The Gilder Center คืออาคารโซนใหม่ของ American Museum of Natural History หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ห้ามพลาดของนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา พื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงจุดกำเนิดโลก ไปจนถึงโลกอนาคต เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย นอกเหนือความรู้แบบเน้นๆ ยังถ่ายรูปสนุก และคาเฟ่ที่ชั้น 2 ก็เหมาะมากสำหรับมื้ออาหารระหว่างการเดินชม ซึ่งแน่นอนว่าใช้เวลาได้เกือบทั้งวัน
ตัวอาคาร The Gilder Center ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อไม่นานมานี้ เชื่อมต่อกับชั้น 4 อาคารหลักของ American Museum of Natural History ที่นักท่องเที่ยวทุกคนน่าจะรู้จักกันดี การออกแบบก็ทำมาตอบโจทย์การใช้งานและยุคสมัย ก็คือการทำโถงกลางให้เหมือนกับถ้ำ เจาะช่องน้อยใหญ่ เป็นจุดเช็กอินและจุดถ่ายรูปแชร์ให้ผู้คนในโลกโซเชียล ซึ่งตัวโถงกลางนี้ยังเชื่อมต่อชั้นต่างๆ ที่มีนิทรรศการหลากหลาย รวมถึงร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึก
นิทรรศการสำคัญๆ ของ The Gilder Center เป็นแบบ Immersive Experience ที่ผู้เข้าชมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในประสบการณ์ เป็นมิตรกับการถ่ายรูป วิดีโอ อย่างเช่น An Insectarium, Butterfly Vivarium, Invisible Worlds ในบางนิทรรศการต้องจองตั๋วล่วงหน้า รวมถึงเสียค่าเข้าชมต่างหาก
Invisible Worlds
นิทรรศการแบบ Immersive Experience ที่พาเราล่องลอยไปในอวกาศ แล้วย้อนกลับมาดูว่าสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้เชื่อมต่อกันอย่างไร วิธีการรับชมคือการเข้าไปยืนในโถงครึ่งวงกลมขนาดใหญ่ พร้อมด้วยจอมอนิเตอร์และตัวรับการเคลื่อนไหวจำนวนมากมาย แสดงผลออกมาแบบอินเตอร์แอ็กทีฟ 360 องศา ครบทั้งแสง สี เสียง ตั้งแต่เซลล์ต้นกำเนิดขนาดเล็กจิ๋ว วิวัฒนาการผ่านท้องทะเล จนกลายเป็นสังคมมนุษย์ในยุคดิจิทัล
Davis Family Butterfly Vivarium
ชมรมคนรักผีเสื้อต้องไม่พลาด เพราะที่นี่รวมผีเสื้อแทบทุกพันธุ์บนโลกเอาไว้ ให้เราได้เห็นทุกกระบวนการตั้งแต่ดักแด้ โผบินครั้งแรก ดูดน้ำหวาน ผสมพันธุ์ ฯลฯ การจัดนิทรรศการยังใส่ใจในรายละเอียด อย่างเช่นการจัดแว่นขยายบริเวณถังน้ำผึ้ง เพื่อให้เราได้ดูลวดลายผีเสื้อถนัดๆ นิทรรศการที่เด็กๆ ชอบมาก ส่วนผู้ใหญ่ก็เพลินสุดๆ ที่สำคัญจะมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องผีเสื้อคอยเล่าข้อมูลน่าสนใจให้ฟังตลอด
Blue Whales: Return of the Giants
ภาพยนตร์บนจอยักษ์ที่พาเราไปทำความรู้จักวาฬสีน้ำเงินที่เกือบสาบสูญไปจากโลกด้วยฝีมือมนุษย์ สารคดีย้อนรอยไปถึงจุดเริ่มต้นของการล่าวาฬ การทำงานของนักอนุรักษ์ในการติดตาม คุ้มครอง และเก็บข้อมูลของเหล่าวาฬสีน้ำเงิน จนกลับมาเป็นราชาแห่งท้องทะเลโลกอีกครั้ง
Worlds Beyond Earth
นิทรรศการอวกาศที่ตื่นตาตื่นใจเอามากๆ ตัวนิทรรศการจัดแสดงในห้องโดมครึ่งวงกลม พร้อมเก้าอี้โรงหนังที่เอนได้มากเป็นพิเศษ เพื่อรับชมสิ่งที่ปรากฏขึ้นบนจอด้านบน คล้ายการศึกษาท้องฟ้าและโลกอวกาศจริงๆ
วิธีการสร้างโชว์ค่อนข้างเข้าใจง่าย อธิบายตั้งแต่บิ๊กแบง ดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ถือกำเนิด และแยกออกเป็นดาวบริวารต่างๆ ระบบสุริยจักรวาล พร้อมค้นหาคำตอบว่าอะไรคือเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้
สำหรับแฟนพิพิธภัณฑ์ที่ยังไม่จุใจกับ Worlds Beyond Earth ก็สามารถไปต่อกับนิทรรศการ Birth of the Universe ที่ฮอลล์กลาง The Hayden Big Bang Theater สารคดีความยาว 4 นาที จะอธิบายทุกความเป็นไปเกี่ยวกับการเกิดและวิวัฒนาการของเอกภพในจักรวาลอย่างเข้าใจง่าย รับชมจบแล้ว ทางออกเป็นทางเดินวนลงไปยังด้านล่างอาคาร ที่คล้ายๆ เราเป็นหนึ่งเศษฝุ่นเศษทรายในจักรวาลค่อยๆ เดินทางผ่านกาลเวลานับหมื่นแสนล้านปีก่อน จนกระทั่งมาถึงปัจจุบัน
The Gilder Center ยังคงจะมีนิทรรศการหมุนเวียนสำหรับผู้เข้าชมเพื่อสร้างความรู้สึกใหม่อยู่ตลอดเวลา และเชื่อได้ว่าเพียงแค่เดินชมในส่วนของ The Gilder Center ก็ใช้เวลาเกือบครึ่งวันแล้ว ถ้าหากมีเวลาเหลือ สามารถเข้าชมอาคารหลักของ American Museum of Natural History ที่มีการปรับปรุงใหม่ในหลายๆ ส่วนเป็นที่เรียบร้อย
The Gilder Center
Open: เปิดทุกวัน เวลา 10.00-17.30 น., ปิดวันขอบคุณพระเจ้าและคริสต์มาส
Address: 200 Central Park West, New York, NY 10024-5102 สามารถเข้าและออกได้จากสถานีรถไฟใต้ดิน Central Park West ถนน 79 หรือบริเวณถนน 81 Street Rose Center for Earth and Space
Budget: ต้องจองตั๋วล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์ เนื่องจากพื้นที่มีจำกัด
ตั๋วสำหรับบุคคลทั่วไป ผู้ใหญ่ ราคา 28 ดอลลาร์สหรัฐ, เด็กอายุ 3-12 ปี ราคา 16 ดอลลาร์สหรัฐ, นักเรียน-นักศึกษา ราคา 22 ดอลลาร์สหรัฐ, ผู้สูงอายุเกินกว่า 60 ปี ราคา 22 ดอลลาร์สหรัฐ
Website: https://www.amnh.org/exhibitions/permanent/gilder-center
Map: