* บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญในเรื่อง One Piece ถึงตอนล่าสุด
“ถ้าไม่ต้มให้ร้อนก็ไม่ใช่โอเด้ง”
ทันทีที่สิ้นเสียงตะโกนจนจบประโยคของประชาชน พร้อมกับชีวิต โคสึกิ โอเด้ง คุณชายเพี้ยนผู้ยิ่งใหญ่ที่เสียสละทุกอย่างเพื่อต่อสู้กับความ ‘อยุติธรรม’ จากจอมเผด็จการอย่าง คุโรซึมิ โอโรจิ และไคโด 1 ใน 4 จักรพรรดิ์โจรสลัดที่สัญญาว่าจะอยู่ในอาณาจักรวาโนะคุนิเพียง 5 ปี
ชีวิตของประชาชนในดินแดนสมมติจากการ์ตูนเรื่อง One Piece แห่งนี้ก็ถูกปกครองไปด้วยความหวาดกลัว ไม่มีปากเสียง หมดสิทธิ์ที่จะตรวจสอบการทำงานของไคโดและโอโรจิ เพราะคนที่กระด้างกระเดื่องแม้เพียงเล็กน้อยจะถูกสั่งประหาร หรือไม่ก็ถูกจับไปปรับทัศนคติในเหมืองหินทันที
จนเวลาล่วงเลยผ่านไปนานถึง 20 ปี ทั้งไคโดและโอโรโจก็ยังใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ปกครองประชาชนต่อไปด้วย โดยไม่มีการพูดถึงสิ่งที่เคยบอกว่าไว้ “เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน” อีกเลย
โคสึกิ โอเด้ง คือบุตรชายเพียงคนเดียวของ โคสึกิ สุกี้ยากี้ ผู้ปกครองวาโนะคุนิ ดินแดนที่ปิดประเทศตัดขาดจากโลกภายนอกด้วย ‘เหตุผล’ บางประการอย่างสงบสุขมาเป็นเวลาหลายชั่วอายุคน
ในวัยเด็กโอเด้งเติบโตมาด้วยวีรกรรมสุดโต่ง เขาเหวี่ยงพยาบาลกระเด็นจากห้องตั้งแต่อายุไม่ถึงขวบ, พอ 2 ขวบก็จับกระต่ายได้ด้วยมือเปล่า, 4 ขวบยกหินก้อนใหญ่ทุ่มใส่หมีจนเสียชีวิต, เริ่มออกเที่ยวราตรีตั้งแต่ 6 ขวบ, อายุไม่ถึง 10 ขวบมีเรื่องกับนักพนันและยากูซ่า, ถูกจับไปดัดนิสัยที่เหมืองหินเพราะจะฆ่าใครบางคนตั้งแต่ 10 ขวบ และพยายามหนีออกประเทศอย่างผิดกฎหมายเพื่อเรียนรู้โลกภายนอกมามากกว่า 38 ครั้ง
เมื่อเติบโตมากขึ้นจนอายุ 18 ปี แม้จะโดยไม่ตั้งใจ แต่โอเด้งก็เริ่มสร้างตำนานด้วยการจัดการ ‘เทพเจ้าภูเขา’ ที่ทำลายบ้านเมืองจนเสียหายหนัก เขาปกป้องความสงบสุขของวาโนะคุนิเอาไว้ได้ (ก่อนหน้านี้เคยเคลื่อนแม่น้ำเพื่อป้องกันภัยแล้งที่เมืองหลวง แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือเมืองหลวงต้องพบกับภัยน้ำท่วมแทน) จนเริ่มมีคนเคารพยกย่องและอยากติดตามเขามากขึ้น
โอเด้งยังพยายามเดินทางเพื่อเรียนรู้โลกกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ เขาช่วยเหลือเด็กกำพร้า, สิ่งมีชีวิตต่างสายพันธุ์, ดัดนิสัยปีศาจโรคจิตที่คอยตัดเส้นผมผู้คนไปทำเป็นแปรงพู่กัน, รับดูแลนินจาอกหัก, ปราบอันธพาลแห่งคุริ (เมืองหนึ่งในวาโนะคุนิ) และเปลี่ยนดินแดนแห่งซากศพให้กลายเป็นดินแดนแห่งความสงบสุขขึ้นมา แต่ทั้งหมดก็เป็นเพียงโลก ‘แคบๆ’ ในอาณาจักรปิดที่เขาเติบโตขึ้นมาเพียงเท่านั้น
กระทั่งวันหนึ่ง เรือของกลุ่มโจรสลัดหนวดขาวหลงมาเทียบท่า โอเด้งแอบหนีตามกลุ่มโจรสลัดหนวดขาวออกไปเผชิญโลกภายนอก เขาได้พบสภาพอากาศที่ไม่เคยพบ, ได้รู้ว่าโลกยังมีสิ่งมีชีวิตอีกมากมาย, รู้ว่ามีคนอาศัยอยู่บนท้องฟ้า, รู้ว่าโลกใบนี้เป็นทรงกลม และรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาและวาโนะคุนิเป็นเพียงเศษฝุ่นเล็กๆ ในโลกที่กว้างใหญ่นี้เพียงเท่านั้น
ต่อมาเขาตัดสินใจออกเรือไปกับกลุ่มโจรสลัดโกล ดี. โรเจอร์ ว่าที่เจ้าแห่งโจรสลัด ไปจนถึง ‘เกาะสุดท้าย’ ที่ทำให้เขาและเพื่อนพ้องได้รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลา 100 ปีแห่งความว่างเปล่าที่ ‘ใคร’ บางคนต้องการทำให้ ‘ความจริง’ บางอย่างหายไป
เมื่อสิ้นสุดการเดินทาง โอเด้งกลับมาที่วาโนะคุนิอีกครั้ง และได้พบความจริงอันแสนเศร้าที่ว่า บ้านเกิดที่เคยสงบสุขของเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ระหว่างที่เขาไม่อยู่ อำนาจการปกครองได้เปลี่ยนมือไปอยู่กับ คุโรซึมิ โอโรจิ อดีตเด็กรับใช้ในปราสาทที่เคยมีความแค้นกับตระกูลโคสึกิ ใช้เล่ห์เลี่ยมและการสนับสนุนจากโจรสลัดที่แข็งแกร่งอย่างไคโดขึ้นมา ‘รักษาการ’ ปกครองประเทศต่อจากสุกี้ยากี้
ระหว่างนั้นโอโรจิได้คิดการณ์ใหญ่ สะสมอำนาจและกองกำลัง ตั้งโรงงานผลิตอาวุธ บังคับให้ประชาชนไปทำงาน โดยให้ค่าตอบแทนต่ำเตี้ย แต่ไม่มีใครกล้าขัดขืน เพราะโอโรจิมีพันธมิตรเป็นโจรสลัดที่แข็งแกร่งอย่างไคโดหนุนหลังอยู่
ในวันที่โอเด้งกลับมาทวงตำแหน่งของเขาคืน โอโรจิในวันที่อำนาจล้นมือก็เปลี่ยนท่าทีและน้ำเสียงขึงขังน่ากลัว ไม่นุ่มนวลอ่อนหวานเหมือนตอนมาคุกเข่าขอยืมเงินจากโอเด้งในสมัยก่อน
โอโรจิใช้ประชาชนเป็นตัวประกัน ขู่ว่าถ้าโอเด้งต่อสู้จะเกิดความสูญเสียมากมาย และเริ่มแผนการ Information Operation (IO) เพื่อลดความน่าเชื่อถือของโอเด้ง โดยยื่นข้อเสนอให้ว่าจะไว้ชีวิตประชาชน 100 คน ทุกๆ ครั้งที่โอเด้งแก้ผ้าออกไปเต้นระบำที่หน้าปราสาท และให้ ‘สัญญา’ ว่าขอเวลาอีก 5 ปี โอโรจิและไคโดจะออกจากประเทศไปเมื่อเรือของพวกเขาสร้างเสร็จ
โอเด้งกัดฟันทำตามเงื่อนไขมาโดยตลอด เขาออกไปเต้นระบำจนความน่าเชื่อถือของบุตรชายโชกุนผู้ยิ่งใหญ่ค่อยๆ หายไป กลายเป็นเพียง ‘คุณชายเพี้ยน’ ที่ไร้สาระในสายตาประชาชนเท่านั้น
กระทั่ง 5 ปีผ่านไป โอเด้งรู้ความจริงว่าโอโรจิจะไม่ทำตามสัญญา เขาและสมาชิก ‘ปลอกดาบแดง’ ตัดสินใจหยิบดาบเพื่อหวังต่อสู้ตัดสินกับไคโดกับโอโรจิให้รู้ผล โอเด้งนั้นแข็งแกร่งมากจนสร้างบาดแผลให้กับไคโดได้ แต่สุดท้ายก็ถูกอุบายสกปรกหลอกล่อจนเสียสมาธิ จนเขาและผู้ติดตามพลาดท่าถูกจับตัดสินประหารชีวิตด้วยการ ‘ต้มทั้งเป็น’
เป็นอีกครั้งที่ชีวิตของโอเด้งถูกเล่นตลก ไคโดและโอโรจิสัญญาว่าถ้าทนได้ครบ 1 ชั่วโมงจะปล่อยให้รอดชีวิต โอเด้งยอมลงไปอยู่ท่ามกลางน้ำมันที่เดือดเพียงคนเดียว และแบกสมาชิกปลอกดาบแดงเอาไว้เหนือหัว
เขาทนอยู่ในนรกน้ำมันเดือดได้จนครบกำหนด แต่โอโรจิเปลี่ยนคำตัดสินให้ยิงประหารโอเด้งในนาทีสุดท้าย ใช้อำนาจและเล่ห์เหลี่ยมจัดการ ‘อนาคต’ ของชาววาโนะคุนิลงในที่สุด
โอเด้งจากโลกนี้ไปพร้อมกับรอยยิ้มสุดท้าย เพราะเขารู้ดีว่าการสิ้นสุดชีวิตของเขาไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ครั้งต่อไปที่สักวันหนึ่งจะต้องมีคนมาสานต่อภารกิจของเขาให้สำเร็จ
เรื่องราวในวาโนะคุนิของโอเด้งต้องใช้เวลา 20 ปีกว่าจะดำเนินมาถึงช่วงเวลาแห่งการตัดสิน
ส่วนเรื่องราวในอีกหนึ่งดินแดนสมมติสักแห่งใกล้ๆ นี้อาจจะต้องใช้เวลามากกว่า ‘10 ปี’ ตามคำตัดสิน หรือต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไรยังไม่มีใครให้คำตอบได้ในตอนนี้
แต่อย่างน้อยที่สุดการมี ‘คุโนะอิจิ’ หรือนินจาหญิงอย่าง ‘ชิโนบุ’ ที่ต่อสู้ร่วมกับโอเด้งมาตลอด ออกมาป่าวประกาศเรื่องราวบางอย่างที่ถูกรัฐบาลของโอโรจิปกปิดเอาไว้ให้ประชาชนรับทราบ ก็นับว่าเป็นสัญญาณที่ดี บอกให้เรารู้ว่าการตายของโอเด้งจะไม่สูญเปล่า แต่ประชาชนในวาโนะคุนิและดินแดนสมมติอื่นๆ ยังมีความหวังที่จะได้เห็นอนาคตใหม่อยู่เสมอ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า