×

ไขความลับ ทำไม LINE MAN ถึงครองใจผู้บริโภค [Advertorial]

19.12.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 MINS READ
  • LINE MAN เตรียมเข้าสู่การให้บริการคนไทยในปีที่ 3 แล้วในเดือนพฤษภาคม 2562 โดยเป็นบริการของคนไทยที่เกิดขึ้นเพื่อคนไทยอย่างแท้จริง ซึ่ง LINE ในประเทศอื่นๆ ก็ไม่ได้มีบริการ LINE MAN เหมือนกับเรา
  • เป็นโมเดลธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาก ปัจจุบันมีผู้ใช้งานมากกว่า 1.5 ล้านรายต่อเดือน มีบริการแยกออกเป็น 5 หมวดย่อยได้แก่ สั่งอาหาร, เมสเซนเจอร์,​ ซื้อของสะดวกซื้อ, ส่งพัสดุผ่านไปรษณีย์ และเรียกรถแท็กซี่
  • เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคไปโดยสิ้นเชิง เปรียบเสมือนผู้ช่วยในชีวิตประจำวันที่พร้อมจะเปลี่ยนเรื่องยากๆ จากปัญหารถติดของคนกรุงเทพฯ ให้กลายเป็นเรื่องง่าย เช่น อยากทานร้านอาหารเจ้าเด็ดก็ไม่ต้องเดินทางไปต่อคิวด้วยตัวเอง สามารถทำได้ผ่าน LINE MAN

รู้ไหมว่าในแต่ละปี คนกรุงเทพฯ ต้องเสียเวลาให้กับการจราจรสุดแออัดแค่ไหน?

 

INRIX บริษัทรวบรวมข้อมูลสถิติด้านการจราจร และการขับขี่ทั่วโลกยกให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองรถติดอันดับ 11 ของโลกเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา เฉลี่ยแล้วในแต่ละปี เราจะต้องใช้เวลาบนถนนมากถึง 64 ชั่วโมง (Peak hours
spent in congestion)

 

ที่เลวร้ายกว่าน้ันคือไทยคว้าแชมป์รถติดโลก 2 ปีซ้อนแล้ว โดยคนไทยต้องเสียเวลาบนถนนในช่วงการจราจรแออัดเฉลี่ยปีละประมาณ 56 ชั่วโมง!

 

 

ปัญหารถติดบางส่วนของคนกรุงเทพฯ ได้ถูกแก้ไขให้ทุเลาลงไปเปราะหนึ่ง หลังการเกิดขึ้นของ LINE MAN ในประเทศไทยตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2559 ซึ่งไทยถือเป็นประเทศแรกและประเทศเดียวที่ LINE ให้บริการรูปแบบนี้ โดยปัจจุบันให้บริการมายาวนานต่อเนื่องและเตรียมจะฉลองครบรอบ 3 ขวบแล้ว ฮิตจนมียอดผู้ใช้งานมากกว่า 1.5 ล้านรายต่อเดือน แถมมีรูปแบบบริการที่หลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการดังนี้

 

 

  1. บริการสั่งซื้ออาหาร (Food Delivery): ครอบคลุมร้านอาหารจากทั่วกรุงเทพฯ กว่า 40,000 ร้านเลิศรสบนฐานข้อมูลของ Wongnai มีตั้งแต่ร้านอาหารนานาชาติ อาหารไทย ร้านอาหารบนรถฟู้ดทรัก ยันสตรีทฟู้ดซึ่งเป็นเสน่ห์ที่หาได้เฉพาะบน LINE MAN ที่เดียว

 

 

  1. บริการรับส่งสิ่งของ (Messenger): บริการรับจัดส่งของโดยเมสเซนเจอร์มืออาชีพจาก Lalamove ส่งทันทีในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เฉลี่ยภายใน 29 นาที (โดยระยะทางเฉลี่ยในการส่งคือ 14 กิโลเมตร) เหมาะกับการส่งแบบฉุกเฉินและเร่งด่วน

 

 

  1. บริการสั่งของสะดวกซื้อ (Convenience Goods): บริการสั่งซื้อสินค้าจากเซเว่น อีเลฟเว่น พร้อมส่งตรงถึงมือผู้ใช้บริการ จำกัดระยะทางจัดส่งใกล้สุดแค่ 5 เมตร นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจจาก LINE ที่ระบุอีกด้วยว่า ‘น้ำแข็ง’ และ ‘โซดา’ คือ 2 ผลิตภัณฑ์ที่มีคนสั่งเข้ามาบนแพลตฟอร์มมากที่สุด

 

 

  1. บริการรับส่งสิ่งของผ่านไปรษณีย์ (Parcel): บริการจัดส่งพัสดุและขนส่งสินค้าผ่านไปรษณีย์ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนปี 2560 พร้อมรับประกันความเสียหายสูงสุด 2,000 บาทต่อครั้ง เลือกผู้ให้บริการได้ทั้ง Alpha Fast, Ninja Van และไปรษณีย์ไทย ช่วงเวลาดึกสุดที่พนักงาน LINE MAN จะเข้ารับพัสดุจากผู้ใช้บริการคือ 22.00 น. เพื่อแก้เพนพอยต์ของผู้ใช้งานที่เลิกงานดึกๆ ไม่สามารถเดินทางไปไปรษณีย์

 

 

  1. บริการเรียกแท็กซี่ (Taxi): บริการน้องใหม่สุดของ LINE MAN ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ภายใต้ความร่วมมือกับสหกรณ์แท็กซี่สยาม จำกัด ถูกกฎหมาย 100% และไม่ Disrupted ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการเดินทางที่ปลอดภัย

 

เข้าสู่ปีที่ 3 LINE MAN โดดเด่นเหนือผู้อื่นด้วยกลยุทธ์ที่เข้าใจทุกฝ่าย

LINE MAN ก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าตลาดได้รวดเร็ว เนื่องจากเป็นโมเดลธุรกิจที่กำเนิดขึ้นมาเพื่อหวังจะตอบเพนพอยต์ของคนเมืองที่แท้จริง ทั้งยังช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้ผู้ใช้ได้แบบไร้เรื่องกังวลใจ

 

ครั้งหนึ่งทีมงาน THE STANDARD เคยได้แลกเปลี่ยนมุมมองกับ อริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย และทราบมาว่าจุดกำเนิดของ LINE MAN เกิดจาก ‘วินมอเตอร์ไซค์และอาหาร’ เนื่องจากสองสิ่งนี้คือเรื่องที่ใกล้ตัวคนไทยกว่าที่คิด

 

 

อริยะ และ LINE เห็นว่าตลาดในตอนนั้นมีผู้ให้บริการส่งอาหารเจ้าอื่นๆ อยู่มาก แต่ปัญหาในมุมผู้ใช้คือตัวเลือกและประเภทของร้านอาหารกลับไม่หลากหลาย มีให้เลือกแค่ร้านอาหารราคาปานกลางค่อนไปทางสูง ตัวเจ้าของร้านอาหารเองก็โดนหักค่าคอมมิชชันจากฝั่งผู้ให้บริการที่ราว 20-30%  

 

จากจุดนี้เองจึงทำให้ LINE MAN ไปทำการบ้านต่อ และทำความรู้จักกับร้านสตรีทฟู้ดจนดึงมาให้บริการขายอาหารบนแพลตฟอร์มของตนได้สำเร็จ ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกร้านอาหารที่หลากหลายในแต่ละวัน โดยไม่ต้องไปเสียเวลาวนหาที่จอดรถหรือไปเข้าคิวด้วยตัวเอง

 

 

การหยิบเพนพอยต์มาปั้นให้เป็นโอกาสคือส่ิงที่ทำให้ LINE MAN ก้าวเข้ามาอยู่ในสังเวียนนี้ได้อย่างโดดเด่น ด้วยความตั้งใจที่มุ่งหวังจะ ‘เข้าใจ’ ตัวละครทั้ง 2 ฝั่งอย่างเท่าเทียมจริงๆ ไม่ว่าจะผู้บริโภคหรือผู้ให้บริการ (ร้านอาหาร, คนขับแท็กซี่) แล้วค่อยๆ ปรับรายละเอียดในฟังก์ชันการให้บริการให้ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการมากที่สุดแบบ Localization ตัวอย่างเช่น เข้ารับพัสดุจนถึง 22.00 น. ไม่เก็บค่าชาร์จกับผู้ประกอบการร้านอาหาร และไม่ Disrupted ผู้ประกอบการแท็กซี่

 

เรียกได้ว่าแม้จะไม่ใช่ผู้ให้บริการรายแรกที่เข้ามาบุกตลาดบริการ Food Delivery หรือเมสเซนเจอร์ในไทย แต่สิ่งที่ LINE หรือ LINE MAN ทำได้เหนือกว่าคู่แข่งคือการเข้าใจทั้งฝั่งผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ แล้วนำความเข้าใจที่มีมาวางพิมพ์เขียวออกแบบบริการด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย นอกจากนี้การมีผู้ใช้งาน LINE ในไทยที่ 44 ล้านคนในปัจจุบัน ก็ถือเป็นข้อได้เปรียบของพวกเขาด้วย

 

LINE MAN เปลี่ยนพฤติกรรมคนไทยได้อย่างไร?

ตั้งแต่ LINE MAN เริ่มให้บริการในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ไลฟ์สไตล์ของใครหลายๆ คนก็เริ่มลงตัวมากขึ้น ไม่ต้องไปต่อคิวที่ร้านอาหาร ติดประชุมอยู่ก็สั่งให้ LINE MAN หิ้วเอาอาหารจากร้านเจ้าเด็ด หรือชานมไข่มุกร้านโปรดมาส่งถึงออฟฟิศได้ทันที หรือถ้าสังสรรค์อยู่กับเพื่อนๆ แล้วไม่อยากขาดตอนพลาดจังหวะสำคัญ LINE MAN ก็มีบริการรับส่งสินค้าจากเซเว่น อีเลฟเว่น เหมือนกัน

 

แม้แต่ในวันที่การจราจรไม่เป็นใจ โบกรถแท็กซี่กี่คันๆ ก็ถูกปฏิเสธ การเรียกใช้บริการแท็กซี่ของสหกรณ์แท็กซี่สยาม บน LINE MAN ก็ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้เลยว่าจะไม่ถูกปฏิเสธการใช้บริการแน่นอน

 

โดยเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดของ LINE MAN ต่อจากนี้คือการทลายนิยามเดิมของการเป็นผู้ให้บริการลงไป แล้วยกระดับขึ้นมาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวในชีวิตประจำวัน (Daily Life Assistant) ของเราทุกคนที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือผู้บริโภคในทุกๆ ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน

 

ความสบายและความรวดเร็วจึงไม่ใช่เพียงแค่ 2 สิ่งเท่านั้นที่ LINE MAN จะมอบให้กับเราในฐานะผู้ใช้งานได้ แต่การมีผู้ช่วยที่ ‘รู้ใจ’ และเข้าใจเราคือสิ่งที่พวกเขาเป็นให้เราได้ดีที่สุด สมกับมอตโต้ของแบรนด์ที่ว่า LINE MAN ที่สุดเพื่อคุณ

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X