กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ (วันที่ 5-9 ตุลาคม) มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.35-31.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าอ่อนค่าจากการปิดตลาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่อยู่ระดับ 31.61 ต่อดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 7.1 พันล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตรสุทธิ 2.4 พันล้านบาท ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มทรงตัวในกรอบแคบๆ โดยมองว่า สินทรัพย์ตลาดเกิดใหม่อาจได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของทิศทางการเมืองในสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม คาดว่าตลาดจะจับตากระแสข่าวเกี่ยวกับสุขภาพของผู้นำสหรัฐฯ หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ทรัมป์และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งติดโควิด-19
ขณะเดียวกันความไม่แน่นอนทางการเมืองจะเพิ่มความผันผวนให้กับตลาด โดยหลังการโต้วาทีรอบแรกระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และ โจ ไบเดน ผู้ท้าชิงตำแหน่งจากพรรคเดโมแครต โดยผลโพลชี้ว่า คะแนนความนิยมของทรัมป์กำลังตามหลังยิ่งขึ้น ก่อนการเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563
อย่างไรก็ตาม คาดว่านักลงทุนในตลาดจะจับตาสุนทรพจน์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และการเปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของ Fed (FOMC) รอบล่าสุดที่จะออกมาภายในสัปดาห์นี้ หลังตำแหน่งการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกันยายนของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด แม้อัตราการว่างงานลดลงเกินคาดก็ตาม
ทางด้านสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่มีแนวโน้มไม่มากนักที่ร่างมาตรการดังกล่าวจะผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา
เบื้องต้นกรุงศรีฯ คาดว่า ประธาน Fed จะย้ำคำมั่นที่จะใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจและตลาดการเงิน รวมถึงบทบาทที่สำคัญของนโยบายการคลังในการเยียวยาผลกระทบจากวิกฤตด้านสาธารณสุข ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังอยู่ในกรอบ และความต้องการสินทรัพย์ตลาดเกิดใหม่จะอยู่ในวงจำกัดในระยะนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่สูงขึ้นของทิศทางการเมืองสหรัฐฯ และมาตรการปิดเมืองบางส่วนในยุโรป เพื่อลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่
ด้านปัจจัยภายในประเทศ คาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนกันยายนจะย่อตัวลงจากเดือนก่อนหน้า โดยเรายังคงประเมินว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีแนวโน้มตรึงดอกเบี้ยไว้ในอีกหลายไตรมาสข้างหน้า และมุ่งเน้นการเร่งกระจายสภาพคล่องให้ตรงจุด ทั้งนี้ กิจกรรมเศรษฐกิจในเดือนสิงหาคมหดตัวน้อยลง โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่าเศรษฐกิจอาจกลับมาขยายตัวได้ในไตรมาส 2/64
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล