×

เลี้ยงลูกอย่างไรเมื่อมองอนาคตที่คาดเดาไม่ได้ผ่านเลนส์ของแม่ Influencer แพรว เพชรแพรว

โดย THE STANDARD LIFE
07.05.2024
  • LOADING...

เชื่อว่าเหตุผลของความปรารถนาที่จะเป็น ‘แม่’ ของผู้หญิงของแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกันออกไป แต่สำหรับ แพรว-เพชรแพรว พรพิพัทวัฒนกุล คือการอยากมอบความสุขให้กับอีกชีวิตใหม่เช่นเดียวกับที่ตนเคยได้รับอย่างอบอุ่น 

 

 

ทว่าย้อนกลับไปในวันวาน สิ่งที่แพรวหวังกับสิ่งที่เป็นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ความปรารถนาที่จะเป็นแม่ของเธอต้องแลกมาด้วยความพยายามอย่างหนักกว่า 2 ปี ซึ่งนั่นยิ่งเป็นสิ่งที่ตอกย้ำให้เธอรู้ว่าทุกนาทีที่เธอถูกเรียกว่า ‘แม่’ ในวันนี้เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์เพียงใด 

 

 

แพสชันของความเป็นแม่เกินร้อยของเธอจุดประกายให้เธอสวมหมวกแม่ Influencer อีกทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้ง ‘PRAEW’ คอมมูนิตี้ที่แบ่งปันประสบการณ์เรื่องราวและเคล็ดลับดีๆ ในการเลี้ยงลูกให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

S-Mom Club เชื่อว่าแม้อนาคตจะคาดเดาไม่ได้ แต่เราทุกคนเลือกที่จะเป็นแม่ในแบบของตัวเองได้ และพร้อมเผชิญกับทุกความเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วที่จะเกิดขึ้นกับลูกได้ด้วยการเตรียมพร้อมสมองที่ดีให้กับเขาตั้งแต่วันนี้ ทั้งในด้านทักษะและโภชนาการต่างๆ

 

ในฐานะตัวแทนของคุณแม่ยุคใหม่อย่างชัดเจน แนวคิดและวิธีการเลี้ยงลูกให้รับมือกับอนาคตที่คาดเดาไม่ได้ในแบบของแพรวจะเป็นอย่างไรนั้น ค้นพบคำตอบไปด้วยกันได้ทาง Passion Calling x S-Mom Club with Praew-Phetpraew Phonpiphatwattanakul

 

 

ย้อนกลับไปในวัยเด็ก แพรวเคยมีความฝันจะเป็นแม่บ้างไหม

 

จริงๆ เราไม่ได้ตั้งเป้าว่าฉันจะต้องเป็นแม่คนให้ได้อะไรอย่างนี้ค่ะ เพราะรู้สึกว่าก็มาตามช่วงวัย แล้วก็มาตามความต้องการในชีวิตที่มากขึ้น วันหนึ่งเรารู้สึกว่าเราเรียนจบแล้ว เราทำธุรกิจมาในระดับหนึ่งแล้ว แพรวรู้สึกว่าเราก็มีความสุขในครอบครัว การมีพี่น้อง การมีพ่อแม่มันดีนะ เราเลยรู้สึกอยากมอบความสุขนี้ให้กับเด็กคนหนึ่ง…เราก็เรียนรู้โลกมาในระดับหนึ่งแล้ว แต่พอมีลูกก็เป็นอีกบทเรียนหนึ่งที่เราอยากเรียนรู้ไปพร้อมกับเขา

 

 

พูดถึงความเป็นแม่ เห็นว่าแพรวใช้ความพยายามนานถึง 2 ปีในการที่จะมีลูก อยากให้แพรวเล่าถึงความรู้สึกตั้งแต่วันแรกที่เราพยายามจะมี จนวันที่เรารู้ว่ามีลูกแล้วให้ฟังหน่อย 

 

