล่านี้เป็นประเด็นที่ Gen Z ให้ความสำคัญอย่างมาก เช่น การผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ หรือการสนับสนุนโครงการเพื่อสังคมต่างๆ
ถึงกระนั้น แบรนด์ก็ยังไม่ทิ้งลูกค้ากลุ่มอื่นๆ โดยเฉพาะ Gen Y ที่มีความภักดีต่อแบรนด์สูง และมักจะซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่ชื่นชอบซ้ำๆ แม้จะมีตัวเลือกอื่นๆ ในตลาดก็ตาม รวมถึง Gen X และ Baby Boomers ที่ยังคงเป็นกำลังซื้อหลักในตลาดลักชัวรี และมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าที่มีราคาสูงกว่าและมีคุณภาพดีกว่า
นอกจากช่องทางออนไลน์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ช่องทางหน้าร้านก็ยังคงสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับ Gen X และ Baby Boomers และนักช้อปสายลักชัวรีส่วนใหญ่ ที่ยังคงต้องการประสบการณ์สุดพิเศษจากการสัมผัสสินค้าจริง การได้ลองสินค้า ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ และการได้สัมผัสบรรยากาศหรูหราของร้านค้า ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ช่องทางหน้าร้านยังคงมีความสำคัญ
คำถามที่น่าสนใจคือ กลยุทธ์การตลาดแบบใดที่จะดึงดูดใจ Gen Z ได้อย่างยั่งยืน? นอกเหนือจากการใช้อินฟลูเอ็นเซอร์และการสร้าง Storytelling แบรนด์จะต้องสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและมีความหมายต่อ Gen Z อย่างไร? ความนิยมในสินค้าบิวตี้จะยังคงมาแรงแซงแฟชั่นต่อไปหรือไม่? หรือจะเป็นเพียงกระแสชั่วคราว?
และช่องทางหน้าร้านจะยังคงรักษาความสำคัญในยุคดิจิทัลได้อย่างไร? แบรนด์จะต้องปรับตัวอย่างไรเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป?
การเติบโตของตลาดลักชัวรีในไทยเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเศรษฐกิจ และเป็นโอกาสสำหรับแบรนด์ต่างๆ ในการขยายฐานลูกค้าและสร้างยอดขาย แต่ในขณะเดียวกัน แบรนด์ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายในการสร้างความแตกต่าง และดึงดูดใจลูกค้าในตลาดที่มีการแข่งขันสูง