ย้อนกลับไปในเดือนมกราคมชื่อของ เลอันโดร ทรอสซาร์ด ไม่ได้อยู่ในแผนการเสริมกำลังทัพช่วงฤดูหนาวของ มิเกล อาร์เตตา ตั้งแต่แรก
ผู้จัดการทีมชาวสเปนที่กำลังหวังจะพาทีมก้าวไปสู่การลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบเต็มตัวต้องการ มิไคโล มูดริก ไอ้หนูมหัศจรรย์ชาวยูเครนที่มีความสามารถอันน่าเหลือเชื่อและอายุน้อย ซึ่งตรงกับแนวทางการเสริมทีมของอาร์เซนอลในช่วงหลายปีหลัง นับตั้งแต่อาร์เตตาได้เข้ามาคุมทีม และมีเอดู ผู้อำนวยการสโมสรชาวบราซิลซึ่งเคยเป็นหนึ่งในนักเตะยุค ‘The Invincibles’ ขีดเส้นไว้
แต่ความหวังของอาร์เตตาและอาร์เซนอลต้องพังทลายลง เมื่อพวกเขาไม่สามารถจะต่อสู้กับข้อเสนอทางการเงินที่ดีกว่าของเชลซี ทำให้มูดริกที่ก่อนหน้านี้แสดงออกมาหลายครั้งว่า ‘มีใจ’ จะย้ายมาเป็น The Gunners สุดท้ายไปเปิดตัวในฐานะหนึ่งในนักเตะใหม่ของทีมสิงโตน้ำเงินครามแห่งลอนดอนแทน
ตอนนั้นเองที่ชื่อของทรอสซาร์ดเริ่มปรากฏในฐานะ ‘Plan B’
สตาร์กองหน้าชาวเบลเยียมเป็นหนึ่งในดาวเด่นนอกกลุ่ม ‘Big Six’ ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมสม่ำเสมอ โดยเฉพาะใน 2 ฤดูกาลหลัง แต่ด้วยวัย 28 ปีทำให้ไม่ได้ถูกจับตามองจากสโมสรระดับท็อปมากนัก เพียงแต่ด้วยจังหวะที่อาร์เซนอลพลาดการได้ตัวมูดริก และทรอสซาร์ดก็กำลังมีปัญหาอย่างรุนแรงกับ โรแบร์โต เด แซร์บี นายใหญ่ของทีมไบรท์ตัน
ไม่ต่างอะไรกับคนเหงากับคนเหงามาเจอกัน ทรอสซาร์ดและอาร์เซนอลจึงตกล่องปล่องชิ้นกันอย่างรวดเร็ว
แต่ดูเหมือนระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมาการตัดสินใจร่วมทางกันระหว่างทรอสซาร์ดและอาร์เซนอลดูจะเป็น Perfect Marriage เพราะสตาร์ชาวเบลเยียมได้เข้ามาเติมเต็มแนวรุกของอาร์เซนอลในแบบที่เกินกว่าความคาดหวังของอาร์เตตาด้วยซ้ำ
ปกติแล้วกองหน้าร่างเล็กนั้นถูกจดจำในฐานะกองหน้ากึ่งปีกซ้ายที่ถนัดในการหาจังหวะลากตัดเข้าใน เพื่อสร้างโอกาสในการทำประตูของตัวเอง หรือการสร้างโอกาสให้แก่คนอื่นมากที่สุด
ทว่าสิ่งที่ดีที่สุดในตัวทรอสซาร์ดคือความฉลาดในการเล่น ความเข้าใจในเกมสูง และมีทักษะที่ดีพอจะเอาตัวรอดได้ไม่ว่าจะไปเล่นในตำแหน่งใดของแนวรุก ซึ่งตรงนี้เป็นการแก้ปัญหาให้กับอาร์เซนอลได้อย่างพอดิบพอดี
ก่อนหน้านี้ทีมของอาร์เตตาเกิดภาวะ ‘ตัน’ เล็กน้อยในเรื่องของเกมรุก โดยเฉพาะเมื่อเสีย กาเบรียล เชซุส กองหน้าตัวหลักที่บาดเจ็บจากการไปรับใช้ทีมชาติบราซิลในศึกฟุตบอลโลก และต้องพักการเล่นร่วม 3 เดือน
ระหว่างนั้นอาร์เตตาได้พยายามให้โอกาสกับ เอ็ดดี เอ็นเคเทียห์ กองหน้าดาวรุ่งของสโมสร ซึ่งก็มีหลายนัดที่สามารถทำได้ดี แต่ก็มีอีกหลายนัดเช่นกันที่ทำได้ไม่ดีพอ และในภาพรวมแล้วมองเห็นได้ชัดว่าประสิทธิภาพในเกมรุกของพวกเขาลดน้อยลงไปจากเดิม
โดยเฉพาะเกมทางกราบซ้าย กาเบรียล มาร์ติเนลลี ที่เคยโดดเด่นอย่างมากในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาลจากการเข้าคู่กับเชซุส เริ่มประสบปัญหาในการทำผลงานได้ไม่ดีเท่าเดิม และภาระไปตกอยู่กับฝั่งขวาของ บูกาโย ซากา แทน
ตรงนี้เองที่ทรอสซาร์ดได้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้ โดยหลังจากที่เริ่มได้โอกาสในการลงเล่น กองหน้าชาวเบลเยียมก็ใช้เวลาไม่นานในการทำความเข้าใจกับระบบการเล่นของอาร์เตตา และเริ่มได้โอกาสในการรับบทบาทเป็นกองหน้าตัวเป้าในแบบ ‘False 9’
รูปร่างอาจจะเล็ก แต่ทักษะ ความแข็งแกร่งของทรอสซาร์ดทำให้เขาเอาตัวรอดได้สบาย แต่มากกว่านั้นคือความฉลาดในการเล่นของเขา
กับทรอสซาร์ด อาร์เตตารู้ว่าเขาได้คนที่ฉลาดพอที่จะสร้างโอกาสให้กับทั้งตัวเองและเพื่อนได้ รวมถึงการเปิดพื้นที่ให้กับคนอื่น ซึ่งเป็นในแบบเดียวกับที่ลิเวอร์พูลเคยได้ประโยชน์จาก โรแบร์โต เฟอร์มิโน กองหน้า False 9 สุดคลาสสิกตลอดช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา
อาร์เตตากล่าวชมทรอสซาร์ดว่า “เวลาเราพูดถึงเรื่องความนิ่งและการเลือกผ่านบอลได้อย่างถูกต้อง และมองเห็นสีเสื้อที่ถูกในกรอบเขตโทษปกติแล้ว มันอาจจะเป็นภาพที่เลือนรางมาก แต่ดูเหมือนกับเขามันจะเป็นไปในทางตรงข้าม”
ส่วน มาร์ติน โอเดการ์ด กัปตันพูดถึงทรอสซาร์ดว่า “เขานำสิ่งมหัศจรรย์มาสู่ทีม ผมชอบเล่นกับเขามาก เขาเก่งมากในการเลือกจ่ายบอลอย่างถูกต้อง”
อีกรูปแบบที่เกิดขึ้นคือการสลับตำแหน่งกันเล่นกับมาร์ติเนลลีในระหว่างเกม และนั่นทำให้มาร์ติเนลลีเริ่มกลับมาระเบิดผลงานอีกครั้งในช่วงหลัง
การเข้ามาเป็นทางเลือกของทรอสซาร์ด ทำให้เป็นเรื่องยากขึ้นอีกสำหรับเกมรับของคู่ต่อสู้ที่จะหาทางหยุดอาร์เซนอลในเวลานี้ เพราะนอกจากจะต้องเจอกับซ้ายผ่านตลอดของซากา ความเร็วสายฟ้าฟาดของมาร์ติเนลลีแล้ว ยังต้องมาเจอนักเตะไอคิว 180 อย่างสตาร์เบลเยียมเข้าไปอีก
และความยอดเยี่ยมของเขายังไม่หมดแค่นี้ เมื่อทำแอสซิสต์ถึง 3 ครั้งในช่วงระยะเวลาแค่ 45 นาทีแรก ที่ช่วยให้อาร์เซนอลบุกไปเอาชนะฟูแลมในเกมล่าสุดได้อย่างสบายๆ 3-0 จนโกยแต้มหนีห่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ไปเป็น 5 แต้มอีกครั้ง
ขณะที่ตัวเลขสถิติอื่นๆ ก็น่าทึ่งเช่นกัน
- สัมผัสบอล 54 ครั้ง
- ผ่านบอลสำเร็จ 28 จาก 36 ครั้ง (ส่วนใหญ่เป็นการผ่านบอลในพื้นที่แคบและอยู่ในบริเวณแดนหน้า)
- สร้างโอกาส 4 ครั้ง
จากนักเตะที่มาแบบ ‘Plan B’ ตอนนี้ทรอสซาร์ดแทบจะเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับอาร์เซนอลแล้ว
และในบางทีก็รู้สึกเหมือนมี ‘เดนนิส เบิร์กแคมป์’ ย้อนเวลากลับมาช่วยทีมอีกครั้ง
เขาไม่ได้เป็นแค่นักเตะที่มาเพื่อ ‘ซื้อเวลา’ ระหว่างรอเชซุสหายเจ็บกลับมาเท่านั้น แต่เป็นคนที่ขยายความเป็นไปได้อีกมากมายให้กับทีมของอาร์เตตา ที่กลับมามีความหวังเต็มเปี่ยมอีกครั้งกับการชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรกในรอบ 19 ปี
ตอนนี้เหลืออีกแค่ 11 นัดเท่านั้น โดยที่พวกเขามีตัวช่วยพิเศษที่ยังสามารถสะดุดพลาดได้อีก 2 นัด
แต่คำถามตอนนี้คือ จากฟอร์มของทรอสซาร์ดและอาร์เซนอล ซึ่งตอนนี้ได้เชซุสกลับมาอีกคนแล้ว มันชวนให้คิดว่าใครจะหยุดพวกเขาได้?
อ้างอิง: