นฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ชี้แจงว่า กกพ. มีมติไม่อนุมัติคำขอเพื่อรวมกิจการโดยการเข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ในบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW เนื่องจากส่งผลต่อการแข่งขันในการให้บริการพลังงาน ซึ่งขัดต่อเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 และต้องการสร้างบรรทัดฐานในการพิจารณาประเด็นเหล่านี้ในระยะยาว
กกพ. เห็นว่า GPSC เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเช่นเดียวกับ GLOW เมื่อพิจารณาแล้วพบว่าการรวมกิจการกันจะทำให้พื้นที่อุตสาหกรรมในบางพื้นที่มีบริษัทที่มีอำนาจการบริหารกิจการไฟฟ้าเพียงรายเดียว จึงเป็นการลดการแข่งขันแม้จะอยู่ในพื้นที่การให้บริการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ก็ตาม ขณะที่บางพื้นที่พบว่าการให้บริการของ กฟภ. ก็ไม่สามารถทดแทนการให้บริการของลูกค้ากลุ่ม GLOW อย่างกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีได้เนื่องจากเหตุผลด้านคุณภาพ และ กฟภ. ไม่สามารถให้อัตราส่วนลดกับผู้รับบริการได้ ส่งผลให้เกิดการลดการแข่งขันตามมา สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ กกพ. ได้แจ้งคำสั่งไม่อนุญาตไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งแจ้งสิทธิในการอุทธรณ์ตามระเบียบ และจัดทำกรอบหลักการในการพิจารณาเรื่องรวมกิจการตามแนวทางข้างต้นเพื่อใช้เป็นแนวปฏิบัติต่อไป
ล่าสุดทางผู้บริหารของ GPRC ให้ข้อมูลว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าบอร์ดบริหารเพื่อพิจารณาว่าจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ในวันที่ 18 ตุลาคมนี้ ซึ่งทาง ปตท. ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ให้อำนาจการตัดสินใจกับทาง GPRC เต็มที่
ก่อนหน้านี้มีความเคลื่อนไหวจากภาคการเมืองและเอกชนคัดค้านดีลดังกล่าว ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา กรณ์ จาติกวณิช ประธานกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนถึง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล ทำเนียบรัฐบาล ขอให้นายกฯ มีคำสั่งผ่าน ปตท. ให้ยกเลิกการเข้าซื้อ GLOW ของ GPRC ซึ่งทาง ปตท. เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เนื่องจากอาจเข้าข่ายลักษณะผูกขาดและขัดต่อกฎหมาย ซึ่งต่อมาทางผู้บริหารของ ปตท. ออกมายืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาผูกขาดและเป็นไปเพื่อความมั่นคงทางพลังงาน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: