เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย 2 ครั้งซ้อนในเมืองโจโล จังหวัดซูลู ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ช่วงเที่ยงวันนี้ (24 สิงหาคม) ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 11.00 น. ตามเวลาไทย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 10 ราย และบาดเจ็บอีกหลายราย
โดยทางการฟิลิปปินส์เปิดเผยรายละเอียดพบว่า เหตุระเบิดครั้งแรกเกิดขึ้นหลังมือระเบิดขี่รถจักรยานยนต์ที่ซุกซ่อนระเบิดแสวงเครื่องไว้ เข้าไปใกล้กับรถบรรทุกของกองทัพ ก่อนจะกดระเบิด ส่งผลให้ทหาร 5 นายและพลเรือน 4 คนเสียชีวิต
หลังจากนั้นในระหว่างที่ทางการเข้าปิดล้อมพื้นที่ มือระเบิดรายที่ 2 ซึ่งเป็นหญิง ได้กดระเบิดฆ่าตัวตาย ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 1 ราย ซึ่งนอกจากนี้พบว่ามีทหารอย่างน้อย 17 นายได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดทั้ง 2 ครั้ง
ทั้งนี้ภาพที่เผยแพร่จากสื่อท้องถิ่นและโซเชียลมีเดีย แสดงให้เห็นแรงระเบิดที่ก่อความเสียหายเป็นวงกว้าง และมีร่างผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บหลายคนนอนเกลื่อนบนถนน
สำหรับเหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุระเบิดฆ่าตัวตายครั้งที่ 4 ที่เกิดขึ้นในฟิลิปปินส์ โดยจุดที่เกิดระเบิดครั้งนี้อยู่ไม่ไกลจากจุดที่เคยเกิดระเบิดรุนแรงในโบสถ์คริสต์คาทอลิกภายในเมืองโจโล เมื่อต้นปี 2019 ซึ่งครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตกว่า 20 ราย
ด้าน พลตำรวจเอก อาร์ชี ฟรานซิสโก แกมโบอา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ ออกแถลงการณ์ภายหลังเกิดเหตุระบุว่า ได้สั่งการให้เร่งสืบสวนหาตัวผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นแล้ว พร้อมยืนยันว่าผู้ก่อเหตุทุกคนจะต้องรับผิดชอบ
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นยังไม่มีกลุ่มติดอาวุธหรือกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ ขณะที่จังหวัดซูลูนั้นถือเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มอาบูไซยาฟ ซึ่งเป็นกลุ่มแบ่งแยกดินแดนชาวมุสลิมที่เคลื่อนไหวก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ของฟิลิปปินส์
ภาพ: AFP
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: