ABC Laos news รายงานว่า เมื่อเวลา 20.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 23 กรกฎาคม เกิดเหตุเขื่อนปิดช่องเขา (Saddle Dam) ของโครงการเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างแตก ส่งผลให้มวลน้ำปริมาณ 5,000 ล้านตันไหลทะลักลงแม่น้ำเซเปียน เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนในแขวงอัตตะปือ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศลาว
แม้จะมีการแจ้งเตือนให้ประชาชนอพยพขึ้นที่สูงโดยด่วน หลังเกิดเหตุสันเขื่อนแตก แต่ยังมีประชาชนจำนวนมากติดค้างอยู่บนหลังคาบ้านเรือนในหลายหมู่บ้านของเมืองสนามไซ แขวงอัตตะปือ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความช่วยเหลือ ท่ามกลางสถานการณ์ที่วุ่นวายโกลาหล ขณะที่มูลนิธิของเอกชนในลาวต้องประกาศขอรับความช่วยเหลือ
สำหรับโครงการเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย มีบริษัทไทยคือ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในผู้ร่วมทุนโดยถือหุ้นร้อยละ 25 ร่วมกับบริษัทข้ามชาติอีก 3 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท เอสเค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 26
บริษัท Korea Western Power จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 25 บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 25 และ Lao Holding State Enterprise ถือหุ้นร้อยละ 24 ดำเนินโครงการภายใต้ชื่อ บริษัท ไฟฟ้า เซเปียน-เซน้ำน้อย จำกัด ทุนจดทะเบียน 306 ล้านเหรียญสหรัฐ
ข้อมูลจากรายงานประจำปี 2560 ของ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ระบุว่า โรงไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน-เซน้ำน้อย ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนเซเปียนและเขื่อนเซน้ำน้อย แล้วเสร็จ เร่ิมกักเก็บน้ำเมื่อปลายเดือนเมษายน 2560 ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์กังหันน้ำ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าและระบบส่งไฟฟ้าระหว่างสถานีไฟฟ้าแรงสูงปากเซ ประเทศลาว และสถานีไฟฟ้าแรงสูงอุบลราชธานี 3 ประเทศไทย ความก้าวหน้าโดยรวมมากกว่าร้อยละ 82 คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2562
ขณะที่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ แจ้งถึงประชาชนชาวบึงกาฬ ไม่ต้องตื่นตระหนกกรณีเขื่อนแตก และทำให้น้ำไหลลงพื้นที่ตอนล่างท่วมบ้านเรือนประชาชนราวกว่า 4,000 หลังคาเรือน โดยเขื่อนเซเปียนห่างจากเมืองปากเซ ราว 250 กิโลเมตร และปริมาณน้ำดังกล่าวที่ไหลออกจากเขื่อน ยังไม่มีผลกระทบกับชาวบ้านในจังหวัดบึงกาฬ ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขง
แต่ทางจังหวัดได้ประสานกับประเทศลาวตลอดเวลา เพื่อติดตามสถานการณ์
โดยผู้ว่าฯ บึงกาฬบอกว่าช่วงนี้ฝนตกเยอะในพื้นที่ จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้น ส่วนน้ำที่ไหลออกจากเขื่อนเซเปียนในครั้งนี้ ก็จะไหลไปตามลำน้ำสาขา และลงแม่น้ำโขงบางส่วน แต่เชื่อว่าปริมาณน้ำทั้งหมดจะยังไม่ส่งผลใดๆ ในขณะนี้
Photo: ABC Laos news
อ้างอิง: