เยฟกินี พริโกซิน ผู้นำกลุ่มทหารรับจ้างแวกเนอร์ ที่ปรากฏเป็นข่าวและครองพื้นที่สื่อทั่วโลกในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา เคยเป็นผู้สนับสนุนที่ซื่อสัตย์ของประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย มาอย่างยาวนาน ก่อนที่จะถูกตั้งข้อหากบฏ หลังจากเขาประกาศสั่งทหารรับจ้างที่กำลังปักหลักต่อสู้กับยูเครนให้เคลื่อนพลสู่มอสโก
ก่อนหน้านี้ พริโกซินหลีกเลี่ยงการวิจารณ์ปูตินโดยตรงมาโดยตลอด แม้เขาใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นเครื่องมือโจมตีกองทัพของรัสเซีย โดยกล่าวหาว่าผู้นำกองทัพเป็นกบฏ และกล่าวโทษกองทัพรัสเซียที่ไม่สามารถจัดหาอาวุธกระสุนและเสบียงให้กลุ่มนักรบแวกเนอร์ได้อย่างเพียงพอ
แต่ในช่วงสองวันที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกที่เขาออกมาโจมตีเหตุผลของปูตินในการรุกรานยูเครน จากนั้นความตึงเครียดเพิ่มขึ้น หลังพริโกซินส่งกองกำลังแวกเนอร์เข้ายึดเมืองรอสตอฟออนดอน ทางตอนใต้ของรัสเซีย ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางทหาร พร้อมสั่งให้กลุ่มนักรบของเขาเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าสู่กรุงมอสโก ส่งผลให้ปูตินตอบโต้โดยสั่งระดมทหารรัสเซียเพื่อปราบปรามการเคลื่อนไหวของพริโกซินที่ถูกตราหน้าว่าเป็นการก่อกบฏติดอาวุธ
และนี่คือจุดเริ่มต้นความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับพริโกซิน ซึ่งขมวดปมนำไปสู่เหตุการณ์ตึงเครียดในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ก่อนคลี่คลายได้หวุดหวิด
ธันวาคม 2016
สหรัฐอเมริกาประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อบุคคลและนิติบุคคลของรัสเซีย 15 ราย หนึ่งในนั้นรวมถึง เยฟกินี พริโกซิน จากการที่เขาทำธุรกิจในไครเมีย ซึ่งเป็นดินแดนของยูเครนที่รัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอย่างผิดกฎหมายในปี 2014 และมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครน กระทรวงการคลังสหรัฐฯ มุ่งเป้าแซงก์ชันไปที่นักธุรกิจซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดกับปูติน หรือมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ช่วยเหลือรัสเซียทำลายเสถียรภาพของยูเครน
กุมภาพันธ์ 2018
พริโกซินเป็นหนึ่งในชาวรัสเซีย 13 คนที่ถูกคณะลูกขุนใหญ่ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ฟ้องร้องในข้อหาแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2016 ผ่านทาง Internet Research Agency ของรัสเซีย ซึ่งผลิตข่าวปลอมหรือข้อมูลอันเป็นเท็จเพื่อสนับสนุน โดนัลด์ ทรัมป์ ในการหาเสียงเลือกตั้ง
กันยายน 2022
พริโกซินยอมรับต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกว่าเขาเป็นผู้ก่อตั้งองค์กรทหารรับจ้างแวกเนอร์ ซึ่งมีนักรบประจำการในยูเครนร่วมกับกองทหารรัสเซีย ก่อนหน้านี้ กลุ่มนักรบแวกเนอร์เคยร่วมปฏิบัติการทางทหารของเครมลินในแอฟริกาและตะวันออกกลาง ซึ่งบางครั้งบางคราวเป็นการต่อสู้กับกองกำลังสหรัฐฯ
