×

เกียวโตมาราธอน 2020 ท่ามกลางสายฝน บทเรียนแห่งชัยชนะและการเรียนรู้

17.02.2020
  • LOADING...

ณ ศาลเจ้าเฮอัน แหล่งท่องเที่ยวสำคัญภายในเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ในวันธรรมดาทั่วไปบนถนนสายนี้ ผู้ที่เดินผ่านอาจเป็นเพียงผู้สัญจรไปมาหรือนักท่องเที่ยว 

 

แต่สำหรับวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ผู้ที่วิ่งผ่านเส้นชัยหน้าสถานที่แห่งนี้ คือผู้ที่สามารถวิ่งพิชิตระยะมาราธอนได้สำเร็จในการแข่งขันเกียวโตมาราธอน 2020 

 

เกียวโตมาราธอนในปีนี้ THE STANDARD ได้มีโอกาสเดินทางมาร่วมสัมผัสบรรยากาศเป็นครั้งแรกจากการเชิญชวนของ CW-X Thailand หนึ่งในผู้สนับสนุนการแข่งขันเกียวโตมาราธอนอย่างเป็นทางการ 

 

แม้ว่าการแข่งขันในปีนี้จะถูกปกคลุมไปด้วยข่าวการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนทำให้บรรยากาศภายในตัวเมืองค่อนข้างเงียบเหงากว่าปกติ จากการลดลงของนักท่องเที่ยวชาวจีน 

 

แต่เมื่อเช้ามืดของวันที่ 16 กุมภาพันธ์ เมื่อมาถึงสนามกีฬาเกียวโต ก็เต็มไปด้วยผู้ที่มีเป้าหมายพิชิตระยะ 42.195 กิโลเมตรให้ได้ 

 

เส้นทางเกียวโตมาราธอนจากการบอกเล่าของผู้ที่มีประสบการณ์ยอมรับว่า ความท้าทายคือ การวิ่งขึ้นลงเนินเขา และอากาศที่คาดเดาได้ยาก ซึ่งในปีนี้เกียวโตเพิ่มความท้าทายให้กับนักวิ่งด้วยสายฝนและความหนาวเย็นในอุณหภูมิประมาณ 10 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จุดเริ่มต้นเมื่อเวลา 08.00 น. 

 

วันนี้ 2 สมาชิกของทีม CW-X Thailand ที่เดินทางมาจากประเทศไทย ซึ่งได้สัมผัสกับการวิ่งระยะทางมาราธอนเป็นครั้งแรกคือ โดม-ปกรณ์ ลัม และ เมจิ-อโณมา ศรัณย์ศิขริน 2 ศิลปิน นักแสดงชื่อดังของไทย 

 

ตลอดการแข่งขัน ไฮไลต์ต่างๆ ที่ทุกคนกล่าวถึงคือ ขนม ผลไม้ และน้ำดื่ม ที่มีไว้ช่วยเติมพลังนักวิ่งตามจุดต่างๆ พร้อมกับเสียงเชียร์จากประชาชนและพระจากวัดนินนาจิ หนึ่งในวัดมรดกโลกของเกียวโต ที่ออกมาโบกธงเชียร์ให้กำลังใจ 

 

ขณะที่เส้นทางที่สวยงามสำหรับกองเชียร์ แต่เจ็บปวดสำหรับนักวิ่งในปีนี้คือ เส้นทางเลียบแม่น้ำคาโมะ เนื่องจากฝนที่ตกลงมา นักวิ่งต้องพบเจอกับดินที่กลายเป็นโคลน ทำให้การวิ่งในช่วงกิโลเมตรที่ 30 เป็นไปอย่างระมัดระวัง 

 

จนถึงเส้นชัย เราได้พบกับความรู้สึกที่หลากหลายของผู้ที่สามารถผ่านเส้นชัยมาราธอนในครั้งนี้

 

เห็นทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ การสวมกอดกับผู้ที่ร่วมวิ่งกันมา หรือผู้มารอให้กำลังใจ และน้ำตาจากหลายคนที่ร้องไห้ออกมาทันทีที่เขาก้าวข้ามเส้นชัย ก่อนที่เกือบทุกคนจะหันกลับไปโค้งคำนับให้กับการเดินทางที่ผ่านมา นับตั้งแต่วันที่ตัดสินใจวิ่งมาราธอนรายการนี้

 

ก่อนที่เราจะพบกับ เมจิ-อโณมา ศรัณย์ศิขริน ที่วิ่งเข้าเส้นชัยมาพร้อมกับธงชาติไทยด้วยเวลา 4:53:29 ชม. (เวลา Gun Time 05:06:27 ชม. นับตั้งแต่การปล่อยตัวนักวิ่งคนแรก) และสามารถพิชิตมาราธอนครั้งแรกได้สำเร็จในชีวิต

 

หลังจบการแข่งขัน นักวิ่งหลายคนมีประสบการณ์ที่หลากหลาย แต่คำนิยามที่เหมาะสมที่สุดคือ เกียวโตมาราธอนถือเป็นสนามที่มีความอร่อย ครบรสชาติแห่งสังเวียนมาราธอน ที่มีความท้าทายในการวิ่ง แต่สนุกในเวลาเดียวกัน 

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับการวิ่งมาราธอนทุกรายการย่อมมีผู้ที่ลงแข่งขัน แต่ยังไม่มีโอกาสได้สัมผัสเส้นชัย เป็นที่น่าเสียดายที่ในเกียวโตมาราธอนปีนี้ สำหรับมาราธอนครั้งแรกของ โดม-ปกรณ์ ลัม เขาจบการวิ่งลงที่กิโลเมตรที่ 25 

 

โดมมีอาการเจ็บที่สะโพกข้างซ้าย ทำให้ไม่สามารถวิ่งต่อได้ และต้องออกจากการแข่งขัน ซึ่งก่อนหน้านี้โดมมีอาการบาดเจ็บที่สะโพกอยู่แล้ว โดยก่อนเดินทางมาวิ่งเพียง 1 วัน ได้เข้าปรึกษาเพื่อเช็กสภาพร่างกายกับ หมอเมย์-สมิตดา สังขะโพธิ์ แต่แม้สภาพร่างกายไม่พร้อม แต่เขาก็ยังพยายามวิ่งถึง 25 กิโลเมตร ด้วยกำลังใจที่ดีจากเมทัล ภรรยาสุดน่ารัก แต่ก็ไม่สามารถต้านทานอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้ได้ จึงจำเป็นต้องออกจากการแข่งขันในครั้งนี้

 

หลังจบการแข่งขัน โดมอาการดีขึ้น แต่ยังคงต้องพักดูแลอาการ โดยมีเมทัลและทีมงานดูแลอย่างใกล้ชิด

 

การติดตามรายงานมาราธอนครั้งนี้ เราได้จึงได้พบกับทั้งความสำเร็จและบทเรียนครั้งแรกของทั้ง เมจิ-อโณมา ศรัณย์ศิขริน และ โดม-ปกรณ์ ลัม  

 

เชื่อว่า สำหรับใครก็ตามที่เคยทดลองท้าทายตนเองกับการแข่งขันวิ่งมาราธอนที่ระยะ 42.195 กิโลเมตร ย่อมเข้าใจถึงรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว 

 

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การได้ทดลองลงแข่ง เพราะทุกการเดินทาง เราจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่า เราอยู่ห่างไกลจากเป้าหมายขนาดไหน หากเราไม่ลองก้าวเดินออกไป

 

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising