กรมธนารักษ์ จับมือ กระทรวงสาธารณสุข ปั้นโมเดล ‘Landlord Sharing’ เพิ่มมูลค่าทรัพย์สินราชการ เปิดเอกชนประมูลสิทธิ์พัฒนาพื้นที่ราชพัสดุ สร้างพื้นที่บริการทางการแพทย์
วานนี้ (22 สิงหาคม) เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ Landlord Sharing ซึ่งเป็นโครงการสนับสนุนด้านสาธารณสุข และเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้ความครอบครองของส่วนราชการ
พร้อมกันนี้ ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) มอบอำนาจบริหารพื้นที่ราชพัสดุ แก่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กับ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
โดยเอกนิติ กล่าวว่า กรมธนารักษ์ ตั้งเป้ายกระดับบทบาทของหน่วยงาน ให้กลายเป็นกรมที่เพิ่มมูลค่าและคุณค่าทรัพย์สินแผ่นดิน หรือที่เรียกว่า ‘Value Creation for Public Property and Asset’
ปัจจุบัน ไทยมีที่ราชพัสดุรวมกว่า 12.6 ล้านไร่ ซึ่งอยู่ในความครอบครองของส่วนราชการ 10.4 ล้านไร่ แต่ด้วยข้อจำกัดด้านงบประมาณ ทำให้พื้นที่บางส่วน ถูกนำไปใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มศักยภาพ
Landlord Sharing จึงเป็นโครงการซึ่งนำที่ราชพัสดุของส่วนราชการต่างๆ มาพัฒนาภายใต้โครงการเชิงสังคม โดยเฉพาะโครงการด้านสาธารณสุขที่ยังมีไม่เพียงพอ แม้ไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ หรือมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปเท่ากับหรือมากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมดแล้วก็ตาม
กรมธนารักษ์ จึงจับมือกระทรวงสาธารณสุขเพื่อยกระดับบริการสุขภาพประชาชน พร้อมสร้างโอกาสในการเพิ่มมูลค่าที่ราชพัสดุ ผ่านการมอบอำนาจบริหารพื้นที่ราชพัสดุ แก่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ซึ่งสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขจะเปิดประมูลพื้นที่ราชพัสดุให้ภาคเอกชนนำพื้นที่ไปประกอบกิจการพาณิชย์ โดยมีเงื่อนไขต้องก่อสร้างอาคารสำหรับบริการทางการแพทย์ หอผู้ป่วยพิเศษ และที่จอดรถตามขนาดที่กำหนด
เนื่องจากเป็นการมอบอำนาจ และมีระยะเวลาการใช้ประโยชน์ไม่เกิน 30 ปี พื้นที่ราชพัสดุจึงยังคงเป็นของรัฐ และเมื่ออาคารก่อสร้างแล้วเสร็จ กรรมสิทธิ์ของอาคารจะเป็นของกระทรวงการคลังทันที
กรมธนารักษ์ตั้งเป้าอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) ไว้ที่ 3% โดยแบ่งเป็น ค่าแรกเข้า 1% และค่าดำเนินการ 2%
มีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ ดังนี้
1. เป็นโครงการเชิงสังคมด้านสาธารณสุข ด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต
2. โครงการต้องเป็นไปตามภารกิจและกฎหมายของส่วนราชการนั้นๆ
3. ไม่เป็นโครงการภายใต้กฎหมาย PPP และการจัดสวัสดิการเชิงธุรกิจ
4. เปิดประมูลให้เอกชนพัฒนาโครงการ และจัดสรรพื้นที่ตามโครงการให้ส่วนราชการใช้ในราชการ
5. ดำเนินการตามขั้นตอนและวิธีตามกฎหมายที่ราชพัสดุ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
6. นำส่งรายได้จากการให้เอกชนเช่าที่ราชพัสดุนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
7. มีมาตรการกำกับและควบคุมราคาค่าบริการที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับประชาชน
8. รายงานผลการดำเนินการให้กรมธนารักษ์ทราบทุกไตรมาส
โครงการ Landlord Sharing นับเป็นการสานต่อความสำเร็จจากโครงการนำร่องทั้ง 6 แห่ง ได้แก่
1. โรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วย หอผู้ป่วยพิเศษ พื้นที่บริการทางการแพทย์ และอาคารจอดรถ
2. โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จังหวัดเชียงราย ประกอบด้วย ศูนย์ Wellness (ศูนย์สุขภาพและฟื้นฟู) สถานพักฟื้นและรอรักษา พื้นที่บริการทางการแพทย์ และอาคารจอดรถ
3. โรงพยาบาลสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ประกอบด้วย ศูนย์บริการมะเร็ง หัวใจ และเวชศาสตร์วิถีชีวิต พื้นที่บริการทางการแพทย์ และอาคารจอดรถ
4. โรงพยาบาลมหานครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ประกอบด้วย หอผู้ป่วยพิเศษ พื้นที่บริการทางการแพทย์ และอาคารจอดรถ
5. โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ (โรงพยาบาลบางละมุง) จังหวัดชลบุรี ประกอบด้วย หอผู้ป่วยพิเศษ ที่พักระหว่างการรักษา พื้นที่บริการทางการแพทย์ และอาคารจอดรถ
6. โรงพยาบาลหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ประกอบด้วย อาคารบริการและสนับสนุนทางการแพทย์
