อยากเข้าวงการมัทฉะควรรู้อะไรบ้าง? THE STANDARD

ต้องรู้อะไรบ้างถ้าอยากเข้าวงการมัทฉะ

เมื่อหลายวันก่อน Café Kitsuné จัดเวิร์กช็อปเรียนรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเครื่องดื่มยอดฮิตอย่างมัทฉะ ที่ในครั้งนี้เป็นการเรียนรู้ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ธรรมชาติของพืชชนิดนี้ วิธีการเก็บเกี่ยว ไปจนถึงการเลือกมัทฉะและการชง ซึ่งไฮไลต์ในครั้งนี้คือการสอนความรู้ขั้นพื้นฐาน ถ้าอยากลองชงกินเองที่บ้านก็มีการแนะนำทริกเล็กๆ น้อยๆ ในการชง ซึ่งเราสรุปมาให้ทั้งหมดแล้ว

มัทฉะต่างจากชาเขียวประเภทอื่นๆ อย่างไร

ความแตกต่างของมัทฉะกับชาเขียวประเภทอื่นๆ คือการปลูกและการเพาะเลี้ยงจะเกิดขึ้นเฉพาะพื้นที่ของประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น

มัทฉะแบบไหนที่เรียกว่าคุณภาพดี

การแบ่งเกรดคุณภาพของมัทฉะต้องตัดสินจากปัจจัยหลายๆ ข้อ ดังนี้

สี มัทฉะคุณภาพสูงจะมีสีที่สว่าง
ความขม มัทฉะคุณภาพสูงจะไม่มีรสขมมากเกินไป
รสอูมามิ มัทฉะคุณภาพสูงจะมีรสอูมามิที่ชัดขึ้นมา
ความหวาน เราจะสัมผัสรสหวานได้ในมัทฉะคุณภาพสูง
เนื้อสัมผัส มัทฉะคุณภาพสูงจะมีเนื้อสัมผัสที่หนัก

และเรายังแบ่งเกรดของมัทฉะตามการใช้งานออกมาได้เป็น 3 เกรดคือ Ceremonial Grade เหมาะกับพิธีชงชา Premium Grade เหมาะกับชงในชีวิตประจำวัน Culinary Grade เหมาะกับการปรุงอาหารหรือทำขนม

อยากชงมัทฉะต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้าง

ในการชงมัทฉะนอกจากผงมัทฉะและน้ำร้อนแล้ว อุปกรณ์ในการชงมีเพียง 3 อย่างเท่านั้นคือ

Chawan ถ้วยชา ต้องเป็นถ้วยที่มีปากกว้างพอจะผสมชากับน้ำให้เข้ากัน

Chasen ที่ตีชา ทำจากไม้ไผ่ มีขนแปรงที่ละเอียด

และ Chashaku ช้อนตวงชา ขนาดพอดีๆ

สูตรการชงมัทฉะ

ถ้ามัทฉะแบบดั้งเดิมจะมีสูตรการชงอยู่ 2 แบบคือ

Usucha เหมาะกับชงดื่มในชีวิตประจำวัน มีรสเบา ขมน้อย ใช้ผงชา 2 กรัม น้ำร้อน 80 มิลลิลิตร อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส
Koicha เนื้อชาจะเหนียว เหมาะกับพิธีชงชา ใช้ผงชา 4 กรัม น้ำร้อน 40 มิลลิลิตร อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส

ส่วนสูตรการชงสมัยใหม่ที่ชงกับนมจะใช้สัดส่วนชากลางๆ ประมาณ 2.5-3 กรัม

เทคนิคการชง

ท่าทางในการชงชาที่ถูกต้องคือห้ามเกร็ง เน้นใช้ข้อมือสะบัดไปมาหน้าหลัง ไม่ต้องวนเป็นวงกลม

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการชงชาก็แอบมีเมื่อยบ้าง ถ้าอยากชิมชาดีๆ มีเมนูหลากหลาย แวะมาชิมที่ Café Kitsuné ได้ เพราะเขาใช้ชาคุณภาพดีจากจังหวัดคาโกชิมะ ประเทศญี่ปุ่น มาชงเป็นเมนูที่หลากหลาย ทั้งเมนูซิกเนเจอร์ เมนูที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล และยังมีในรูปแบบขนมอีกด้วย