วานนี้ (4 กรกฎาคม) แสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ลงนามอนุมัติขยายระยะเวลาการไต่สวน ตามที่คณะกรรมการไต่สวนของ กกต. กรณีกล่าวหา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล รู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แต่ยังคงลงสมัครรับเลือกตั้ง ตามมาตรา 151 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561
จากเหตุมีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้งถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น ITV ตามที่ได้เสนอเรื่องมา เนื่องจากการดำเนินการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ โดยอนุมัติให้ขยายเวลาการสอบสวนเพิ่มเติมไปอีก 15 วัน ถือว่าเป็นการขอขยายระยะเวลาการสอบสวนครั้งแรกหลังจากครบกำหนด 20 วันในวานนี้ (4 กรกฎาคม) หลังจากมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนของ กกต. ตามระเบียบ กกต. ว่าด้วยการสืบสวนไต่สวนและวินิจฉัย 2563
รายงานข่าวว่า ที่ประชุม กกต. เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม เห็นชอบกรณีอัยการสูงสุด (อสส.) มีหนังสือขอเอกสารและขอทราบการดำเนินการของ กกต. เกี่ยวกับกรณีกล่าวหาพรรคก้าวไกลมีนโยบายหาเสียงแก้ไขและยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่งให้ อสส. ชี้แจงว่ารับหรือไม่รับคำร้องดังกล่าว หรือมีการดำเนินการอย่างไรกับคำร้องที่มีผู้ยื่นเรื่องดังกล่าวต่อ อสส. เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49
ทั้งนี้ กรณีนโยบายหาเสียงแก้ไขและยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลก่อนหน้านี้นายทะเบียนพรรคการเมืองได้มีความเห็นไม่รับคำร้องที่มีผู้ยื่นร้อง กกต. ขอให้พิจารณาเสนอศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคก้าวไกลจากเหตุดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่ายังไม่มีหลักฐานหรือข้อมูลเพียงพอว่าเป็นการกระทำเข้าข่ายเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันนี้พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่มีการสั่งให้สำนักงาน กกต. ไปตรวจสอบเพิ่มเติมว่าการกระทำตามที่มีผู้ร้องนั้นเป็นความผิดฐานไหนตามกฎหมายอื่นอีกหรือไม่