ตุลาคม 2022
พริโกซินเป็นหนึ่งในสองผู้ภักดีคนสำคัญของปูตินที่วิจารณ์กองทัพรัสเซียอย่างเปิดเผย กรณีสั่งถอนทหารออกจากเมืองลีมาน (Lyman) ซึ่งเป็นเมืองสำคัญทางตะวันออกของยูเครน โดยเน้นย้ำว่าการถอนทหารดังกล่าวสร้างความอับอายขายหน้าให้กับเครมลินอย่างมาก
พฤศจิกายน 2022
เพียงหนึ่งวันก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ พริโกซินคุยโวว่า รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้ง
“ท่านสุภาพบุรุษ เราแทรกแซง เราแทรกแซง และเราจะแทรกแซง” พริโกซินกล่าวในแถลงการณ์ “เราจะดำเนินการอย่างรอบคอบ แม่นยำ และเฉียบขาด”
ขณะเดียวกันในเวลานั้น กลุ่มทหารรับจ้างแวกเนอร์กำลังรุกคืบเข้าสู่เมืองบัคมุต (Bakhmut) ทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งตกอยู่ภายใต้การโจมตีของรัสเซียมาหลายเดือน
กุมภาพันธ์ 2023
พริโกซินโพสต์ข้อความเสียงกล่าวหาผู้นำทางทหารของรัสเซียสองนายว่าเป็นกบฏ เขาอ้างว่า เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย และ พล.อ. วาเลรี เกราซิมอฟ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมรัสเซีย กำลังระงับการส่งกระสุนและเสบียงให้กับนักรบของเขาเพื่อพยายามทำลายกลุ่มแวกเนอร์
ในช่วงต้นเดือน พริโกซินกล่าวว่า แวกเนอร์จะไม่รับสมัครนักรบจากเรือนจำรัสเซียอีกต่อไป ซึ่งเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากองค์กรสิทธิมนุษยชน แต่ขณะเดียวกันก็ช่วยให้มอสโกก้าวหน้าในภาคตะวันออกของยูเครน
พฤษภาคม 2023
พริโกซินออกแถลงการณ์ที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง โดยนับเป็นอีกครั้งที่เขากล่าวหาระบบราชการทหารของรัสเซียว่าทำให้กองกำลังแวกเนอร์ขาดแคลนกระสุนที่จำเป็น และขู่ว่าจะถอนกำลังออกจากเมืองบัคมุต ก่อนที่จะมีท่าทีอ่อนลงในอีกหลายวันต่อมา เมื่อได้รับการยืนยันว่ากลุ่มแวกเนอร์จะได้รับอาวุธเพิ่ม
ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม กองกำลังแวกเนอร์กล่าวว่า พวกเขาเข้ายึดเมืองบัคมุตสำเร็จ ซึ่งในตอนแรก เจ้าหน้าที่ยูเครนรีบปฏิเสธคำกล่าวอ้างดังกล่าว แต่ไม่กี่วันต่อมาก็ออกมายอมรับการสูญเสียเมือง ขณะที่สื่อของรัสเซียไม่ได้กล่าวถึงชื่อของพริโกซินในการรายงานข่าวยึดเมืองบัคมุต
มิถุนายน 2023
ความตึงเครียดระหว่างพริโกซินกับกองทัพรัสเซียเพิ่มสูงขึ้น พริโกซินกล่าวว่า แวกเนอร์จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่กำหนด กลุ่มแวกเนอร์ลงนามในสัญญาอย่างเป็นทางการกับกระทรวงกลาโหมของรัสเซียภายในเดือนกรกฎาคม
ความบาดหมางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อพริโกซินเผยแพร่วิดีโอความยาว 30 นาที ซึ่งเขาบรรยายถึงการรุกรานยูเครนของรัสเซียว่าเป็น ‘การกระทำที่ผิดกฎหมาย’ โดยกลุ่มชนชั้นนำที่ฉ้อฉลไล่ล่าเงินและเกียรติยศโดยไม่สนใจชีวิตของชาวรัสเซีย
ต่อไปนี้คือเหตุการณ์เผชิญหน้าที่เกิดขึ้นในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
วันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน
- เยฟเกนี พริโกซิน ผู้นำกลุ่มทหารรับจ้างแวกเนอร์ เผยแพร่วิดีโอที่ยกระดับความบาดหมางของเขากับผู้นำกองทัพรัสเซีย
- ในคลิปเสียงที่โพสต์บน Telegram พริโกซินกล่าวว่า เขาต้องหยุด ‘ความชั่วร้าย’ ของผู้นำกองทัพรัสเซีย และกลุ่มนักรบของเขาจะนำการเดินทัพเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมต่อกองทัพรัสเซีย
- หน่วยรักษาความปลอดภัย FSB ของรัสเซียตอบโต้ด้วยการดำเนินคดีอาญาต่อพริโกซิน โดยระบุว่า ผู้นำแวกเนอร์พยายาม ‘ก่อกบฏด้วยอาวุธ’
- พล.อ. เซอร์เก ซูโรวิคิน รองผู้บัญชาการของหน่วยปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน เรียกร้องให้กลุ่มทหารรับจ้างแวกเนอร์ยุติการต่อต้านผู้นำกองทัพ และกลับไปยังฐานของพวกเขา
วันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน
- พริโกซินกล่าวว่า กลุ่มนักรบของเขาได้ข้ามพรมแดนจากยูเครนไปยังรัสเซียแล้ว และพร้อมที่จะ ‘ทำทุกวิถีทาง’ เพื่อต่อต้านกองทัพรัสเซีย
- นักรบแวกเนอร์ได้เคลื่อนทัพเข้าสู่เมืองรอสตอฟทางตอนใต้ของรัสเซีย จากการเปิดเผยของพริโกซินทางคลิปเสียงที่โพสต์บน Telegram
- ทำเนียบขาวกล่าวว่า กำลังติดตามสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับรัสเซียและกองกำลังแวกเนอร์อย่างใกล้ชิด และจะปรึกษาหารือกับพันธมิตรเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
- ผู้ว่าการแคว้นรอสตอฟทางตอนใต้ของรัสเซียที่ติดกับยูเครน ขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบและอยู่แต่ภายในอาคารสถานที่ เมื่อเป็นที่ชัดเจนแล้วว่ากองกำลังแวกเนอร์เข้าควบคุมเมืองรอสตอฟได้แล้ว
- กระทรวงกลาโหมของรัสเซียออกแถลงการณ์เรียกร้องให้นักรบแวกเนอร์ละทิ้งพริโกซิน โดยกล่าวว่าพวกเขา “ถูกหลอกและถูกลากเข้าสู่การต่อสู้คดีทางอาญา”
- แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของรัสเซียเผยกับ Reuters ว่า นักรบแวกเนอร์ได้เข้าควบคุมศูนย์ปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดในเมืองโวโรเนซ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมอสโกไปทางใต้ราว 500 กิโลเมตร
- ปูตินแถลงทางโทรทัศน์ โดยประกาศลั่นว่าจะทำลายสิ่งที่เขาเรียกว่าการก่อกบฏด้วยอาวุธ พร้อมกล่าวหาว่า พริโกซินเป็น ‘กบฏ’ และ ‘แทงข้างหลัง’
- รามซาน คาดีรอฟ ผู้นำสาธารณรัฐเชเชน ซึ่งเป็นพันธมิตรของปูตินกล่าวว่า กองกำลังของเขาพร้อมที่จะช่วยปราบปรามการก่อกบฏโดยพริโกซิน และใช้วิธีการรุนแรงหากจำเป็น
- รัฐบาลยุโรป รวมถึงอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี ออกแถลงการณ์ระบุว่า กำลังเฝ้าดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรัสเซียอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับรัฐบาลอื่นๆ ทั่วโลกที่ออกแถลงการณ์ในลักษณะเดียวกัน
- เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพรัสเซียเปิดฉากยิงขบวนทหารรับจ้างฝ่ายกบฏที่เดินทัพมุ่งหน้าไปยังมอสโกแล้วกว่าครึ่งทาง หลังจากยึดเมืองรอสตอฟได้ในชั่วข้ามคืน
- ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน กล่าวว่า “ความอ่อนแอของรัสเซียนั้นชัดเจน” และยิ่งมอสโกคงทหารและทหารรับจ้างไว้ในยูเครนนานเท่าไรก็จะยิ่งเป็นการนำความวุ่นวายโกลาหลกลับไปยังรัสเซียมากขึ้นเท่านั้น
- เซอร์เก นารีชกิน หัวหน้าหน่วยข่าวกรองต่างประเทศ SVR ของรัสเซีย กล่าวว่า เห็นได้ชัดว่าความพยายามของพริโกซินที่จะทำให้สังคมไร้เสถียรภาพ และจุดชนวนให้เกิดสงครามกลางเมืองนั้นล้มเหลว สำนักข่าว TASS รายงาน
- ทหารรัสเซียตั้งตำแหน่งปืนกลบริเวณขอบตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงมอสโก ตามภาพถ่ายที่เผยแพร่โดยหนังสือพิมพ์ Vedomosti ภาพถ่ายยังแสดงให้เห็นการรวมตัวกันของตำรวจติดอาวุธ ณ จุดทางหลวงสาย M4 ซึ่งกลุ่มทหารรับจ้างแวกเนอร์กำลังเคลื่อนขบวนไปยังเมืองหลวงของรัสเซีย
- ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน พูดคุยทางโทรศัพท์กับปูติน และเรียกร้องให้เขาดำเนินการอย่างมีสามัญสำนึก
- เบลารุสออกแถลงการณ์ยืนยันการเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย
- ทำเนียบขาวเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้พูดคุยกับผู้นำของฝรั่งเศส เยอรมนี และสหราชอาณาจักร และยืนยันว่าพวกเขาสนับสนุนยูเครน แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่าเขาได้พูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่ม G7 และผู้แทนระดับสูงด้านกิจการต่างประเทศของสหภาพยุโรป
- ปูตินลงนามในกฎหมายอนุญาตให้กักตัว 30 วัน ฐานละเมิดกฎอัยการศึกในสถานที่ที่บังคับใช้ สำนักข่าว RIA รายงาน
- สำนักข่าว TASS รายงานอ้าง พาเวล คราเชนินนิคอฟ สมาชิกสภานิติบัญญัติ ซึ่งกล่าวว่า ทหารรับจ้างแวกเนอร์จะได้รับการนิรโทษกรรมหากพวกเขาวางอาวุธ แต่มีข้อแม้ว่า “พวกเขาต้องรีบวางอาวุธโดยเร็ว”
- กระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียออกแถลงการณ์เตือนประเทศตะวันตกไม่ให้ใช้การก่อการกบฏของกลุ่มแวกเนอร์เพื่อสร้างกระแสเกลียดกลัวรัสเซีย (Russophobic)
- สำนักงานของประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ของเบลารุส เปิดเผยว่า เขาได้ทำข้อตกลงกับพริโกซิน ซึ่งตกลงที่จะลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์
- พริโกซินกล่าวหลังจากการเจรจากับผู้นำเบลารุสว่า เขาได้สั่งให้กลุ่มทหารแวกเนอร์ที่เคลื่อนขบวนไปมอสโกหันหลังกลับฐานเพื่อ ‘หลีกเลี่ยงการนองเลือด’
- นักรบแวกเนอร์เริ่มถอนทัพออกจากเมืองรอสตอฟออนดอนทางตอนใต้ ซึ่งการก่อกบฏของพวกเขาเริ่มขึ้นที่เมืองนี้เมื่อไม่ถึง 24 ชั่วโมงก่อน
- สื่อของทางการรัสเซียรายงานว่า พริโกซินจะเดินทางไปเบลารุส และการตั้งข้อกล่าวหา ‘กบฏ’ ต่อทหารรับจ้างจะถูกยกเลิกทั้งหมด ขณะที่ ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของเครมลิน แถลงยืนยันข่าวที่ว่าพริโกซินจะเดินทางไปยังเบลารุส พร้อมประกาศว่า ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครนจะดำเนินต่อไปโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง
อ้างอิง: