ในสถานการณ์ที่อัตราดอกเบี้ยเป็นขาลง เอื้อต่อการลงทุนใน REIT ‘ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ (LHSC)’ กำลังจะสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ในวงการอสังหาริมทรัพย์และการลงทุน โดยเตรียมเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้เป็นส่วนหนึ่งของการขยายอาณาจักรสู่ ‘พัทยา’ เมืองท่องเที่ยวระดับโลก นับเป็นโอกาสการลงทุนครั้งใหม่ที่ใครๆ ก็ต้อง Check-In
ผลงานโดดเด่น: กำไรพุ่ง ปันผลงาม
LHSC ภายใต้การบริหารของผู้จัดการกองทรัสต์อย่างบริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LH Fund) ได้แสดงผลงานอันแข็งแกร่งในครึ่งปีแรกของปี 2567 ด้วยผลประกอบการที่โดดเด่นไม่แพ้ใคร จากกำไรสุทธิจากการลงทุนพุ่งสูงถึง 321.4 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของทรัพย์สินปัจจุบันที่ LHSC ลงทุนอยู่ นั่นคือ โครงการเทอร์มินอล 21 อโศก ศูนย์การค้าแฟลกชิปของกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจอโศก-สุขุมวิท เป็นศูนย์กลางธุรกิจและการท่องเที่ยวของกรุงเทพฯ ที่แวดล้อมไปด้วยโรงแรมระดับ 4-5 ดาว, คอนโดมิเนียม, อาคารสำนักงานชั้นนำ, สถานศึกษา และศูนย์ประชุมนานาชาติ ทั้งยังอยู่บริเวณจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท ซึ่งทำให้ LHSC มีผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมและได้รับรางวัล Best REIT Performance Awards ในกลุ่มรางวัล Business Excellence จากงาน SET Awards 2023 ที่ผ่านมา
ไม่เพียงแต่ผลประกอบการที่โดดเด่น LHSC ยังประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2567 รวม 0.527 บาทต่อหน่วย นอกจากนั้น LHSC ยังมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานทุก 2 เดือนอีกด้วย นับเป็นข่าวดีสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาโอกาสในการสร้างรายได้ที่มั่นคงและสม่ำเสมอ
เปิดประตูสู่โอกาสใหม่: เทอร์มินอล 21 พัทยา
แต่ LHSC ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ล่าสุดได้เตรียมขยายการลงทุนครั้งสำคัญสู่เมืองพัทยา ด้วยการลงทุนในสิทธิการเช่า ‘โครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา’ ของสปอนเซอร์กลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เช่นเคย ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมไม่เกิน 5.7 พันล้านบาท
โดยจะระดมทุนผ่านการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนมูลค่ารวมไม่เกิน 3,190 ล้านบาท ซึ่งจะเสนอขายในวันที่ 4-8 พฤศจิกายน 2567 นับเป็น New Check-In at Pattaya’s Heart ที่น่าจับตามอง
เทอร์มินอล 21 พัทยา ไม่ใช่แค่ศูนย์การค้าธรรมดา แต่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญใจกลางพัทยาเหนือ ตั้งอยู่บริเวณวงเวียนปลาโลมา สามารถเข้าถึงได้ง่ายจากถนนสายหลักของพัทยา และใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ เพียง 1.5 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีที่จอดรถรองรับกว่า 2,000 คัน และตั้งอยู่ใกล้กับโรงแรมระดับ 4-5 ดาวหลายแห่ง
ทั้งยังเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมและงานอีเวนต์สำคัญ เช่น งานพัทยามาราธอน 2024 ซึ่งเป็นงานใหญ่ระดับประเทศที่มีผู้เข้าร่วมแข่งขันกว่า 15,000 คน และดึงดูดผู้ใช้บริการภายในศูนย์การค้าพุ่งสูงถึง 70,000 คนต่อวัน ซึ่ง ณ ช่วงครึ่งแรกของปี 2567 เทอร์มินอล 21 พัทยา มีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยสูงถึง 99% การันตีความคึกคักตลอดปี
ผู้นำด้านการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการท่องเที่ยว
การขยายการลงทุนครั้งนี้ของ LHSC สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยแล้วกว่า 17.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นประมาณ 35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาประเทศไทยในปี 2567 ถึง 36 ล้านคน นับเป็นจุดที่ Where Retail Meets Tourism อย่างแท้จริง
การลงทุนในเทอร์มินอล 21 พัทยา จะช่วยกระจายความเสี่ยงและเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตการลงทุนของ LHSC รวมทั้งยังเป็นการเสริมสภาพคล่อง เพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์
การลงทุนใน LHSC นอกจากจะเป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์คุณภาพแล้ว ยังเป็นการลงทุนในอนาคตของการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทย ด้วยสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวและเศรษฐกิจไทยกำลังเติบโต ประกอบกับทีมบริหารที่มีประสบการณ์และแผนธุรกิจที่ชัดเจน LHSC จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ต้องการผลตอบแทนที่มั่นคงและการเติบโตในระยะยาว
เตรียมเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้เป็นส่วนหนึ่งของการขยายอาณาจักรสู่ ‘พัทยา’
LHSC กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุน โดยจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมและบุคคลทั่วไปจองซื้อได้ในวันที่ 4-8 พฤศจิกายน 2567 ผ่านทุกสาขาและช่องทางออนไลน์ของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSEQ01.aspx?TransID=624216&lang=th หรือติดต่อธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 0 2888 8888 ต่อ 869 และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โทร. 0 2777 6784
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน