วันนี้ (22 สิงหาคม) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวผลการระดมกวาดล้างจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ พบยาบ้ากว่า 4 ล้านเม็ด และของกลางอีกหลายรายการ
พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ กล่าวยืนยันว่า การเดินสายแถลงจับยาเสพติดในช่วงนี้ไม่ได้ต้องการเร่งสร้างผลงานเพื่อหวังตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนใหม่ แต่เนื่องจากตนรับผิดชอบงานด้านป้องกันปราบปราม และได้รับมอบหมายเป็นศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ
ซึ่งปัญหายาเสพติดเป็นภัยคุกคามและทำให้ประชาชนหวั่นวิตก เพราะเป็นผลกระทบทำให้เกิดคนคลุ้มคลั่งทำร้ายผู้บริสุทธิ์ และนำมาเสพแพร่หลาย จึงเป็นหน้าที่ของตนที่ต้องเดินหน้าปราบปรามตามปกติ ไม่ได้คิดถึงการสร้างผลงานหรือแถลงเอาผลงานอะไรใดๆ ทั้งสิ้น แต่มีความต้องการเพียงอย่างเดียวคือต้องการทำงาน มีความสุขกับการทำงาน ก็เพียงพอแล้ว
พร้อมยืนยันว่า ไม่เคยตั้งเป้าเรื่องการพิจารณาตำแหน่ง ผบ.ตร. แค่คาดคิดยังไม่เคยคาดเลย ตนได้ทำงานและเติบโตมาถึงวันนี้ ได้ดูแลตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาและประชาชน ก็มีความสุขแล้ว และเมื่อได้รับมอบหมายหน้าที่อะไรก็จะทำอย่างเต็มกำลังความสามารถ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำเพื่อตั้งความหวัง ตั้งเป้า หรือความทะเยอทะยานใดๆ ทั้งสิ้น
ส่วนการพิจารณาตำแหน่ง ผบ.ตร. คนใหม่ที่จะเกิดขึ้น เป็นเรื่องผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ในการเสนอรายชื่อต่อที่ประชุม นั่นคือนายกรัฐมนตรี และรอง ผบ.ตร. ที่เป็นแคนดิเดตทุกคน ตนเองมั่นใจว่าทำงานหนักไม่แพ้กัน เพราะทุกคนต่างก็มีหน้าที่ การพิจารณาขึ้นอยู่กับนายกฯ และที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ว่าจะมีความคิดเห็นหรือมติอย่างไร เป็นเรื่องของอนาคต
พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ กล่าวต่อว่า ยอมรับว่าตนเองถูกรัฐบาลซึ่งนำโดย แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เรียกไปพบ เพื่อมอบนโยบายแนวทางการขับเคลื่อนเรื่องยาเสพติดเรื่องเดียว แต่ไม่ได้ทาบทามเรื่องเก้าอี้ ผบ.ตร. แต่อย่างใด ซึ่งส่วนตัวคิดว่ารัฐบาลใหม่ที่เข้ามาบริหารประเทศเน้นหนักเรื่องการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และรูปแบบการป้องกันการเสพยาเสพติดในปัจจุบันก็เน้นไปที่นำตัวผู้เสพไปบำบัดรักษา และคนคลุ้มคลั่งออกมาอาละวาดทำร้ายประชาชน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่จะต้องเร่งหาตัวและนำเข้าบำบัดโดยเร็ว
ส่วนตัวรอฟังการแถลงนโยบายจากรัฐบาลใหม่ว่าจะมีนโยบายใดที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ต้องดำเนินการขับเคลื่อน ระหว่างนี้ยืนยันว่าไม่มีสุญญากาศ และตำรวจยังเดินหน้าทำงานต่อไปตามที่ เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ได้วางนโยบายและแนวทางปฏิบัติไว้ ส่วนตัวรับผิดชอบเรื่องยาเสพติด บ่อนการพนัน การกู้เงินนอกระบบ และแก๊งทวงหนี้ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องรับผิดชอบและเดินหน้าแก้ไขปัญหา ส่วนรอง ผบ.ตร. คนอื่นๆ ก็รับผิดชอบตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
เมื่อถามย้ำว่า ที่เข้าไปพบเป็น ทักษิณ ชินวัตร หรือแพทองธาร พล.ต.อ. กิตติ์รัฐกล่าวว่า เป็นการเข้าไปพบแพทองธาร ไม่ได้พบทักษิณ เมื่อถามต่อว่า จะขอคำแนะนำจากทักษิณเกี่ยวกับการปราบปรามยาเสพติดหรือไม่ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐระบุว่า เชื่อว่าผู้บริหารบ้านเมืองทุกคนเห็นความสำคัญและมุ่งมั่นที่จะปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง ไม่ว่าท่านใดก็ตาม
พร้อมยืนยันว่า ตนมั่นใจและทำงานร่วมกับรัฐบาลชุดใหม่ตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ทำอย่างเต็มความสามารถ ไม่ต้องไปคาดหวัง แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว พร้อมย้ำว่า เข้าไปพบและคุยเรื่องยาเสพติดเรื่องเดียว 100% ไม่มีการทาบทามเรื่องตำแหน่ง เพราะในวันที่เข้าไปก็มีฝ่ายอื่นๆ เข้าไปเพื่อรับฟังการขับเคลื่อนนโยบายและแนวทางการปฏิบัติ โดยตนใช้เวลาเข้าพบไม่เกิน 20 นาทีก็ออกมาแล้ว
ต่อคำถามที่ว่า พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้เข้าไปพบหรือไม่ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐตอบว่า ตนไม่ทราบ เพราะตนเข้าไปพบในฐานะผู้รับผิดชอบเรื่องงานยาเสพติด เชื่อว่าผู้บริหารรู้อยู่แล้วว่าเจาะจงให้ผู้ปฏิบัติงานเข้าไปพบ และในวันดังกล่าวตนก็ไปคนเดียว