เดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศ หรือ 4 ทีมสุดท้ายกันเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการแข่งขันฟุตบอลยุโรปทั้ง 3 รายการ
เริ่มที่ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (UCL) เรอัล มาดริด ทีมแชมป์เก่าและแชมป์ถ้วยบิ๊กเอียร์ 14 สมัย ยังคงฟอร์มยอดเยี่ยม ตบเท้าเข้ารอบรองฯ รอดวลกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่หมายมั่นปั้นมือที่จะล้างตาจากฤดูกาลที่แล้ว และเข้าไปคว้าแชมป์ยุโรปสมัยแรกให้สโมสร
ส่วนอีกคู่เป็นการโคจรมาทำศึก ‘มิลาน ดาร์บี’ นอกลีก ระหว่าง เอซี มิลาน พบกับ อินเตอร์ มิลาน ซึ่งไม่ว่าบทสรุปคู่นี้จะเป็นอย่างไร คุณจะได้เห็นทีมจากอิตาลีเข้าสู่รอบชิงฯ การันตีแล้ว 1 ทีม
ฟากฝั่งยูฟ่ายูโรปา (UEL) เซบียา ตัวพ่อแห่งยูโรปาที่หักด่านแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาได้ จะดวลกับยูเวนตุส และอีกคู่ โรมา ของ จ่ามู-โชเซ มูริญโญ มีคิวทำศึกกับตัวแทนจากเวทีบุนเดสลีกาที่เหลือรอดในฟุตบอลยุโรปเพียงหนึ่งเดียวอย่าง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน
ขณะที่ถ้วยน้องเล็กอย่าง ยูฟ่ายูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก (UECL) หนึ่งในตัวเต็งจากเกาะอังกฤษอย่าง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด จะพบกับ อาแซด อัลค์มาร์ และอีกคู่ ฟิออเรนตินา มีคิวดวลกับยอดทีมจากสวิตเซอร์แลนด์อย่าง เอฟซี บาเซิล
💡 Mini Football Fact: รู้หรือไม่! นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ตัวแทนจากกัลโช เซเรีย อา อิตาลี สามารถผ่านเข้าสู่รอบรองฯ ได้มากถึง 5 ทีม โดยที่กระจายไปลุ้นแชมป์อยู่ทั้ง 3 รายการ นั่นสามารถความว่าลีกกัลโชมีโอกาสครองแชมป์ยุโรปทุกใบในฤดูกาลนี้
ภาพประกอบ: ฉัตรชัย เฉยชิต