กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่าสัปดาห์นี้ (8-12 มิถุนายน) ประเมินว่าค่าเงินบาทมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.35-31.75 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 31.44 ต่อดอลลาร์สหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเงินบาทแตะระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 2 เดือนครึ่งครั้งใหม่
ทั้งนี้มีกระแสเงินทุนไหลเข้า โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย 6,000 ล้านบาทและ 14,400 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยเงินยูโรแข็งค่าสูงสุดในรอบ 3 เดือน หลังธนาคารกลางยุโรปขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการเพิ่มวงเงินโครงการซื้อพันธบัตรฉุกเฉินเป็น 1.35 ล้านล้านยูโร และขยายระยะเวลาไปถึงกลางปี 2564 รวมทั้งยังได้แรงหนุนหลังเยอรมนีออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.3 แสนล้านยูโร
อย่างไรก็ตาม กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา มองว่านักลงทุนจะให้ความสนใจการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 9-10 มิถุนายนนี้ ซึ่งคาดว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ตามเดิม แต่อาจส่งสัญญาณใช้เครื่องมือควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Yield Curve Control) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ช่วงอายุ 10 ปีปรับตัวสูงขึ้นมาแล้วกว่า 30 bps นับตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน ขณะที่กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ต้องกู้เงินจำนวนมากจากตลาดเพื่อใช้เยียวยาเศรษฐกิจซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ฝั่งกระทรวงพาณิชย์รายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพฤษภาคม ลดลง 3.44% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการติดลบมากที่สุดในรอบ 10 ปี 10 เดือน ส่งผลให้ไทยเข้าสู่ภาวะเงินฝืดทางเทคนิค เนื่องจากเงินเฟ้อติดลบติดต่อกัน 3 เดือน อย่างไรก็ดี ธนาคารแห่งประเทศไทยกล่าวว่าไทยยังไม่เข้าข่ายเงินฝืดตามนิยามของการดำเนินนโยบายการเงิน อีกทั้งเป็นการลดลงจากราคาพลังงานเป็นหลัก โดยธนาคารแห่งประเทศไทยยังคาดว่าเงินเฟ้อปี 2564 จะกลับมาเป็นบวก แต่ยังมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเงินฝืดได้หากเศรษฐกิจย่ำแย่กว่าที่ประเมินไว้มาก อนึ่ง ในระยะนี้เรามองว่าแม้กระแสเงินทุนไหลเข้าเริ่มกลับมาในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ รวมถึงไทย จากความหวังต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แต่นักลงทุนอาจต้องระมัดระวังมากขึ้นต่อท่าทีของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ไม่ต้องการให้เงินบาทแข็งค่าเกินปัจจัยพื้นฐาน รวมถึงกรณีการทำธุรกรรมของผู้ค้าทองคำที่กระทบอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งทางการกำลังเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์