การเป็นแม่คือการพยายามมาก เพราะว่าแพรวมีลูกโดยการทำเทคนิค ICSI (อิ๊กซี่) เพราะฉะนั้นก็จะมีขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่าในรูปแบบธรรมชาติค่อนข้างมาก พอเราพยายามค่อนข้างมาก วันที่สำเร็จก็ค่อนข้างที่จะใจฟูมากๆ แต่จริงๆ แล้วก็แค่สเต็ปแรกแค่นั้นเอง จากนั้นคือต้องดูแลเขาตอนท้องแล้วก็คลอดออกมาค่ะ 

 

แพรวรู้สึกว่าวันคลอดเป็นวันที่แม่ทุกคนจะต้องจดจำไปตลอดชีวิตแน่ๆ เพราะว่ามีทั้งความกังวล ความเจ็บ แล้วก็มีทั้งสภาพร่างกายหลายๆ อย่างที่เรารู้สึก…โห มันต้องใช้การฟื้นร่างกายหนักมาก เจ็บแผล และต้องเรียนรู้การให้นม 

 

หลายคนอาจมีนิยามว่าวันคลอด อุ้มลูกมาแล้วก็ยิ้มด้วยกัน หัวเราะ ทุกอย่างมีความสุข แต่จริงๆ ค่อนข้างจะแตกต่าง ทั้งเจ็บแผลแล้วเราก็ไม่ทราบเลยว่าการให้นมครั้งแรกมันต้องเจ็บ เราไม่ทราบเลยว่าการผ่าคลอดเราต้องพลิกตัวตลอดเพื่อไม่ให้แผลยึด เป็นประสบการณ์ที่ต่างจากที่เราคิดมากค่ะ

 

ณ โมเมนต์ที่เราได้ยินเสียงลูกเป็นอย่างไร

 

โมเมนต์ที่ได้ยินเสียงลูกครั้งแรกเนี่ยมัน… (ร้องไห้) แพรวรู้สึกว่าการที่เขาอยู่ในท้องเรา เราก็ต้องรอคอยวันที่จะได้กอด เรารู้สึกว่าอยากเห็นหน้าเขาจังเลย มันเลยเป็นความรู้สึกที่วันนี้มาถึงแล้ว ใช่ค่ะ เหมือนคนที่รักกันแล้วก็อยากเจอหน้ากันมากๆ ความรู้สึกนั้นเลย แต่มันมากกว่าเพราะว่าเรารักเขาตั้งแต่เรายังไม่ได้เจอหน้าเขาเลยค่ะ

 

 

เหมือนลูกเป็นพลังฮีลความรู้สึกเจ็บ ณ วันนั้นเลย  

 

ใช่ค่ะ แพรวรู้สึกว่า ณ วันที่เราได้ยินเขา เราลืมทุกอย่างไปหมดเลย ณ ตอนนั้นก็คือเย็บแผล เจ็บแค่ไหนต่างๆ นานา ก็คือทุกอย่างมันหยุด แล้วเสียงของเขาคือคำตอบทุกอย่างเลยในความรู้สึก  

 

 

เชื่อว่าแพรวได้แชร์ความรู้สึกเหล่านี้ผ่านคอมมูนิตี้ PRAEW เหมือนกัน อะไรเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เปิดคอมมูนิตี้นี้ได้ 

 

คือมีความย้อนแย้งในตัวเองตรงที่ว่า เรารู้สึกว่าเราอยากทำงาน เพราะก่อนหน้าที่เราจะเป็นแม่ก็ชอบทำงานมากๆ แต่พอเป็นแล้วเราก็รู้สึกว่า เอ๊ะ เราต้องทิ้งลูกไปทำงานเหรอ หรือว่าการเลี้ยงลูกเราต้องเลิกทำงาน 

 

เราเลยรู้สึกว่า ฉันจะทำอย่างไรดีนะให้การเลี้ยงลูกหาเงินได้ด้วย การเลี้ยงลูกให้ดีเป็นงานได้ไหม ก็รู้สึกว่า อ๋อ ยุคนี้ถ้ามีแม่อินฟลูเอ็นเซอร์จะดีมากๆ เลยนะ ยิ่งเลี้ยงลูกดียิ่งได้เงิน ยิ่งได้อยู่กับลูกเยอะ ยิ่งมีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกัน

 

แล้วก็เกิดจากประสบการณ์ส่วนตัวด้วยค่ะ ที่แพรวรู้สึกว่าไม่มีโรงเรียนสำหรับการเป็นแม่ รู้สึกว่าอยากมีแม่สักคนที่คอยบอกว่าข้อมูลเป็นอย่างไร เหมือนแม่บอกเล่ากับแม่ เลยรู้สึกว่า โอเค ถ้างั้นเรามาทำคลิปเป็นแม่คุยกับแม่และบอกตามประสบการณ์จริง อะไรทำได้ก็บอกทำได้ อะไรทำไม่ได้ก็บอกไม่ได้ผล เหมือนมาแชร์กัน เหมือนเป็นพื้นที่ที่ถาม-ตอบกัน เหมือนเป็นพื้นที่ป้ายยา พื้นที่ระบาย เหมือนเป็นพื้นที่อวดลูกกันอะไรอย่างนี้ค่ะ  

 

 

ตั้งแต่วันแรกที่แม่แพรวสวมหมวกคุณแม่มาจนถึงวันนี้ สิ่งที่ท้าทายที่สุดในมุมของแพรวคืออะไร

 

แพรวรู้สึกว่าสิ่งที่ท้าทายของการเป็นแม่ก็คือ การที่เราต้องมีสติกับปัจจุบันมากๆ การเป็นแม่คนเป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างสำคัญ เหมือนคำที่บอกว่า “วันที่คุณเลือกเป็นแม่ คุณได้อนุญาตให้หัวใจคุณออกมาเต้นข้างนอก” ลูกเป็นผลลัพธ์ของอารมณ์ของเรา หรือการกระทำทุกอย่างของเรา เพราะฉะนั้นความท้าทายก็คือ เวลาที่เราเลี้ยงเขาเราต้องมีสติมากๆ แน่นอนทุกคนอยากเป็นแม่ที่ใจเย็น อยากเป็นแม่ที่น่ารัก อยากเป็นแม่ที่เพอร์เฟกต์ ​แต่ในชีวิตเราต้องรับมือไปตามสถานการณ์ เขาร้องขึ้นมาเราก็ต้องฮึบ มีสติ
โอเคนิ่งก่อน แต่ก็ไม่ใช่ทุกครั้งที่เราจะทำได้ 

 

 

การเป็นแม่มาพร้อมวุฒิภาวะที่เราต้องเริ่ม เราต้องเติบโตได้อย่างรวดเร็วเพราะว่ามีเด็กคนหนึ่งที่เราต้องรับผิดชอบ เพราะฉะนั้นนี่แหละค่ะแพรวรู้สึกว่าคือความท้าทายของคนเป็นแม่

 

มาถึงโมเมนต์ใจฟูบ้างดีกว่า เหตุการณ์ไหนที่ทำให้แพรวใจฟูที่สุด 

 

จริงๆ ก็เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของแต่ละวันค่ะ การแค่ได้นอนจั๊กจี้กันที่เตียง การอ่านหนังสือ หรือการเป่าผมแล้วก็หัวเราะด้วยกัน มันเป็นความสุขที่เรียบง่ายกว่าที่เราคิดนะ 

 

 

เชื่อว่าแพรวจะต้องคัดสรรสิ่งดีๆ ให้ลูกอยู่เสมอ ในเรื่องของสารอาหาร แพรวมีเทคนิคการเตรียมอาหารให้ลูกอย่างไรบ้าง

 

แน่นอนโภชนาการเป็นส่วนสำคัญ กิจกรรมต่างๆ แล้วก็เรื่องการออกกำลังกายอีกส่วนหนึ่ง แต่โภชนาการแม่ๆ ยุคนี้คือเต็มที่มากๆ อะไรที่เราทำได้เราก็อยากทำให้ดีที่สุด เพื่อส่งเสริมให้เขาไปได้ไกลเท่าที่ทำได้ เพราะฉะนั้นก็เน้นวิตามินจัดหนักจัดเต็ม เน้นโปรตีน วิตามินต้องเยอะหน่อย นมก็จะเลือกที่มีสารอาหารเยอะ พลิกอ่านทุกสิ่งอย่าง เป็นสายหาข้อมูลค่ะ 

 

 

อนาคตเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ ณ วันนี้คุณแม่มีสิ่งที่กังวลเกี่ยวกับลูกบ้างไหม

 

จริงๆ เรื่องอนาคตก็เคยเป็นแม่ที่กังวลบ้าง เพราะว่าเราควบคุมทุกอย่างไม่ได้ เราแทบอยากจะครอบโลกทั้งใบไว้เหมือนเลี้ยงไข่ในหิน แต่จริงๆ เราทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำได้มากสุดก็คือ “ปล่อยให้เขาเผชิญและแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเองมากที่สุด” 

 

แพรวรู้สึกว่าเวลาที่เด็กมีความยืดหยุ่นตอนเจอสถานการณ์ต่างๆ แล้วเขาพลิกแพลงได้ ทำให้เรารู้สึกว่า โอเค เขาจะเผชิญหน้ากับปัญหาต่างๆ ในอนาคตได้มากขึ้น ไม่อยากให้เขามี Fixed Mindset เพราะฉะนั้นก็จะฝึกให้เขามี Growth Mindset พอเขายืดหยุ่นหรือปรับตัวตามสถานการณ์ได้ เราก็จะรู้สึกกังวลกับอนาคตค่อนข้างน้อยหน่อย 

 

 

สำหรับแพรว แพรวคิดว่าการพยายามจะควบคุมทุกอย่างให้เพอร์เฟกต์เป็นสิ่งที่ทำให้เราเครียดเกินไป เพราะว่าจริงๆ แล้วอย่าลืมค่ะว่าไม่มีใครเพอร์เฟกต์ เพราะฉะนั้นเราต้องกลับมาถามตัวเองว่า เราเป็นแม่ที่มีความสุขอยู่หรือเปล่า แม่ที่ดีที่สุดของลูก ไม่ใช่แม่ที่เพอร์เฟกต์…แต่เป็นแม่ที่มีความสุข

 

เรียกว่าจริงๆ ต่อให้อนาคตคาดเดาไม่ได้ คุณแม่ก็เลือกที่จะทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วที่เหลือปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้ 

 

ใช่ หลายๆ คนอาจนิยามว่าทุกอย่างต้องเพอร์เฟกต์ แต่จริงๆ เราควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ไม่ได้ แต่สิ่งที่เราควบคุมได้คือวันนั้นเรารับมือกับมันอย่างไร  

 

 

เคยคิดไหมว่าอยากให้อนาคตของลูกเป็นแบบไหน  

 

ไม่ได้คิดเลยค่ะ เพราะแพรวรู้สึกว่าโลกมันไปไกลและรวดเร็วมากๆ ขึ้นทุกวันๆ เพราะฉะนั้นการที่เราควบคุมทุกอย่างไว้ หรือการที่เราตั้งไว้ว่าเขาต้องเป็นแบบนี้ๆ ทั้งที่โลกมันไปไกลแล้ว แพรวรู้สึกว่าจะทำให้เราเป็นทุกข์ 

 

 

ในอนาคตมีอีกหลายอาชีพที่จะเกิดขึ้นมา แล้วก็จะมีอีกหลายอาชีพที่จะต้องหายไป เพราะฉะนั้นเราจินตนาการไม่ถึงหรอกค่ะว่าตอนที่เขาโตจะเป็นอย่างไรบ้าง ก็แค่ทำทุกวันให้ดีที่สุด แล้วก็เตรียมพร้อมให้เหมาะสำหรับโลกอนาคต และเขาอยากเป็นอะไร เขาอยากทำอะไร เรามีหน้าที่แค่สนับสนุนแค่นั้นเอง

 

เราต้องเป็นเราในเวอร์ชันที่ดีขึ้นแค่นั้นเอง ไม่จำเป็นต้องเป็นแม่ที่เพอร์เฟกต์ แพรวรู้สึกว่าเราก็แค่ต้องเป็นตัวเอง เป็นแม่ในแบบของเราเหมือนในเพลงของแพรวที่บอกไว้ในประโยคหนึ่งว่า “เป็นแม่เธอที่ดีในแบบฉัน ที่เธอรักที่สุด” 

 

 

มีแนวคิดไหนไหมที่แพรวอยากจะปลูกฝังลูกไว้เสมอ ไม่ว่าวันนี้เขาจะอายุเท่าไร

 

