เจอร์เกน คล็อปป์ พอใจหลังจากลิเวอร์พูลสามารถบุกเอาชนะคู่ปรับที่หินที่สุดอย่างแอตเลติโก มาดริดได้ถึงถิ่นว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน 3-2 ในเกมสุดระทึกที่มีครบทุกรสชาติ และยืนยันการที่ ดิเอโก ซิเมโอเน กุนซือคู่แข่งไม่ยอมจับมือหลังจบเกมตามธรรมเนียมไม่ใช่เรื่องใหญ่
ลิเวอร์พูลบุกไปพบกับแชมป์ลาลีกา และเริ่มต้นได้อย่างสวยงามด้วยการทำประตูออกนำไปก่อนถึง 2 ลูกในเวลาแค่ 13 นาทีจาก โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ซึ่งยิงประตู 9 นัดติดต่อกันทุกรายการ และ นาบี เกอิตา แต่หลังจากนั้นแอตเลติโก มาดริด สามารถกลับมาตีเสมอเป็น 2-2 ได้จาก 2 ประตูของ อองตวน กรีซมันน์ ทำให้จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 2-2
แต่ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนของเกมเสียเอง เมื่อโดนใบแดงจากจังหวะยกเท้าสูงใส่ โรแบร์โต เฟียร์มิโน ทำให้ทีมเสียเปรียบเรื่องจำนวนตัวผู้เล่นสุดท้ายลิเวอร์พูลมาได้ประตูนำอีกครั้งเป็น 3-2 จากซาลาห์คนเดิม ขณะที่แอตเลติโก มาดริด ได้จุดโทษเช่นกันเมื่อ ดีโอโก โชตา ทำฟาวล์ โฮเซ มาเรีย คิเมเนซ แต่ VAR เช็กแล้วไม่ให้จุดโทษ
“เป็นเกมที่ยากลำบากเหมือนที่เราคาดไว้” คล็อปป์กล่าวหลังจบเกม “เราทำได้ดีอย่างน่าประหลาดใจในช่วงต้นเกม เราคาดหวังว่าจะเปิดฉากบุกแบบนั้นหรือเปล่า ก็ไม่เชิง มันไม่ง่ายแบบนั้น เราทำ 2 ประตูที่สวยงามและเล่นกันได้ดี
“เรานำ 2-0 โดยแอตเลติโกก็ดูไม่ได้ใส่ใจเรื่องการครองบอลนัก แต่เราก็เสียประตูแรกและประตูที่สอง พวกเขาเล่นกันได้ดี แต่ช่องว่างที่เราเปิดให้พวกเขานั้นมันไม่ถูกต้อง
“ช่วงพักครึ่งผมคิดว่าทุกคนในสนามคงคิดว่ามันน่าจะเป็นเกมข้างเดียว แต่เราคิดว่าเราน่าจะลองลุยกันดูอีกสักครั้ง เราเล่นกันได้แข็งแกร่งมากในครึ่งหลังในเกมที่ยากและตึงเครียดสำหรับทั้งสองทีม
“การได้ 3 คะแนนแบบไม่สวยงามเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และพวกเขาก็เล่นกันสกปรกในคืนนี้ สำหรับเราอาจจะไม่ใช่วันที่เราเล่นกันได้ดีที่สุดแต่เป็นก้าวที่สำคัญมาก”
คล็อปป์ยังกล่าวถึงใบแดงและลูกจุดโทษว่า “ผมเข้าใจว่าคนของแอตเลติโก หรือชาวสเปนอาจจะไม่พอใจกับการตัดสินในบางจังหวะ แต่ผมคิดว่าจุดโทษที่เราได้นั้นชัดเจน และจุดโทษสำหรับพวกเขาก็ไม่ใช่จุดโทษ แต่ผมประหลาดใจเล็กน้อยที่พวกเขาเอามันกลับมา ส่วนใบแดงเป็นความโชคร้ายแน่นอน แต่ผมคิดว่ามันเป็นใบแดง เพราะเท้าเขาอยู่ที่หน้า”
สำหรับกรณีที่ซิเมโอเน วิ่งกลับเข้าห้องแต่งตัวทันทีหลังจบเกมโดยไม่ยอมจับมือคล็อปป์ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ “ปฏิกิริยาของเขาก็เหมือนกับผม (ตอนที่แอตเลติโกบุกเขี่ยลิเวอร์พูลตกรอบที่แอนฟิลด์ในปี 2020) มันก็ไม่ดี แต่เขาดูโกรธชัดเจน ไม่ได้โกรธผมแต่โกรธผลการแข่ง โกรธทุกอย่างบนโลก”
ด้านซิเมโอเนกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ปกติผมก็ไม่ค่อยทักทายกันหลังจบเกมอยู่แล้ว ผมไม่ชอบเรื่องพวกนี้ และไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องดี เพราะมันจะต้องมีคนที่ไม่พอใจกับผลการแข่งเสมอ พวกเขามีวัฒนธรรมที่แตกต่างไป ซึ่งผมไม่คิดอยากจะรับมา”
ยอดกุนซือทั้งสองยืนยันว่าจะจับมือกันก่อนเกมที่แอนฟิลด์ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าอย่างแน่นอน
อ้างอิง: