วันนี้ (13 กันยายน) พิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) เดินทางมายื่นหนังสือที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาลถึง เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขอให้เร่งสร้างความยุติธรรมด้วยการนำตัว ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเข้าคุก หลังจากเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจนานกว่า 23 วัน
โดยพิชิตกล่าวว่า วันนี้ประชาชนคนไทยไม่เชื่อว่าทักษิณป่วยจริง เนื่องจากมีข้อสงสัยในพฤติกรรมของผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่พยายามช่วยปกปิดอาการป่วยที่แท้จริงของทักษิณ โดยอ้างกฎระเบียบของราชทัณฑ์ ที่ผู้ต้องขังอื่นไม่สามารถใช้ได้ เป็นเอกสิทธิ์พิเศษที่มอบให้เฉพาะทักษิณเพียงคนเดียว วันนี้จึงจะมาเรียกร้องนายกรัฐมนตรีเร่งดำเนินการเพื่อรักษาไว้ซึ่งหลักนิติธรรม นิติรัฐ และหลักคุณธรรมในการบริหารประเทศ โดยเร่งรัดดำเนินการนำตัวทักษิณกลับเข้าเรือนจำตามคำพิพากษาอันเป็นที่สุด ซึ่งรัฐบาลภายใต้แกนนำของเศรษฐาต้องไม่เลือกปฏิบัติเป็นกรณีพิเศษแก่ทักษิณ
พิชิตกล่าวว่า ขอให้เร่งนำตัวผู้ต้องหาทางการเมืองที่หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศมารับโทษตามกระบวนการยุติธรรมไทย และให้ดำเนินการไต่สวน ตรวจสอบ และลงโทษข้าราชการที่เกี่ยวข้องในการเอื้อประโยชน์ในลักษณะเร่งรีบผิดสังเกตในการร่วมกันนำตัวทักษิณออกมาจากเรือนจำ เพื่อนำตัวมาไว้ที่โรงพยาบาลตำรวจตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2566 ว่ามีลักษณะการสมคบคิดหรือประพฤติมิชอบตามระเบียบราชทัณฑ์หรือไม่
พิชิตยังกล่าวทิ้งท้ายว่า เศรษฐาจะปฏิเสธความรับผิดชอบนี้ไม่ได้ แม้ความสัมพันธ์ระหว่างทักษิณและพรรคเพื่อไทยจะมีความสนิทชิดเชื้อกัน แต่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แน่นอนว่ารัฐบาลจะบริหารประเทศได้ตามที่เศรษฐาประกาศ ยึดหลักนิติ รัฐนิติธรรม แต่กระบวนการยุติธรรมต้องได้รับความเท่าเทียมกันในสังคม
เมื่อถามว่าหากทักษิณรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจจนครบอายุโทษจะเกิดความวุ่นวายหรือไม่ พิชิตกล่าวว่า สังคมจะต้องตรวจสอบ และ คปท. จะเคลื่อนไหวในเรื่องนี้อยู่ตลอด ขณะเดียวกันอยากเรียกร้องให้โรงพยาบาลตำรวจออกมาชี้แจงอาการที่แท้จริงของทักษิณว่าป่วยหนักจริงหรือไม่ ยอมรับว่าเมื่อป่วยก็ต้องได้รับสิทธิการรักษาพยาบาล แต่กฎระเบียบของราชทัณฑ์ก็ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์