สิ่งที่แพรวรู้สึกว่าอยากจะปลูกฝังให้ลูกมากที่สุด น่าจะเป็นการที่เด็กคนหนึ่งต้องรู้จักคุณค่าของสิ่งต่างๆ ในชีวิต อยากให้เขามีความสุข ชื่นชมกับทุกๆ สิ่งรอบตัวค่ะ ไม่ว่าเขาจะอยู่จุดไหนในชีวิต เพราะว่าถึงแม้เขาจะประสบความสำเร็จ แต่ถ้าเขาไม่รู้จักคุณค่าก็ไม่ได้การันตีเลยว่าเขาจะมีความสุข การที่คนคนหนึ่งรู้จักคุณค่าของสิ่งต่างๆ ในหัวใจค่ะ เขาก็เห็นแง่มุมดีๆ ในชีวิตได้ แพรวว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คนคนหนึ่งมีความสุขได้อย่างแท้จริง

 

 

คิดว่าการมีลูกสอนบทเรียนอะไรกับแพรวบ้าง

 

การมีลูกสอนให้เรารู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของความเป็นแม่ ตอนที่เรายังไม่มีลูกเราก็ไม่ได้ซาบซึ้งกับคำว่าแม่ขนาดนั้น แต่พอมีจริงๆ โอ้ ลึกซึ้งเลยว่าการเป็นแม่จะเลี้ยงคนคนหนึ่งมามันใช้พยายาม ใช้ความรักและความอดทนสูงมาก แต่ก่อนเราอาจไม่ใช่ที่พึ่งพิงของใคร แต่วันนี้เราเป็นที่พึ่งพิงของเด็กคนหนึ่ง เพราะฉะนั้นเราก็จะเติบโต…ก็จะผลักดันให้เรามีวุฒิภาวะขึ้นอย่างรวดเร็วค่ะ แล้วก็มีความรับผิดชอบมากขึ้น

 

 

อยากฝากอะไรถึงคุณแม่มือใหม่ในยุคนี้ ที่กำลังกังวลถึงอนาคตที่คาดเดาไม่ได้

 

แพรวรู้สึกว่าแม่ๆ หลายคนเกิดความกังวลนะคะ แพรวอยากให้เชื่อในสัญชาตญาณตัวเองด้วย หลายคนก็อาจหาข้อมูลมากมาย วิตกกังวล หรือรู้สึกว่าเราอาจเป็นแม่ที่ไม่ดีพอ เพราะฉะนั้นเราต้องเรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกับลูกค่ะ 

 

บางวันอาจเป็นวันที่แย่บ้าง หรือบางวันอาจเป็นวันที่ดีบ้าง เราก็ต้องอย่าลืมรักตัวเอง แล้วก็บอกว่าไม่เป็นไร เราเป็นแค่มนุษย์คนหนึ่งที่ผิดพลาดได้ เพราะฉะนั้นก็แค่มีวันพรุ่งนี้ให้แก้ตัวใหม่ ไม่มีใครเพอร์เฟกต์ ไม่มีแม่ที่เพอร์เฟกต์ แต่เราสามารถเป็นแม่ที่ดีในเวอร์ชันของเราได้ แล้วก็อย่าลืมมีความสุขในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทุกๆ วันกับลูกค่ะ

 

 

หากคุณแม่มีข้อสงสัยเรื่องพัฒนาการสมองและการเรียนรู้ของลูกเพิ่มเติม สามารถปรึกษาทีมพยาบาล S-Mom Club ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย 

 

S-Mom Club

Website: https://www.s-momclub.com/ 

Facebook: https://www.facebook.com/Smomclub 

 

#THESTANDARDLIFE #TheUrbanGuidetoWellbeing #PassionCallingxSMomClub #MomfromtheFuture #SMomClub #PRAEW #PhetpraewPhonpiphatwattanakul #เลี้ยงลูกยุคใหม่ #เลี้ยงลูกให้ฉลาด #เลี้ยงลูกให้สมองดี #เด็กฉลาด #เทคนิคเลี้ยงลูก #สมองไวสร้างได้

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising