หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ ได้ฟ้องร้องเว็บเทรดสกุลเงินดิจิทัลยอดนิยมอย่าง Kraken โดยกล่าวหาว่าดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน นี่ถือเป็นการปราบปรามเว็บเทรดซื้อ-ขายดิจิทัลครั้งล่าสุดของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ได้ฟ้องร้อง Binance และ Coinbase เว็บเทรดชั้นนำของโลก ไปก่อนหน้านี้
หนึ่งในเว็บเทรดสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดของโลกอย่าง Kraken ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (ก.ล.ต.สหรัฐฯ) ฟ้องร้องเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (20 พฤศจิกายน) ก.ล.ต.สหรัฐฯ กล่าวหาว่า Kraken ดำเนินการอย่างผิดกฎหมายในฐานะบริษัทหลักทรัพย์ โดยไม่ได้ลงทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแลก่อน
การฟ้องร้องครั้งล่าสุดมาจากการผลักดันของประธาน ก.ล.ต.สหรัฐฯ Gary Gensler ที่ต้องการนำสกุลเงินดิจิทัลมาอยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจของหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งเขาโต้แย้งว่าสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสัญญาการลงทุนภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ โดยก่อนหน้านี้ ก.ล.ต.สหรัฐฯ ได้ฟ้องร้องบริษัทซื้อ-ขายคริปโตหลายแห่ง รวมถึง Binance เว็บเทรดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลกตามปริมาณการซื้อ-ขาย และ Coinbase เว็บเทรดคริปโตชั้นนำที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ
Kraken กล่าวว่า สภาคองเกรสควรตัดสินใจว่าจะกำกับดูแลแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลอย่างไร และโต้แย้งว่ามุมมองของคณะกรรมการ ก.ล.ต.สหรัฐฯ ที่มีต่อสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ถูกต้องในเรื่องของกฎหมาย และเป็นหายนะในแง่ของนโยบาย
ก.ล.ต.สหรัฐฯ กล่าวว่า Payward Inc. และ Payward Ventures Inc. ซึ่งดำเนินการในชื่อ Kraken มาตั้งแต่ปี 2018 สร้างรายได้หลายร้อยล้านดอลลาร์ในการให้บริการซื้อ-ขายคริปโต แต่กลับเมินเฉยต่อกฎหมายหลักทรัพย์ที่ออกมาเพื่อปกป้องนักลงทุน นอกจากนี้ Kraken ยังถูกกล่าวหาว่ามีการจัดการภายในบริษัทที่บกพร่อง และมีการเก็บบันทึกข้อมูลที่ไม่เพียงพออีกด้วย ในคดีฟ้องร้องนี้จะดำเนินต่อไป แต่ Kraken ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ซานฟรานซิสโก เปิดเผยว่า คดีนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อลูกค้ามากกว่า 10 ล้านราย
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น
อ้างอิง:
