วันนี้ (6 ตุลาคม) ที่ กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กุสุมาลวตี ศิริโกมุท เข้าพบคณะพนักงานสืบสวนคดีที่ดินเขากระโดง ตามเรื่องสืบสวนที่ 97/2568 เพื่อให้ปากคำในฐานะพยานเพิ่มเติม พร้อมนำเอกสารประกอบจำนวนมากที่ได้รับจาก DSI มาใช้ประกอบการชี้แจง
ก่อนเข้าพบพนักงานสืบสวน กุสุมาลวตี เปิดเผยว่า การเข้าให้ปากคำครั้งนี้เป็นเพราะตนต้องการให้ DSI รับคดีที่ดินเขากระโดงเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเห็นชัดเจนว่าเป็นการบุกรุกที่ดินสาธารณะ
“สิ่งที่ตนได้ศึกษาคือกรณีของคำพิพากษา ศาลฎีกา ซึ่งมีคู่กรณี 35 ราย ยื่นฟ้องการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) รวมถึงคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ภาค 3 และศาลปกครองกลาง ก็ยืนยันชัดเจนว่าเป็น ที่ดินของการรถไฟฯ 100% พอได้ศึกษาก็มีกำลังใจว่ามีการกระทำผิดอย่างแน่นอน” กุสุมาลวตีกล่าว
กุสุมาลวตี ยืนยันว่า ปัจจุบันมีที่ดินที่มีความผิดชัดเจนแล้วอย่างน้อย 4 แปลง ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลในตระกูลดัง โดยเฉพาะที่ดินที่ปรากฏชื่อของ กรุณา ชิดชอบ ซึ่ง ป.ป.ช. ได้ชี้มูลไปแล้ว
นอกจากนี้ กุสุมาลวตี ยังแสดงความกังวลต่อการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม หลังมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลและ รมว.ยุติธรรมคนใหม่ ซึ่งอาจทำให้การทำงานของ DSI ล่าช้า โดยเธอระบุว่า DSI ควรเร่งรัดชงเรื่องเป็นคดีพิเศษและต้องให้จบภายใน 1 เดือน
กุสุมาลวตี ยังเรียกร้องให้ รฟท. ดำเนินการบังคับคดีทันที โดยไม่จำเป็นต้องฟ้องร้องใครให้เสียเวลา เพราะคำพิพากษาศาลฎีกามีความชัดเจนอยู่แล้ว และให้เอาที่ดินหลวงกลับมาเป็นที่สาธารณะของการรถไฟฯ
ในประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง กุสุมาลวตี ระบุว่า ตนมีเอกสารที่ชัดเจนเกี่ยวกับคดี ฮั้ว ส.ว. ที่จะนำไปร้องต่อ ป.ป.ช. ในมาตรา 157 ต่อเจ้าหน้าที่ กกต. ที่ไม่ดำเนินการใดๆ และยืนยันว่าจะสู้ในทุกคดี ทั้งเรื่องที่ดินเขากระโดง, คดีฮั้ว ส.ว., และเรื่อง รันเวย์เถื่อน จนกว่าจะมีผู้รับผิดจากการกระทำ