ชื่อของ โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มปรากฏตามหน้าสื่อต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างมากในฐานะประธานบริหารของซัมมิท ฟุตแวร์ เจ้าของแบรนด์ Aerosoft ซึ่งเป็นผู้ซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลยูโร 2020 เข้ามาถ่ายทอดในประเทศไทย ทำให้คนไทยได้มีโอกาสรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลรายการดังกล่าว
นอกจากบทบาทในฐานะเจ้าของธุรกิจแล้ว ชื่อของ โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ยังปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยครั้งในแวดวงตลาดทุน โดยเฉพาะกับการลงทุนในบรรดาหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กที่ราคาหุ้นมักจะปรับตัวขึ้นลงค่อนข้างหวือหวา
ปัจจุบันพอร์ตการลงทุนของโกมลมีมูลค่ารวมประมาณ 2.7 พันล้านบาท จากการถือหุ้น 6 บริษัท ได้แก่ APURE 1.38 พันล้านบาท, AIRA 626 ล้านบาท, GRAMMY 347 ล้านบาท, BWG 201 ล้านบาท, U และ U-P รวมกัน 166 ล้านบาท และ ETC 41 ล้านบาท
สำหรับ APURE เรียกได้ว่าเป็นหุ้นหลักในพอร์ตของโกมล ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ในสัดส่วน 33.05% ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 คือคนในตระกูลเดียวกันอย่าง สุเรศพล จึงรุ่งเรืองกิจ
ขณะที่ BWG รวมถึงบริษัทลูกอย่าง ETC ที่เพิ่งเข้าจดทะเบียนเมื่อปลายปี 2563 เป็นอีก 2 หุ้นที่โกมลถือครองในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 โดยโกมลกลับเข้ามาถือหุ้น BWG ในสัดส่วนเกิน 0.5% อีกครั้งตั้งแต่ปี 2561 ก่อนจะขยับขึ้นมาถือเพิ่มเป็นสัดส่วน 5.84% ในปีนี้
ส่วนการถือครองหุ้นตัวอื่นๆ จะเห็นว่าสไตล์การลงทุนของโกมลมีผสมผสานทั้งการถือลงทุนระยะยาวในระดับ 4-5 ปีขึ้นไป อย่างเช่น GRAMMY, CEN, ICHI ซึ่งเข้ามาถือตั้งแต่ปี 2558 หรือจะเป็นเพียงแค่การเข้ามาเก็งกำไรแค่ 1-2 ปี เช่น AKP, EFORL, GEL, MILL, PRINC หรือ WORK ก็มีทั้งนั้น แต่สิ่งที่แทบจะไม่เปลี่ยนไปคือ หุ้นที่โกมลเน้นเข้าไปถือจะเป็นหุ้นขนาดกลางหรือเล็ก ซึ่งมีมาร์เก็ตแคปประมาณ 5,000-10,000 ล้านบาทเป็นส่วนใหญ่
ภาพประกอบ: พรวลี จ้วงพุฒซา