วันนี้ (23 พฤษภาคม) กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงจุดยืนการโหวตนายกรัฐมนตรี ว่าคำไหนคำนั้น โดยเหตุผลที่ไม่เลือก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล เพราะมีการแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งตรงนี้จะทำให้เกิดความขัดแย้ง และนำมาซึ่งการทะเลาะเบาะแว้งและเข่นฆ่าคนไทยด้วยกัน จึงไม่เห็นสมควรที่จะให้พิธาเป็นนายกรัฐมนตรี
กิตติศักดิ์กล่าวถึงกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ทราบเบื้องต้นว่ากลุ่มที่มาชุมนุมวันนี้มาด้วยมิตรไมตรี เจตนาเพื่อมาแจ้งให้ ส.ว. รับทราบว่าต้องการอะไร ตนเห็นว่าเป็นสีสันของประชาธิปไตยในการที่เห็นต่างหรือผู้ที่มาประท้วง ซึ่งไม่ใช่ปัญหา โดยตนเห็นว่าถ้าหากมีการพูดจากันดีๆ ก็ไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าจะมาข่มขู่กดดันนั้นไม่มีผล
ส่วนที่พรรคก้าวไกลพยายามชี้แจงเกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 หลายช่องทาง จะไม่เป็นผลในการตัดสินใจเรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรีเลยหรือไม่ กิตติศักดิ์กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าเป็นการชี้เจตนาที่พิธาและพรรคก้าวไกลไปยุ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นทูตอเมริกามายุ่งเกี่ยวก้าวก่ายหรือเร่งรัดการเลือกตั้งของไทย ซึ่งโดยกติกามารยาทระหว่างประเทศไม่ควรทำอย่างยิ่ง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ที่ไม่ได้ใส่ลงไปใน MOU ก็ยังรับไม่ได้ใช่หรือไม่ กิตติศักดิ์กล่าวว่า แล้วมีความจำเป็นอย่างไร ตนฟังในการแถลง MOU เมื่อวานนี้ พิธายืนยันแม้ไม่ได้อยู่ใน MOU แต่จะยื่นเสนอเข้ามาในสภา ซึ่งตนเห็นว่า เป็นปัญหาของพิธาและพรรคก้าวไกล เพราะไปหาเสียง ดังนั้นไม่ทำก็ไม่ได้ ไม่แก้ก็ไม่ได้ เดี๋ยวไม่แก้ เดี๋ยวไม่มีกู เพราะฉะนั้นสร้างปัญหาเองก็ต้องไปแก้ปัญหาเอง เราเป็นฝ่ายนิติบัญญัติก็ต้องกลั่นกรอง ฉะนั้นเราต้องพิจารณาคนที่มานำพวกเรา ส่วนตัวยืนยันล้านเปอร์เซ็นต์ กิตติศักดิ์ไม่โหวตให้นายพิธา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มาตรา 112 ไม่ได้ระบุใน MOU และอาจไม่ผ่านในสภาก็ได้ จะนำมาพิจารณาในการตัดสินใจโหวตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ กิตติศักดิ์กล่าวว่า ตนมีหลักว่าการเมืองให้อยู่ในการเมือง
“คุณจะด่าใคร ด่าลุงด่าป้าด่าน้าด่าอา ผมไม่ว่า แต่ถ้าเลยขอบเขตไปแตะเบื้องสูง กิตติศักดิ์ไม่ยอมครับ” กิตติศักดิ์กล่าว
ส่วนจะมี ส.ว. หลายคนหรือไม่ที่คิดแบบนี้ กิตติศักดิ์กล่าวว่า ตอนนี้ ส.ว. แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือสนับสนุนพิธาตามระบบกลไกของประชาธิปไตย อีกกลุ่มคืองดออกเสียง ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มวัดได้ว่างดออกเสียงมากกว่า พร้อมปฏิเสธบอกจำนวนตัวเลขกลุ่มที่งดออกเสียงเกิน 150 เสียง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มที่ไม่โหวตให้กับพิธามีจำนวนเท่าไร กิตติศักดิ์กล่าวว่าไม่มี เมื่อก่อนนี้จะมีเห็นชอบ ไม่เห็นชอบ และงดออกเสียง แต่ปัจจุบันเหลือแค่สนับสนุนพิธาและงดออกเสียง พร้อมย้ำว่าส่วนตัวไม่สนับสนุน ฉะนั้นก็คือไม่เห็นชอบเพียงคนเดียว ส่วนจะมีคนอื่นตามหรือไม่ ไม่ทราบ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่กลัวสังคมกดดันใช่หรือไม่ กิตติศักดิ์ระบุว่า สักวันหนึ่งกิตติศักดิ์จากโลกนี้ไปแล้ว ลูกหลานอาจจะนึกถึงก็ได้ว่ากิตติศักดิ์ตัดสินใจถูก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วกลุ่มชาวนาเห็นด้วยกับกิตติศักดิ์หรือไม่ กิตติศักดิ์กล่าวว่า ไม่บังอาจไปคิด แต่คนที่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่เอาด้วยอย่างแน่นอน จะเห็นว่าการสนับสนุนให้กำลังใจตนมาจากทั่วประเทศ แต่ตนบอกว่าเราคนไทยด้วยกันไม่ควรทะเลาะฆ่ากันเอง เพราะฉะนั้นตนไม่สนับสนุนให้มีม็อบ
กิตติศักดิ์ยังได้กล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกลได้ส่งคณะเจรจามาพูดคุยหรือไม่ว่า ส่วนตัวไม่มีใครมาพูดคุยเจรจากับตนเอง อาจจะเป็นเพราะตนเป็น ส.ว. ตัวเล็กๆ คนหนึ่ง แต่จะคุยกับ ส.ว. ผู้ใหญ่หรือไม่ก็ไม่ทราบ และในวันนี้ก็ไม่ได้มีการพูดคุยกันนอกรอบในกลุ่มของ ส.ว. แต่อย่างใด