LINE Timeline เป็นส่วนสำคัญของ LINE นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง โดยหลักแล้วจะใช้สำหรับการแบ่งปันรูปภาพ
หากเทรนด์ต่างๆ และพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ความชื่นชอบเนื้อหาวิดีโอที่เพิ่มมากขึ้นก็ชัดเจนขึ้น นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเป็น LINE VOOM ซึ่งคำว่า VOOM มาจาก Video และ Boom
การเปลี่ยนแปลงจาก LINE Timeline เป็น LINE VOOM เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2021 วัตถุประสงค์หลักที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงนี้คือการพัฒนาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ผสานสาระและความบันเทิงเข้าด้วยกัน
การที่เน้นสาระและบันเทิง เพราะ LINE VOOM รู้ว่าสงครามวิดีโอสั้นแข่งกันแรงมาก และ LINE ไม่ได้มีอาวุธที่จะเข้าไปต่อกร ดังนั้นจึงพยายามเรียนรู้และปรับตัวตามพฤติกรรมของผู้บริโภค ซึ่งในจังหวะนั้นเองจึงยังไม่ได้มีแคมเปญสื่อสารให้กับลูกค้ารับรู้
ทว่าในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ แพลตฟอร์มต้องเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ นั่นคือการขาดการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพกับผู้ใช้ ผู้ชมไม่รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลง ซึ่งทำให้ LINE VOOM ต้องเอาชนะความท้าทายนี้ด้วยการเตรียมที่จะสร้างการรับรู้ผ่านแคมเปญ เพื่อทำให้รู้ว่า LINE VOOM แตกต่างจากโซเชียลมีเดียอื่นๆ อย่างไร
แม้จะขาดการสื่อสารเบื้องต้น แต่ LINE VOOM ก็สามารถเจาะรูปแบบพฤติกรรมเฉพาะของผู้ใช้ได้ ซึ่งในขณะที่ผู้ใช้ดูเนื้อหา พวกเขามีโอกาสน้อยที่จะโต้ตอบในรูปแบบของความคิดเห็นหรือไลก์
แต่หากพวกเขาพบสินค้าหรือบริการที่น่าสนใจ พวกเขามักจะเลือกซื้อโดยตรง พฤติกรรมนี้นำไปสู่แหล่งรายได้สำหรับ LINE VOOM เนื่องจากแบรนด์ต่างๆ มองเห็นศักยภาพในรูปแบบนี้ และตัดสินใจโฆษณาหรือขายผลิตภัณฑ์ของตนผ่านแพลตฟอร์ม
ฟิลลิป คิม หัวหน้าฝ่าย LINE VOOM ย้ำว่าเป้าหมายหลักของ LINE VOOM ไม่ใช่การสร้างรายได้ ในทางกลับกันทีมงานมุ่งเน้นไปที่การสร้างแพลตฟอร์มที่ตอบสนองฐานผู้ใช้ และดึงดูดผู้ใช้ได้มากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ต้องการสร้างพื้นที่ที่ผู้ใช้สามารถสร้างและแชร์ทั้งภาพนิ่งและเนื้อหาวิดีโอสั้นๆ ที่ให้ข้อมูล ความบันเทิง และแชร์ได้ง่าย
ด้วยจำนวนผู้ใช้ทั้งหมด 35 ล้านคนในปัจจุบัน LINE VOOM จึงเป็นบริการที่มีผู้ใช้มากเป็นอันดับ 2 บนแพลตฟอร์ม LINE ซึ่งมีผู้ใช้ทั้งหมด 53 ล้านคน
ยิ่งไปกว่านั้น ฐานผู้ใช้ LINE VOOM ไม่ได้กระจุกตัวในเขตเมืองแต่ค่อนข้างหลากหลาย ผู้ใช้มากกว่า 57% อาศัยอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด โดยมีการผสมผสานระหว่างช่วงอายุ ไลฟ์สไตล์ วัฒนธรรม และพื้นที่ที่อยู่อาศัย
ผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ในกลุ่มอายุ 30-39 ปี และผู้สูงอายุที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ที่น่าสนใจคือกลุ่มผู้สูงอายุมีอัตราการรับชมเนื้อหาเพิ่มขึ้น 7% โดยมีระยะเวลารับชมเฉลี่ย 40-50 นาทีต่อวัน
LINE VOOM ยังมียอดการรับชมคอนเทนต์ต่อเดือนสูงถึง 3.9 พันล้านวิว และมียอดการสร้างคอนเทนต์เฉลี่ยต่อวันสูงถึง 5 แสนคอนเทนต์ โดยคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมสูงใน LINE VOOM ได้แก่ การรีวิวสินค้า อินฟลูเอ็นเซอร์สูงวัย ไลฟ์สไตล์ สาระบันเทิง และข่าวสาร ซึ่งข้อมูลทั้งหมดสะท้อนถึงความโดดเด่นและแตกต่างของ LINE VOOM จากโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่มักมีผู้ใช้งานเป็นคนรุ่นใหม่ อายุน้อย มีไลฟ์สไตล์แบบสังคมเมือง
LINE VOOM กลายเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของผู้ใช้งานคนไทยทุกคน ให้สามารถใช้งานได้อย่างง่ายบนแพลตฟอร์มที่คุ้นเคย ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่มเติมเพื่อใช้งาน เป็นพื้นที่ศักยภาพของแบรนด์หรือธุรกิจที่อยากเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ทั้ง อายุ ไลฟ์สไตล์ และวัฒนธรรม
ความหลากหลายนี้หาไม่ได้บนแพลตฟอร์มยอดนิยมอื่น และเป็นพื้นที่ให้ครีเอเตอร์ได้แสดงตัวตนที่แท้จริง ไม่ต้องแต่งเติมไปตามกระแสใดๆ ของแพลตฟอร์ม และมีโอกาสในการเข้าถึงผู้ชมที่เป็นผู้ใช้งาน LINE กว่า 53 ล้านคน