นับตั้งแต่วันที่บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด หรือ Liberator ประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าจะขอเป็นแพลตฟอร์มการลงทุนในรูปแบบดิจิทัลโบรกเกอร์ที่มุ่งสร้าง ‘โลกลงทุนที่ทุกคนเท่ากัน’ ด้วยจุดเด่น ‘เทรดหุ้นฟรีไม่มีค่าคอม’ และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2023 ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าลิเบอเรเตอร์กลายเป็นโบรกเกอร์น้องใหม่ที่ถูกจับตาอย่างมาก ทั้งโมเดลที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าจะทำได้จริงหรือไม่? แพลตฟอร์มน่าเชื่อถือแค่ไหน?
แต่ภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือนหลังเปิดตัว ก็มียอดดาวน์โหลดทะลุ 100,000 ครั้ง ปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันกว่า 400,000 ดาวน์โหลดเป็นที่เรียบร้อย
เดือนเมษายน 2023 ได้ประกาศเปิดบริการเทรด TFEX ฟรีค่าคอม และในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน ลิเบอเรเตอร์ขึ้นแท่นโบรกเกอร์ที่มียอดเปิดบัญชีหุ้นและ TFEX สูงที่สุดในงาน SET in the City 2023 โดยภายในหนึ่งวันมียอดเปิดบัญชีรวมกว่า 400 บัญชี
เดือนกันยายน 2023 ลิเบอเรเตอร์พัฒนาและเปิดให้บริการ Liberator for PC หรือแพลตฟอร์มเทรดบนเบราว์เซอร์อย่างเต็มรูปแบบ ใช้งานได้ทั้งบน PC และแท็บเล็ต และในเดือนเดียวกัน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประกาศอย่างเป็นทางการให้ บล.ลิเบอเรเตอร์ ได้รับ License (ใบอนุญาต) ที่ปรึกษาทางการเงิน (F.A.) อย่างเป็นทางการ
ยิ่งไปกว่านั้น ในเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ตูน-ภาวลิน ลิมธงชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ยังคว้ารางวัล ‘บุคคลตัวอย่างในภาคธุรกิจและหลักทรัพย์’ ภายใต้โครงการ QUALITY PERSONS OF YEAR 2023 ตอกย้ำความเชื่อมั่นและความสำเร็จในการสร้างแพลตฟอร์มการลงทุนให้มีประสิทธิภาพ
ความเชื่อมั่นยังเห็นได้จากการที่พาร์ตเนอร์เบอร์ใหญ่เริ่มเข้ามาคอลแลบมากขึ้น “ข้อดีคือเราเป็นแพลตฟอร์มที่มีทั้งเว็บและแอป โดยเป้าหมายของเราคือเป็นแพลตฟอร์มที่มีสินทรัพย์ลงทุนที่หลากหลายมาให้กับนักลงทุน พร้อมความรู้คู่การลงทุนผ่าน ‘Content Menu’ ในแอปพลิเคชันที่มีการยิง Notification ข้อมูลตรงจากการประชุมนักวิเคราะห์ ที่ปกติกว่านักลงทุนรายย่อยจะได้ข้อมูลก็ต้องรอประชุมเสร็จ 2-3 ชั่วโมง
“ความเป็นแพลตฟอร์มของเราทำให้ตอนนี้พาร์ตเนอร์หลายท่านมองเราเหมือน Marketplace ของการลงทุน แทนที่เขาจะโปรโมตสินค้าของเขาเพียงช่องทางเดียว การเข้ามาเป็นพาร์ตเนอร์กับเราซึ่งมีรายย่อยในมือเยอะขนาดนี้จึงง่ายกว่า ตอนนี้เราวางแผนที่จะจับมือกับ JP Morgan, Aberdeen, Macquarie, KKP, Super Trader Republic และอีกหลายพาร์ตเนอร์ซึ่งจะทยอยเปิดตัวในอนาคต
“ล่าสุด Aberdeen ซึ่งถือเป็นหนึ่งในพันธมิตรหลักของเราก็เพิ่งจัดงานสัมมนา ‘2024 Global Economic Outlook – After the Hikes’ ร่วมกัน พร้อมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ให้ลูกค้าเทรดกองทุนต่างๆ ได้ผ่านแอปของลิเบอเรเตอร์”
ภาวลินบอกว่า “ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ลิเบอเรเตอร์ยึดมั่นในจุดยืนของการให้บริการ ทั้งการพัฒนาแพลตฟอร์มให้ทุกคนสามารถลงทุนได้หลากหลายประเภทสินทรัพย์ได้ครบจบในแอปเดียว โดยไม่มีกำแพงเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งปัจจุบันลิเบอเรเตอร์ไม่ได้มีแค่หุ้นไทย แต่ยังเปิดให้บริการซื้อ-ขายหุ้นสหรัฐฯ กองทุนและสินทรัพย์อื่นๆ ที่จะเพิ่มเข้ามาในลำดับถัดไป ไม่ว่าจะเป็นทอง, Spot, หุ้นต่างประเทศ อย่างตลาดฮ่องกงที่ทุกคนรอคอย”
นอกจากนี้การป้อนความรู้ด้านการเงินอย่างครอบคลุมเพื่อให้นักลงทุนมี Financial Literacy ก็เป็นเรื่องที่ต้องทำควบคู่กัน “เราเชื่อเรื่องของ ‘ความรู้คู่การลงทุน’ ทุกวันนี้เราจึงมีนักวิเคราะห์มาไลฟ์เช้า กลางวัน เย็น เหมือนมีคนมานั่งคุยกับพวกเขา (นักลงทุน) และสามารถถาม-ตอบกันได้ เนื่องจากเราไม่มีมาร์เก็ตติ้งที่มาบอกว่าต้องซื้ออะไร ต้องทำอะไร แต่เรามีทีมซัพพอร์ตให้และมีเพื่อนนักลงทุนที่อยู่ด้วยกัน ซึ่งปีนี้เราจะจับมือกับแอปพลิเคชัน Finimize ของ Aberdeen นำคอนเทนต์จากฝั่ง Global มาแปลเป็นภาษาไทย เพื่อให้นักลงทุนมีข้อมูลที่หลากหลายเข้าไปอยู่ในฟีเจอร์ใหม่ Content Menu ซึ่งเราจะนำคอนเทนต์ทั้งหมดที่เคยทำมาไปรวมไว้ในฟีเจอร์เดียวกัน เมื่อนักลงทุนเปิดแอปจะสามารถหาความรู้ที่หลากหลายได้ในที่เดียว”
ทำไมต้องมี LIBFAM Subscription Model (Liberator Family) โมเดลสมัครสมาชิกจัดเก็บค่าคอมเหมาจ่าย
หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของลิเบอเรเตอร์ในปีนี้คือการเปิดตัว LIBFAM Subscription Model โมเดลจัดเก็บค่าคอมแบบเหมาจ่าย เพื่อให้นักลงทุนสามารถคำนวณต้นทุนการเทรดได้ง่ายและประหยัดมากขึ้น เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2024 ที่ผ่านมา ให้นักลงทุนสามารถเทรดได้ทั้งหุ้นไทย, อนุพันธ์, หุ้นสหรัฐฯ และกองทุน
ความตั้งใจแรกของลิเบอเรเตอร์คือต้องการใช้กลยุทธ์ฟรีค่าคอม 2 ปี เพื่อดึงนักลงทุนหน้าใหม่เข้าตลาด และให้สอดคล้องไปกับไทม์ไลน์การวางระบบบนแพลตฟอร์ม เพื่อให้เป็นแพลตฟอร์มการลงทุนครบวงจร 100% อย่างแท้จริง
“จริงๆ เราวางแผนให้บริการ Model Free Commission ไว้ 2 ปี แต่เราเองก็เคารพกติกาของผู้คุมกฎ ซึ่งเขามองว่าการเปิดให้ใช้คอมฟรีเพียง 1 ปีก็เพียงพอแล้ว เพราะเราเติบโตเร็วและได้รับการตอบรับที่ดี เราจึงต้องเปิดตัว LIBFAM Subscription Model เร็วกว่าที่ตั้งใจ ซึ่งยังคงยึดในคุณค่าเดิมในเรื่องของโลกลงทุนที่ทุกคนเท่ากัน แน่นอนว่ามันคงไม่ใช่คอมศูนย์เท่ากันทุกคน แต่อย่างน้อยเราทำให้เขาได้เห็นต้นทุนการลงทุนที่โปร่งใสไม่ว่าจะเลือกจ่ายแพ็กไหน หรือจะไม่จ่ายเลยก็เลือก LIBFAM Basic ได้ และยังมีวันที่ 21 Liberator Day ที่ให้ทุกคนได้เทรดกี่ไม้ก็ได้คอมฟรีทั้งวัน
“เราไม่มีการดูแลรายใหญ่แล้วแอบให้ราคาพิเศษหลังบ้าน หรือเรื่องข่าวสาร ทุกคนสามารถรับข้อมูลได้เท่ากันผ่าน LIVE และ Content Menu เมื่อมาเป็นครอบครัว LIBFAM
“ถามว่าทำไมต้องค่าคอมมิชชันฟรีในปีแรก จริงๆ เราจะเป็น Subscription Model ตั้งแต่วันแรกเลยก็ได้ แต่เรามองว่าค่าคอมฟรีก็เหมือนการเปิดประตูและเปิดใจให้นักลงทุนเข้ามาใช้บริการแพลตฟอร์มของเรา เราอยากมีแอปที่เกิดจากคนไทย ที่เปิดโอกาสให้เขาฟีดแบ็กเราได้เต็มที่และแก้ไขให้ได้ตามที่เขาต้องการ ที่สำคัญเราอยากให้นักลงทุนได้เห็นว่าอยู่กับเราประหยัดค่าคอมไปเท่าไร จึงทำเมนู Commission Save บนหน้าแอป ให้นักลงทุนสามารถเช็กได้เองว่ามีมูลค่าการซื้อขายมากน้อยแค่ไหน ถ้าคุณพึ่งเปิดบัญชีกับเรา สามารถเทรดคอมฟรี 3 เดือน เพื่อกดรีพอร์ตดูว่าได้ประหยัดค่าคอมไปเท่าไร แล้วค่อยเลือกแพ็ก LIBFAM โดยปี 2023 เราช่วยนักลงทุนประหยัดค่าคอมมิชชันไปแล้วกว่า 219 ล้านบาท”
LIBFAM Subscription Model เป็นทางเลือกใหม่ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนเลือกจ่ายค่าคอมมิชชันแบบรายเดือน สามารถเลือกแพ็กเกจให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การลงทุนของตัวเอง โดยแบ่งเป็นแพ็กเกจ S, M และ L ตามประเภทของสินทรัพย์ที่ลงทุน ได้แก่ Stock (หุ้นไทย), Derivative (อนุพันธ์) และ US (หุ้นสหรัฐฯ) ในเรตค่าคอมแบบคงที่ (Flat)
“สิ่งที่นักลงทุนหลายคนไม่ทันคิดคือบางคนพอร์ตแค่ 1 ล้านบาท แต่เทรดไปกลับๆ ถ้าคุณเลือกสมัครแพ็กเกจไซส์ S แค่เดือนละ 499 บาท ปีหนึ่งจ่ายประมาณ 6,000 บาท ประหยัดค่าคอมได้หลายหมื่น” ยกตัวอย่างนักลงทุนท่านหนึ่งโชว์รีพอร์ตให้เราดูว่าประหยัดค่าคอมหลักแสนทั้งที่พอร์ตมีเงินไม่ถึงหนึ่งล้านบาท เพราะการเทรดไปกลับมีค่าคอมเสมอ ซึ่งหลายคนไม่เคยตระหนักต้นทุนแฝงตัวนี้
