กฤติยา ศรีสนิท ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวถึงแนวคิดในการกำหนดเพดานดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เป็นอัตราเดียวของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) โดยให้ดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ใหม่อยู่ที่ 15% ขณะที่รถยนต์มือสองรวมทั้งมอเตอร์ไซค์อยู่ที่ 20% ว่า หาก สคบ. กำหนดอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ระดับ 15% จริง ในส่วนของบริษัทคงต้องการประเมินความเสี่ยงตัวเองและลูกค้าใหม่ และอาจจะต้องปรับเงื่อนไขในการพิจารณาสินเชื่อเพิ่มเติม โดยเฉพาะในเรื่องของเงินดาวน์ขั้นต่ำหรือการขยายเวลาผ่อนชำระ
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 16 ธันวาคมนี้ที่ภาครัฐจะเปิดให้มีการรับฟังความเห็นจากผู้ประกอบการทั้งธนาคารและนอนแบงก์ รวมถึงสมาคมธุรกิจเช่าซื้อและสมาคม ถึงอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม เนื่องจากต้นทุนของแต่ละแห่งที่ไม่เท่ากัน ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่าควรปล่อยดอกเบี้ยให้เป็นไปตามกลไกตลาด เนื่องจากปัจจุบันกลไกตลาดทำงานได้ดีอยู่แล้ว ลูกค้าสามารถตรวจสอบดอกเบี้ยที่แต่ละสถาบันการเงินเสนอได้ตลอดเวลา ผู้ประกอบการใดที่เสนออัตราดอกเบี้ยสูงก็จะไม่ได้รับความสนใจจากลูกค้าในที่สุด
นอกจากนี้ภาครัฐต้องหาจุดสมดุลระหว่างผู้บริโภค และผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เริ่มต้นการทำงานหรือผู้ที่ต้องใช้รถในการประกอบอาชีพจะทำอย่างไร
“จริงๆ ทุกวันนี้กลไกตลาดทำงานได้ดีอยู่แล้ว และดอกเบี้ยในขณะนี้ก็ไม่ได้แพง หากคุมอัตราดอกเบี้ยไว้ เมื่อถึงวันหนึ่งแนวโน้มที่ต้นทุนดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น เราจะต้องกลับมาแก้ไขกันอีกครั้งหรือ” กฤติยากล่าว
กฤติยายังกล่าวถึงการขยายสินเชื่อปีนี้ว่า ยังเชื่อว่าจะเติบโตได้ 2% จากปีก่อน เป็นไปตามเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 4.28 แสนล้านบาท เนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น โดยภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้คาดว่า GDP จะเติบโต 1.2% จากเดิมที่คาดไว้ 0.6% หลังสถานการณ์โควิดที่ดีขึ้น มีการเปิดประเทศ แต่จะเป็นการทยอยฟื้นตัวและจะกลับไปสู่ช่วงก่อนโควิดน่าจะปลายปี 2565
โดยในปีนี้คาดว่ายอดขายรถยนต์ใหม่จะอยู่ที่ 7.5 แสนคัน ลดลง 5% ขณะที่ตลาดสินเชื่อยานยนต์อยู่ที่ 4.65 แสนล้านบาท ลดลง 4% ในส่วนของ NPL ยังอยู่ในระดับ 1.7% จากมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทยและมาตรการดูแลลูกค้าของบริษัท
กฤติยากล่าวอีกว่า สินเชื่อออนไลน์ในปีนี้ขยายตัวได้ในสัดส่วน 4% ของสินเชื่อปล่อยใหม่ที่เพิ่มขึ้น โดยกลยุทธ์ของกรุงศรี ออโต้ จะเน้นทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ด้วยการพัฒนาช่องทางดิจิทัลโดยใช้เทคโนโลยีมาให้บริการ วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้ารายบุคคล พิจารณาสินเชื่อแบบเรียลไทม์ เพื่อยกระดับการให้บริการของพนักงาน
ทั้งนี้ งานวิจัยของ ABeam Consulting ระบุว่า 40% ของผู้บริโภคชาวไทยสนใจซื้อออนไลน์ แต่ลูกค้ายังให้ความสำคัญกับการพูดคุยกับพนักงานขายเป็นช่องทางอันดับ 1 โดยลูกค้าอีก 59% ยังนิยมเข้าศูนย์เพื่อเทสต์รถ พูดคุยกับพนักงานขาย และเปรียบเทียบราคา ดังนั้นตลาดรถยนต์ยังต้องมีคนมาเกี่ยว ขณะที่เจ้าของรถหรูและทั่วไปเกินครึ่งเลือกใช้หรือต้องการช่องทางดิจิทัลกับบริการหลังการขาย แต่กระบะยังออฟไลน์ กรุงศรี ออโต้ จึงต้องพัฒนาทั้ง 2 ช่องทาง เพื่อบริการที่ครบวงจร
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP