×

ศปช. แจ้งเตือนภาคใต้ 9 จังหวัด เฝ้าระวังดินสไลด์หลังฝนเคลื่อนลงใต้ ส่วนภาคกลางปรับระบายน้ำเจ้าพระยาลดลงหลังน้ำเหนือลด

โดย THE STANDARD TEAM
14.10.2024
  • LOADING...

วันนี้ (14 ตุลาคม) จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) และ ศปช. ส่วนหน้า จังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า จากปริมาณฝนที่ยังตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ภาคใต้ช่วงนี้ อาจส่งผลให้เกิดเหตุดินถล่มได้ในพื้นที่ 9 จังหวัด ขอแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเฝ้าระวังเหตุดินถล่ม

 

พื้นที่เสี่ยงดินถล่มใน 9 จังหวัด ได้แก่

 

  • อำเภอเมืองภูเก็ต อำเภอกะทู้ และอำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต

 

  • อำเภอเมืองกระบี่ อำเภอเขาพนม และอำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่

 

  • อำเภอย่านตาขาว, อำเภอปะเหลียน, อำเภอห้วยยอด และอำเภอนาโยง จังหวัดตรัง

 

  • อำเภอควนโดน, อำเภอควนกาหลง, อำเภอละงู, อำเภอทุ่งหว้า และอำเภอมะนัง จังหวัดสตูล

 

  • อำเภอกงหรา, อำเภอศรีบรรพต, อำเภอศรีนครินทร์, อำเภอเขาชัยสน, อำเภอตะโหมด และอำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง

 

  • อำเภอหาดใหญ่, อำเภอสะบ้าย้อย, อำเภอจะนะ, อำเภอนาทวี, อำเภอรัตภูมิ และอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา

 

  • อำเภอโคกโพธิ์, อำเภอหนองจิก, อำเภอปะนาเระ, อำเภอมายอ, อำเภอทุ่งยางแดง, อำเภอสายบุรี และอำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี

 

  • อำเภอบาเจาะ, อำเภอยี่งอ, อำเภอระแงะ, อำเภอรือเสาะ, อำเภอศรีสาคร, อำเภอแว้ง, อำเภอสุคิริน, อำเภอสุไหงปาดี, อำเภอจะแนะ และอำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส

 

  • อำเภอเบตง, อำเภอธารโต, อำเภอกาบัง, อำเภอบันนังสตา, อำเภอยะหา, อำเภอรามัน และอำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลา

 

ส่วนสถานการณ์น้ำภาคกลาง จิรายุกล่าวว่า ปริมาณฝนที่ลดลงทำให้น้ำที่ไหลผ่านเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลดลงตามลำดับ ปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสถานี C.2 นครสวรรค์ 1,980 ลูกบาศก์เมตร​ต่อวินาที และการระบายน้ำปัจจุบันที่ 1,751 ลูกบาศก์เมตร​ต่อวินาที

 

ที่ประชุม ศปช. วันนี้ จึงมีมติให้ทยอยปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาลง เหลืออัตรา 1,700 ลูกบาศก์เมตร​ต่อวินาที ในเวลา 12.00 น. และเหลืออัตรา 1,650 ลูกบาศก์เมตร​ต่อวินาที ในเวลา 21.00 น. เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำหนุนในช่วงวันที่ 13-24 ตุลาคมนี้

 

ทั้งนี้ คาดว่าหากปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลดลงอย่างต่อเนื่อง 2-3 วันข้างหน้า จะสามารถปรับลดการระบายน้ำเหลือ 1,500 ลูกบาศก์เมตร​ต่อวินาที

 

จิรายุกล่าวต่อไปว่า ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานศูนย์ ศปช. จึงกำชับเหล่าทัพเร่งระดมกำลังพลเตรียมการช่วยเหลือประชาชนทันทีเมื่อเกิดภัยในพื้นที่ตำบลชนแดน อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ รวมถึงการฟื้นฟู ทำความสะอาด และขุดตักดินโคลนที่ทับถมบ้านพักอาศัย รวมทั้งพื้นที่สาธารณะให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย รวมถึงมอบถุงยังชีพ สิ่งของ เครื่องอุปโภค-บริโภค พร้อมน้ำดื่ม ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ตำบลหนองผึ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อการบรรเทาความเดือดร้อนในขั้นต้น

 

พร้อมกันนี้ให้ร่วมกับส่วนราชการในจังหวัดนนทบุรีและปทุมธานี มอบถุงยังชีพสิ่งของเครื่องอุปโภค-บริโภคให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย บรรจุและขนย้ายกระสอบทรายทำแนวกั้นน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม ตลอดจนเร่งทำแนวคันกั้นน้ำเพื่อป้องกันพื้นที่บ้านเรือนประชาชนและพื้นที่เศรษฐกิจ พร้อมจัดกำลังพลเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง

 

จิรายุกล่าวถึงภาพรวมการจ่ายเงินเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยว่า (ข้อมูล ณ 12 ตุลาคม 2567) ความคืบหน้าการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาและผู้ประสบภัยตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 17 กันยายน 2567 มีการยื่นคำร้องในระบบทั้งสิ้น 56 จังหวัด 195,851 ครัวเรือน โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ส่งข้อมูลให้ธนาคารออมสินแล้ว 7 ครั้ง จ่ายเงินผ่าน PromptPay ไปแล้ว 6 ครั้ง โอนเงินสำเร็จกว่า 17,352 ครัวเรือน จำนวนเงินทั้งสิ้น 86,888,000 บาท

 

ส่วนการฟื้นฟูในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เป้าหมายบ้านเรือนประชาชน 1,367 ครัวเรือน ดำเนินการแล้ว 1,327 ครัวเรือน อยู่ระหว่างดำเนินการ 40 ครัวเรือน คิดเป็น 97% ด้านการดำเนินการฟื้นฟูในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เฟส 2 เป้าหมายบ้านเรือนประชาชน 819 ครัวเรือน ดำเนินการแล้ว 660 ครัวเรือน อยู่ระหว่างดำเนินการ 159 ครัวเรือน คิดเป็น 80% การจัดการขยะในพื้นที่ ประมาณการขยะทั้งสิ้น 70,000 ตัน ดำเนินการทิ้งแล้วทั้งสิ้น 67,617 ตัน คิดเป็น 96.59%

 

สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้วทั้งในส่วนของตัวเมืองและอำเภอในพื้นที่ท้ายน้ำ โดยระดับน้ำในแม่น้ำปิงที่สถานี P.1 สะพานนวรัฐ ปัจจุบันลดต่ำลงเหลือ 2.29 เมตร ขณะที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวก็ลดเหลือเพียง 13 แห่ง ซึ่งยังมีผู้พักพิงอาศัยอยู่ รวมทั้งสิ้น 38 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่ยังอยู่ในระหว่างรอลูกหลานฟื้นฟูสภาพบ้านเรือนให้พร้อมเข้าอยู่อาศัยก่อน ส่วนการดำเนินการหลังจากนี้ไปจะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูล้างทำความสะอาดบ้านเมืองอย่างเต็มกำลังในทั่วทุกพื้นที่ และในวันนี้ ตั้งแต่ 08.00 น. ระดมกำลังจากส่วนต่างๆ ทำความสะอาดถนน ฟื้นฟูพื้นที่เศรษฐกิจและบ้านเรือนของพี่น้องประชาชน

 

ด้านสถานการณ์อุทกภัยที่จังหวัดลำพูน สถานการณ์น้ำท่วมเขตอำเภอเมืองล่าสุด (13 ตุลาคม) มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ทั้ง 7 ตำบล รวม 81 ตัว ซึ่งส่งผลให้ระดับน้ำลดลงในหลายพื้นที่

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising