สืบเนื่องจากกรณี ปอนด์-กฤษดา วิทยาขจรเดช ผู้บริหารค่าย Be On Cloud ได้โพสต์คลิปวิดีโอและข้อความให้กำลังใจ บิว-จักรพันธ์ พุทธา อดีตนักแสดงภายใต้สังกัดที่ตัดสินใจลาออกจากค่ายเนื่องจากกรณีทำร้ายร่างกายอดีตแฟนสาว ผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว จนมีผู้คนเข้ามาคอมเมนต์ในเชิงตำหนิว่าปอนด์เข้าข้างผู้กระทำผิด และทำให้เกิดกระแส #BoycottBOC ตามมา
อีกทั้งปอนด์ยังได้ตอบกลับคอนเมนต์ของผู้ใช้รายหนึ่งว่า “ยุ่งไรวะ รู้ไรว่าเขาผ่านอะไรกันมาบ้าง นี่ IG ส่วนตัว จะโพสต์อะไรก็เรื่องของเจ้าของ IG ไม่ชอบก็ Block ไป จะมาดูมาเมนต์เพื่อไรวะ เสร่อ” ซึ่งทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้นกว่าเดิม จนเกิดผลกระทบต่อการซื้อบัตรคอนเสิร์ต KINNPORSCHE THE SERIES WORLD TOUR 2023 และแฟนๆ เริ่มพากันออกมาแบนค่ายนี้ เนื่องจากอุดมการณ์และการจัดการของประธานค่ายนั้นไม่มีความเป็นมืออาชีพ อีกทั้งยังใช้อารมณ์มาแก้ไขปัญหา
ภาพ: Krispond.w / Instagram
ล่าสุดเย็นวันนี้ (29 มกราคม) ปอนด์ได้ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงและขอโทษต่อประเด็นทั้งหมดผ่านบัญชีอินสตาแกรมของเขา โดยข้อความได้ระบุไว้ว่า
ภาพ: Krispond.w / Instagram
“การได้เห็นคนที่เรารักเหมือนครอบครัวแตกสลายต่อหน้า เป็นเรื่องที่สะเทือนใจและยอมรับว่า Lost จริงๆ คนที่โตมาด้วยกัน กับเหตุการณ์ทุกๆ เรื่องที่ได้รับรู้ ไม่ว่าจากฝั่งไหนมันสร้างความสะเทือนใจกับผม ภาพที่ได้เห็นบิว ครอบครัวของเขา เมื่อวานมันเกิดความรู้สึกมากมาย เกินกว่าที่คนอย่างผมจะจัดการความรู้สึกได้ดีพอ
“เมื่อวานที่ผมโพสต์ในโซเชียลมีเดียส่วนตัวไม่ได้เพื่อเข้าข้างใคร หรือบอกว่าใครผิดหรือถูก ผมโพสต์เพื่อจะบอกลาครอบครัวผมคนหนึ่งที่กำลังจะจากผมไป ที่โพสต์วิดีโอเก่าตอนคอนเสิร์ตแรกวันที่บิวเคยปรับตัวจากเรื่องอดีตที่ทำพลาด ผมลงไปผมไม่ได้ทำเพื่อปกป้องหรือชื่นชมเขาในเรื่องที่เขาทำผิดต่อผู้อื่นหรือสังคม ผมโพสต์ในมุมที่เขามีต่อผม และผมหวังว่าสักวันในอนาคตเขาจะคิดและปรับตัวให้ดีขึ้นกว่าวันนั้นและที่ผ่านมา ในฐานะหัวหน้าครอบครัวที่คอยประคับประคองทุกคนให้เดินไปด้วยกันจนถึงวันนี้ มันเสียใจกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น กับทุกคน ทุกฝ่าย มากจริงๆ
“คำว่าประธานค่าย ซีอีโอ หรืออะไรก็ตามที่ทุกคนใช้เรียก มันคือตำแหน่งที่ทุกคนคาดหวัง คือหัวโขน ที่ข้างในคือคนธรรมดาๆ คนหนึ่งที่มีความรู้สึก และแสดงออกแบบคนธรรมดาทั่วไป ผมขอให้ลองคิดว่าถ้าคุณจะต้องบอกลากับคนในครอบครัวของคุณ คุณก็คงรู้สึกไม่ต่างกับผมตอนนี้
“กับปอยเองก็รู้สึกเสียใจไม่ต่างกัน ยังให้กำลังใจและคุยกับปอยเสมอ และผมรู้ว่าปอยก็เจ็บปวด แต่อาจจะด้วยภาพที่ผมได้เห็นจริงๆ กับตาตอนนี้ ทำให้ผมใจสลายและได้โพสต์ออกไปแบบนั้น
“แต่ทุกคนต้องรับผลของการกระทำ ไม่ว่าจะใครก็ตาม ผมเองก็ด้วย คนทำผิดก็ต้องได้รับบทลงโทษ ผมไม่สนับสนุนความรุนแรงทุกรูปแบบและไม่ปกป้องคนกระทำผิด แม้แต่ครั้งเดียว ที่ผ่านมาผมเศร้าทุกครั้งที่คิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องทั้งสองคน แต่เราไม่สามารถกลับไปทำอะไรได้ ผมเข้าใจ และยอมรับในความจริงทุกอย่าง
“ส่วนการใช้อารมณ์ตอบโพสต์ ผมขอโทษ และยอมรับในความผิดพลาดของตัวเอง ยอมรับว่าเป็น Personal Emotion และยอมรับว่าวู่วาม
.
“ผมเข้าใจเรื่องบัตรคอนเสิร์ตมาก และการโพสต์นี้เพื่อชี้แจงให้ทุกคนเข้าใจเจตนาของผม ไม่เกี่ยวข้องกับบัตรคอนเสิร์ตเลย ยังไงเราก็จะจัด อย่างที่บอก คอนเสิร์ตนี้สำคัญสำหรับเรา มันคือบทสรุปของสิ่งที่เราพยายามทำมา
“ผมก็ยังจะทำทุกอย่างด้วยหัวใจของผม ทำเพื่อคนที่ผมรัก เพื่อครอบครัวของผมต่อไป ขอโทษทุกคนสำหรับเรื่องนี้ และต่อไปจะจัดการความรู้สึกตัวเองให้ดีกว่านี้ครับ”
ภาพ: zpoimy / Instagram
ขณะที่ ปอย-พรรธน์ชญมน ธีวสุเจริญ เจ้าของผลงานนิยาย KinnPorsche The Series ที่เป็นคู่กรณีได้ออกมาโพสต์ข้อความใน IG Story ของเธอ ระบุว่า
“เพราะไม่ได้ออกสื่อ เพราะพวกคุณไม่เคยเห็นพ่อแม่ ครอบครัวของดิฉันร้องไห้แทบขาดใจสินะ ไม่เห็นตอนที่ปอยเจ็บปวดจนทนไม่ไหว เพราะเป็นคนที่ดูเข้มแข็งตลอด เพราะปอยไม่เคยอ่อนแอให้ใครเห็นเท่านั้นเลย”
ซึ่งหลังจากนี้ ทิศทางในอนาคตของค่าย Be On Cloud จะเป็นอย่างไรต่อไป อาจจะต้องรอดูกระแสสังคม รวมไปถึงการตระหนักรู้ของคนภายในองค์กรที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการรับมือกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนทั่วไป
อ้างอิง:
