วันนี้ (2 ธันวาคม) ตั้งแต่เวลา 17.30 น. บริเวณห้าแยกลาดพร้าว กลุ่มราษฎรจัดการชุมนุม ‘ไล่จันทร์โอชา’ โดยมีการจัดวางเวทีใหญ่ด้วยรูปแบบคล้ายบัลลังก์ศาล ขณะที่กลุ่มมวลชนจับจองหาที่นั่งเพื่อฟังการปราศรัยจนเต็มพื้นที่หน้าเวที และในพื้นที่โดยรอบได้มีการจัดกิจกรรมเช่นเดียวกันกับครั้งก่อนๆ
นอกจากนี้ยังมีการถือป้ายสำรวจรายได้ผู้ที่เข้าร่วมชุมนุม และสำรวจการเข้าร่วมชุมนุม โดยให้มวลชนติดสติกเกอร์เล็กๆ ตรงช่องที่ตรงกับตนเอง ซึ่งพบว่าผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมส่วนใหญ่มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาท และส่วนใหญ่มาร่วมชุมนุมเกิน 9 ครั้ง
ขณะที่ ภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ แกนนำกลุ่มราษฎร กล่าวถึงการจัดชุมนุมที่ห้าแยกลาดพร้าววันนี้ว่า คำวินิจฉัยวันนี้สะท้อนกระบวนการยุติธรรมของไทยที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ เพราะมองว่า พล.อ. ประยุทธ์ ควรถูกพิจารณาให้พ้นจากตำแหน่ง ดังนั้นเมื่อมีคำตัดสินของศาลออกมาแบบนี้ จึงมองว่าไม่มีความชอบธรรมในกระบวนการยุติธรรม ถ้า พล.อ. ประยุทธ์ ไม่รู้จักคำว่าผิด ก็จะมีการชุมนุมเรียกร้องต่อไป เพื่อให้ได้รับความยุติธรรม จนกว่า พล.อ. ประยุทธ์ จะลาออก
ขณะที่การปราศรัยได้ระบุถึงการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใช้บ้านราชการในกรมทหารราบที่ 1 ซึ่งเป็นไปตามที่ทุกคนคิดกันไว้ และได้มีการสอบถามมวลชนว่า ใครรู้ล่วงหน้าถึงคำวินิจฉัยบ้าง ทุกคนก็ยกมือเห็นด้วย
อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้เป็นช่วงเปิดภาคเรียน จึงเห็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่ใส่ชุดนักเรียน นักศึกษาเข้าร่วมด้วย พร้อมทำพิธีแห่เป็ดยางไปหน้าเวที ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการชุมนุม
ในเวลา 18.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมทำกิจกรรมเคารพธงชาติ และตะโกนว่า “เผด็จการจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ”
ด้าน อรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ ขึ้นเวทีปราศรัย มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์การวินิจฉัยการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ในกรณี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใช้บ้านราชการในกรมทหารราบที่ 1 โดยระบุว่า พล.อ. ประยุทธ์ ไม่มีความผิด พร้อมทั้งแจ้งว่าตนและ พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน จะเดินทางขึ้นภาคเหนือเพื่อไปช่วยเกี่ยวข้าว และขอให้รอการชุมนุมที่พี่น้องต่างจังหวัดจะเข้ามาสมทบที่กรุงเทพมหานคร
ขณะอรรถพลปราศรัย ได้มีการตั้งศาลพระภูมิไว้บริเวณหน้าเวที ซึ่งเมื่อปราศรัยจบก็ได้ทำการทุบทำลายศาลพระภูมิดังกล่าว ท่ามกลางเสียงโห่ร้องแสดงความพอใจของผู้ชุมนุม
ด้านอานนท์ นำภา ขึ้นกล่าวปราศรัยว่า ตนได้ฟังคำพิพากษาของศาลแล้ว ไม่แปลกใจ ออกมาแบบที่คิดไว้แล้วคือ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รอด แต่ต่อไปนี้จะเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ คือถ้าเป็นข้าราชการการเมือง หรือรัฐมนตรี ถ้ามีการรับประโยชน์อื่นใดจากส่วนราชการต่อไปนี้จะถือว่าไม่ผิด เป็นหลักการใหม่ที่ พล.อ. ประยุทธ์ สร้างขึ้นแล้ว ดังนั้นเรื่องนี้จริงๆ แล้วก็ไม่ต้องให้ศาลมาวินิจฉัยก็ได้ คนธรรมดาก็สามารถตัดสินได้ว่า การอยู่บ้านพักราชการ ใช้น้ำไฟฟรีโดยให้ราชการจ่ายให้ เป็นการรับประโยชน์อยู่แล้ว
ต่อมา ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง แกนนำคณะราษฎร ขึ้นเวทีปราศรัย โดยเปิดคลิปการสลายการชุมนุมโดยใช้กระสุนเมื่อปี 2553 และขอให้ทุกคนยืนไว้อาลัยกับบุคคลที่ถูกยิงในการสลายการชุมนุมของรัฐ
พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ขึ้นเวทีปราศรัย โดยมีเนื้อหาถึงการวิพากษ์วิจารณ์ต่อการทำงานของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ตัดสินให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พ้นข้อกล่าวหา และกล่าวว่า วันนี้มาตรฐานประชาธิปไตยถูกทำลายลง และพิสูจน์ได้แล้วว่าประเทศไทยทุกวันนี้ไม่มีมาตรฐานใดๆ อีกต่อไปแล้ว
ต่อมาได้มีการแสดงละครล้อถึงบรรยากาศในศาลที่ตัดสินให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พ้นผิดในกรณีอาศัยบ้านหลวง นำแสดงโดย จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน และหอย รามคำแหง
ต่อมา รัศม์ ชาลีจันทร์ อดีตเอกอัครราชทูตในหลายประเทศ อดีตรองอธิบดีกรมสารนิเทศ ผู้เปิดแฟนเพจ ‘ทูตนอกแถว’ ขึ้นปราศรัยให้กำลังใจผู้ชุมนุมว่า ตนมาในวันนี้รู้สึกภูมิใจในตัวน้องๆ เยาวชนที่เก่งกล้าสามารถมากๆ นี่คืออนาคตของประเทศชาติที่เราควรภูมิใจ วันนี้นอกจากจะมาให้กำลังใจทุกคนแล้ว ตนเชื่อว่าเรามีวัตถุประสงค์เดียวกัน เป็นเรื่องง่ายมาก คือต้องการเห็นประเทศชาติของเราดีขึ้น เจริญพัฒนาขึ้น และก้าวหน้าขึ้นเท่านั้น ถามว่าการที่เราอยากเห็นประเทศก้าวหน้า ประชาชนกินดีอยู่ดีมันผิดตรงไหน มันเป็นสิทธิพื้นฐานมากๆ ที่ผ่านมาประเทศเราชัดในตัวเลขและข้อเท็จจริงว่ากำลังเข้าสู่ภาวะตกต่ำ ซึ่งทุกคนมีความเป็นห่วง ตนก็เป็นห่วงถึงต้องมาอยู่ตรงนี้
พร้อมระบุว่า การต่อสู้นี้อาจกินเวลานาน แต่คนเราเกิดมาต้องมีความหวัง ต้องการเห็นสิ่งที่ดีขึ้นแม้จะยากลำบาก แต่เรามีฝัน เชื่อว่าเราจะก้าวไปและทำฝันนั้นให้สำเร็จ
จากนั้นมีผู้ขึ้นปราศรัยสลับกับการเล่นดนตรี โดยวงสุดท้ายก่อนยุติการชุมนุมคือ วงสามัญ
อย่างไรก็ตามแม้เวลาจะล่วงเลยจนถึงเวลา 00.00 น. ของวันที่ 3 ธันวาคมแล้ว แต่การชุมนุมยังคงไม่ยุติแต่อย่างใด จนกระทั่งเวลา 00.21 น. จึงมีการประกาศยุติการชุมนุม
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์