วันนี้ (15 ตุลาคม) ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภานัดพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่เสนอโดย 3 พรรคการเมือง ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ขัตติยา สวัสดิผล สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายยืนยันความจริงใจของพรรคในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 โดยระบุว่า พรรคเพื่อไทยคือหนึ่งในพรรคที่ได้รับผลกระทบจากรัฐธรรมนูญนี้มากที่สุด ทั้งจากนายกรัฐมนตรีที่มาจากประชาชนต้องพ้นจากตำแหน่งถึง 2 คน และนโยบายเพื่อประชาชนหลายอย่างถูกขัดขวาง
ขัตติยาระบุว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นฉบับที่มาจากการรัฐประหารและปิดปากประชาชน ทำให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอ่อนแอ แต่ในทางกลับกันองค์กรอิสระที่ไม่ได้มาจากประชาชนกลับมีอำนาจแข็งแกร่งกว่า และเป็นเครื่องมือในการถ่วงความเจริญของประเทศ
ขัตติยาย้ำว่า นี่เป็นโอกาสสำคัญที่สุดในรอบหลายปี เพราะเป็นครั้งแรกที่ 3 พรรคการเมืองใหญ่ ได้แก่ พรรคเพื่อไทย, พรรคประชาชน, และพรรคภูมิใจไทย เห็นตรงกันว่าถึงเวลาต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยแล้วว่าสามารถจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ได้
ในส่วนของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่นำเสนอโดยทั้ง 3 พรรค ขัตติยาระบุว่า พรรคเพื่อไทยจะโหวตรับทั้ง 3 ร่าง เพื่อนำไปพิจารณาร่วมกัน โดยได้อภิปรายเปรียบเทียบข้อดีของร่างพรรคตนเองกับร่างของพรรคอื่น
สำหรับร่างของพรรคภูมิใจไทย มีข้อกังวลเรื่องที่มาของ สสร. ที่เชื่อมโยงกับประชาชนน้อยที่สุด โดยให้รัฐสภาเป็นผู้คัดเลือกทั้งหมด ซึ่งอาจนำไปสู่การได้มาซึ่ง “สสร. สีน้ำเงิน” หรือ “สสร. ตามใบสั่ง” และกระบวนการยกร่างมีความซับซ้อนและยืดเยื้อเกินความจำเป็น สะท้อนถึงความไม่จริงใจ
ส่วนร่างของพรรคประชาชน แม้จะมีเจตนารมณ์ที่ดีในการให้ประชาชนมีส่วนร่วมเลือก สสร. และสภาที่ปรึกษา แต่มีข้อกังวลในทางปฏิบัติว่าสภาที่ปรึกษาฯ อาจเป็นเพียงสภาเชิงสัญลักษณ์ที่ไม่มีอำนาจผูกพันต่อการยกร่างจริง และผู้ยกร่างส่วนใหญ่จะเป็นอดีตข้าราชการและนักกฎหมายที่อาจมีมุมมองแบบเดิม
ขัตติยาระบุว่า ร่างของพรรคเพื่อไทย มีความเหมาะสมที่สุด เพราะให้ประชาชนมีส่วนร่วมเสนอชื่อบุคคลให้รัฐสภาเลือกเป็น สสร. จำนวน 100 คน จากทั้งหมด 150 คน เพื่อให้เกิดความยึดโยงกับประชาชนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญร่วมยกร่าง มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศที่โปร่งใส และสุดท้ายจะต้องผ่านการทำประชามติจากประชาชนก่อนประกาศใช้ เพื่อยืนยันว่าเป็นรัฐธรรมนูญของประชาชนอย่างแท้จริง
ขัตติยายังย้ำจุดยืนของพรรคเพื่อไทยว่าไม่ได้มีความประสงค์จะแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 อยู่แล้ว และเห็นว่ามาตรา 255 ในรัฐธรรมนูญปัจจุบันที่ห้ามแก้ไขในประเด็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองก็เพียงพออยู่แล้ว พร้อมทั้งกล่าวทิ้งท้ายว่า “เรากำลังผลักดันการแก้ไขครั้งนี้เพื่อคนไทยทุกคน” ให้เสียงของประชาชนกลับมามีความหมายอีกครั้ง