“ก่อนจะมาเป็นแพ็กเกจอย่างที่เห็น เราทำการวิจัยตลาดว่ากลุ่มลูกค้าเป็นประเภทไหนบ้าง มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยเท่าไร เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยคอมมิชชันปัจจุบันว่าประมาณเท่าไร จึงดีไซน์ออกมาเป็น 3 แพ็กเกจ ที่ต่อให้ซื้อแพ็กเล็กก็ยังคุ้มกว่า หรือถ้าเป็นนักลงทุนที่เทรดเยอะ เลือกแพ็กใหญ่ Unlimited ก็ไม่ต้องกังวลแล้วว่าจะเสียค่าคอมเท่าไร และสำหรับนักลงทุนที่คิดว่าเทรดต่อเดือนไม่มาก เราก็มี LIB Basic ที่คิดค่าคอมตามมูลค่าการซื้อขายหรือจำนวนสัญญาที่เทรด ซึ่งเป็นเรตราคาที่ถูกกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด”
ภาวลินย้ำว่า “แพ็กเกจที่หลากหลายยังถูกออกแบบมาโดยยึดความเท่าเทียมเป็นแกนหลัก เพราะนอกจากทุกคนจะมีสิทธิ์เลือกแพ็กที่คุ้มค่าและตอบโจทย์การเทรดแล้ว ยังเป็นราคาที่ยุติธรรมกับนักลงทุนด้วย”
สังคมของนักลงทุนแบบ LIBFAM Community
ยิ่งไปกว่านั้น โมเดลนี้มาพร้อมสิทธิพิเศษกับ LIBFAM Community เป็นการเปิดพื้นที่ให้ครอบครัว Liberator สร้างความสัมพันธ์ที่ดีร่วมกันผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น LIBFAM Football, LIBFAM Basketball, LIBFAM FitFit, LIFBAM Movie, LIBFAM Hungry และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
“การสร้าง LIBFAM Community มีเป้าหมายเพื่อเสริมโปรโมชันด้านมาร์เก็ตติ้งให้กับลูกค้าที่เป็นสมาชิกครอบครัว Liberator ที่จะอยู่กับเราไปอย่างยาวนาน นั่นหมายความว่าการสมัครสมาชิกจะได้มากกว่าค่าคอมแบบเหมาจ่าย ยังได้มาร่วมสนุกกับกิจกรรมคอมมูนิตี้ที่หลากหลาย ได้ทำความรู้จัก แลกเปลี่ยนมุมมองการลงทุนกับเพื่อนๆ นักลงทุนในวงการอีกด้วย
“สังคมนักลงทุนไม่จำเป็นต้องเกิดจากการไปงานสัมมนาที่พบปะแต่เซียนหน้าเดิมๆ เราจึงจัดให้มีงานสัมมนาเพียงปีละ 2 ครั้ง โดยมี น้าแดง-จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์ หัวหน้าทีมนักวิเคราะห์เป็นผู้นำและผลักดันกูรูด้านการลงทุนหน้าใหม่ ที่มาพร้อมเทคนิคหรือวิธีการอันน่าสนใจขึ้นเวที หรือแม้แต่เด็กรุ่นใหม่ซึ่งหลายคนมีความเก่ง มีเทคนิคที่แตกต่าง อย่างการอ่านงบการเงินที่ 10 คนก็สอนไม่เหมือนกัน ฉะนั้นทำไมเราต้องฟังคนเก่งเพียงคนเดียว ลิเบอเรเตอร์จึงสรรหาคนเก่งมาเข้าร่วมในงานสัมมนาประจำปีของเราแบบไม่เหมือนใคร
“นอกจากนี้ลิเบอเรเตอร์มีการจัด LIB Classroom ทุกสัปดาห์ เป็นเหมือนเวทีให้นักลงทุนดาวรุ่งที่คิดต่างมาแชร์เทคนิคและมุมมองใหม่ๆ เราสร้างแคมเปญ LIBFAM Share เพื่อผลักดันคนเก่งๆ บางทีเขาอาจจะเก่งเรื่องเดียว แต่เรื่องนั้นอาจทำให้อีกหลายคนต่อยอดวิธีการลงทุนใหม่ๆ ก็ได้ ดังนั้นใครมีความรู้ก็นำมาแชร์กัน และเชิญให้มาร่วมใน LIB Academy เพื่อต่อยอดเป็นคอร์สเรียนพิเศษ”
ลิเบอเรเตอร์ยังมีอีกหลายแคมเปญที่น่าสนใจมากๆ อย่าง LIBFAM Homework ชวนชาว LIBFAM มาระดมความคิด ทำการบ้านหาหุ้นไปด้วยกันทุกวันอาทิตย์ เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แชร์ทริกการเทรดให้ทุกคนได้พัฒนามุมมองในการเทรดให้ดีขึ้น หรือแม้แต่กิจกรรมสนุกๆ ที่ดูไม่เกี่ยวกับเรื่องหุ้นเลยอย่างการนัดเตะบอล, เล่นบาส, ดูหนัง, กินหมูกระทะ แต่ไม่ทิ้งเรื่องการพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องเทคนิคการลงทุน
ภาวลินบอกว่าสิ่งที่คาดหวังจะได้เห็นจากการเปิดตัว LIBFAM Model และการสร้าง LIBFAM Community คืออยากให้เขามองเห็นความคุ้มค่าในมุมอื่นๆ นอกเหนือจากเรื่องค่าคอมมิชชันที่ประหยัดมากขึ้น
“เราเจอนักลงทุนที่มาเข้า LIB Classroom บอกว่าช่วงนี้เขาเทรดน้อยแต่ที่ยังสมัครสมาชิกเพราะอยากเข้าร่วมคอมมูนิตี้ นี่คือสิ่งที่เราอยากให้คนที่สมัคร LIBFAM มองเห็นมูลค่าด้านอื่นๆ แน่นอนว่าคนที่จ่ายค่าสมาชิกย่อมได้สิทธิพิเศษมากกว่า แม้ว่าเราจะมีไลฟ์ที่จัดให้ฟรีบนเฟซบุ๊ก แต่สมาชิกของช่อง VIP Content ซึ่งเป็นคอนเทนต์ที่ทีมวิเคราะห์ทำงานอย่างหนักเพื่อให้สมาชิกมีข้อมูลที่นำไปใช้ในการลงทุนได้ หรือคลาสต่างๆ บางส่วนจะจำกัดให้เฉพาะลูกค้าที่สมัคร LIBFAM เท่านั้น”
สำหรับเป้าหมายต่อจากนี้ ภาวลินบอกว่าจะเน้นเรื่องของ Wealth Management และเร่งพัฒนาให้ขึ้นไปอยู่บนแพลตฟอร์มให้เร็วที่สุด รวมถึงการเพิ่มหุ้นต่างประเทศที่มากกว่าสหรัฐอเมริกา และเพิ่มในส่วนของคอนเทนต์กองทุนเพื่อรองรับการเปิดซื้อขายกองทุนที่เพิ่งเปิดตัวไป
ต้องยอมรับว่า ‘ลิเบอเรเตอร์’ สามารถสยบข้อกังขาในสายตานักลงทุนไปได้เยอะ บทพิสูจน์ความสำเร็จต่างๆ จากตัวเลขผู้ใช้งาน จำนวนยอดเงินฝากที่เพิ่มขึ้น ฟีดแบ็กที่เน้นหนักไปที่การเสนอแนะในทิศทางที่อยากเห็นลิเบอเรเตอร์พัฒนาให้ดียิ่งขึ้น
ในมุมของภาวลินนอกจากความสำเร็จที่วัดผ่านตัวเลขข้างต้น การที่ลูกค้ายังเชื่อมั่น ไว้ใจ และอยู่กับลิเบอเรเตอร์ต่อไป คือความสำเร็จที่ประเมินมูลค่าไม่ได้
“ปีที่ผ่านมามีหลายเหตุการณ์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าเราได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากขึ้น อย่างเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วเรามีประเด็นเรื่องผลกระทบจากการขึ้นระบบใหม่ ตอนนั้นเรากล้าออกมาพูดว่าเกิดจากอะไร จะใช้เวลาแก้ไขกี่วัน พอลูกค้าเห็นว่าเรายอมรับและเร่งแก้ไขพัฒนา พร้อมทั้งชดเชยให้ลูกค้าที่ไม่สามารถส่งคำสั่งได้ เหมือนเราก้าวข้ามกำแพงอีกขั้นไปได้ ทำให้ลูกค้ายอมรับมากขึ้น สำหรับพวกเรานี่คือความสำเร็จที่ประเมินค่าไม่ได้ เราจะนำฟีดแบ็กและความไว้วางใจของลูกค้านี้ไปพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นแพลตฟอร์มการลงทุนตามคอนเซปต์โลกลงทุนที่ทุกคนเท่ากัน” ภาวลินกล่าวทิ้งท้าย
